ขุนช้างขุนแผน
ขุนช้างขุนแผน เป็นนิยายพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ภายหลังกลายเป็นวรรณคดีที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้รัตนกวีในสมัยของพระองค์ร่วมกันแต่งขึ้นเป็นร้อยกรอง ใช้กลอนสุภาพเพื่อขับเสภา เรียกว่า กลอนเสภา เชื่อว่ามีเค้าโครงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เรื่องย่อ
ณ เมืองสุพรรณบุรี กล่าวถึงครอบครัวสามครอบครัว คือ ครอบครัวของขุนไกรพลพ่ายรับราชการทหาร มีภรรยาชื่อ นางทองประศรี มีลูกชายด้วยกันชื่อ พลายแก้ว ครอบครัวของขุนศรีวิชัย เศรษฐีใหญ่ของเมืองสุพรรณบุรี รับราชการเป็นนายกองกรมช้างนอก ภรรยาชื่อ นางเทพทอง มีลูกชายชื่อ ขุนช้าง ซึ่งหัวล้านมาแต่กำเนิด และครอบครัวของพันศรโยธา เป็นพ่อค้า ภรรยาชื่อ ศรีประจัน มีลูกสาวรูปร่างหน้าตางดงามชื่อ นางพิมพิลาไลย วันหนึ่งสมเด็จพระพันวษา มีความประสงค์จะล่าควายป่า จึงสั่งให้ขุนไกรปลูกพลับพลาและต้อนควายเตรียมไว้ แต่ควายป่าเหล่านั้นแตกตื่นไม่ยอมเข้าคอก ขุนไกรจึงใช้หอกแทงควายตายไปมากมาย ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป สมเด็จพระพันวษาโกรธมากสั่งให้ประหารชีวิตขุนไกรเสีย นางทองประศรีรู้ข่าวรีบพาพลายแก้วหนีไปอยู่ที่เมืองกาญจนบุรี ทางเมืองสุพรรณบุรี มีพวกโจรจันศรขึ้นปล้นบ้านของขุนศรีวิชัยและฆ่าขุนศรีวิชัยตาย ส่วนพันศรโยธาเดินทางไปค้าขายต่างเมือง พอกลับมาถึงบ้านก็เป็นไข้ป่าตาย เมื่อพลายแก้วอายุได้ ๑๕ ปี ก็บวชเณรเรียนวิชาอยู่ที่วัดส้มใหญ่ แล้วย้ายไปเรียนต่อที่วัดป่าเลไลย ต่อมาที่วัดป่าเลไลยจัดให้มีเทศน์มหาชาติ เณรพลายแก้วเทศน์กัณฑ์มัทรี ซึ่งนางพิมพิลาไลยเป็นเจ้าของกัณฑ์เทศน์ นางพิมเลื่อมใสมากจนเปลื้องผ้าสไบบูชากัณฑ์เทศ์ ขุนช้างเห็นเช่นนั้นก็เปลื้องผ้าห่มของตนวางเคียงกับผ้าสไบของนางพิม อธิฐานขอให้ได้นางเป็นภรรยา ทำให้นางพิมโกรธ ต่อมาเณรพลายแก้วก็สึกแล้วให้นางทองประศรีมาสู่ขอนางพิมและแต่งงานกัน ทางกรุงศรีอยุธยาได้ข่าวว่ากองทัพเชียงใหม่ตีได้เมืองเชียงทอง ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระพันวษาถามหาเชื้อสายของขุนไกร ขุนช้างซึ่งเข้าไปรับราชการอยู่จึงเล่าเรื่องราวความเก่งกล้าสามาราถของพลายแก้ว เพื่อหวังจะพรากพลายแก้วไปให้ห่างไกลนางพิม สมเด็จพระพันวษาจึงให้ไปตามตัวมาแล้วแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพไปรบกับเมืองเชียงใหม่และได้ชัยชนะ นายบ้านแสนคำแมนแห่งหมู่บ้านจอมทอง เห็นว่าพลายแก้วกับพวกทหารไม่ได้เบียดเบียนให้ชาวบ้านเดือดร้อนจึงยกนางลาวทองลูกสาวของตนให้เป็นภรรยาของพลายแก้ว ส่วนนางพิมพิลาไลย เมื่อสามีจากไปทัพได้ไม่นานก็ป่วยหนักรักษาเท่าไรก็ไม่หาย ขรัวตาจูวัดป่าเลไลยแนะนำให้เปลี่ยนชื่อเป็นวันทอง อาการไข้จึงหาย ขุนช้างทำอุบายนำหม้อใหม่ใส่กระดูกไปให้นางศรีประจันกับนางวันทองดูว่าพลายแก้วตายแล้วและขู่ว่านางวันทองจะต้องถูกคุมตัวไว้เป็นม่ายหลวงตามกฎหมาย นางวันทองไม่เชื่อ แต่นางศรีประจันคิดว่าจริง ประกอบกับเห็นว่าขุนช้างเป็นเศรษฐีจึงบังคับให้นางวันทองแต่งงานกับขุนช้าง นางวันทองจำต้องตามใจแม่แต่นางไม่ยอมเข้าหอ ขณะนั้นพลายแก้วกลับมาถึงกรุงศรีอยุธยาและได้บรรดาศักดิ์เป็นแผนแสนสะท้าน จากนั้นก็พานางลาวทองกลับสุพรรณบุรีนางวันทองเห็นขุนแผนพาภรรยาใหม่มาด้วยก็โกรธด่าทอโต้ตอบกับนางลาวทองและลืมตัวพูดก้าวร้าวขุนแผน ทำให้ขุนแผนโมโหพานางลาวทองไปอยู่ที่กาญจนบุรี ส่วนนางวันทองและลืมตัวพูดก้าวร้าวขุนแผน ทำให้ขุนแผนโมโหพานางลาวทองไปอยู่ที่กาญจนบุรี ส่วนนางวันทองก็ตกเป็นภรรยาของขุนช้างอย่างจำใจ ต่อมาขุนช้างและขุนแผนเข้าไปรับราชการอบรมในวังและได้มหาดเล็กเวรทั้งสองคน วันหนึ่งนางทองประศรีให้คนมาส่งข่าวว่า นางลาวทองป่วยหนัก ขุนแผนจึงฝากเวรไว้กับขุนช้างแล้วไปดูอาการของนางลาวทอง ตอนเช้าสมเด็จพระพันวษาถามถึงขุนแผน ขุนช้างบอกว่าขุนแผนปีนกำแพงวังหนีไปหาดภรรยา สมเด็จพระพันวษาโกรธจึงสั่งให้นำตัวนางลาวทองมากักไว้ในวัง ส่วนขุนแผนให้ไปตระเวนด่านห้ามเข้าวังอีกทำให้ขุนแผนแค้นขุนช้างมากคิดช่วงชิงนางวันทองกลับคืนมา จึงออกหาของวิเศษ ๓ อย่าง คือ ดาบวิเศษ กุมารทอง และม้าฝีเท้าดี ขุนแผนเดินทางไปถึงซ่องโจรของหมื่นหาญก็สมัครเข้าเป็นสมุน วันหนึ่งได้ช่วยชีวิตหมื่นหาญให้รอดพ้นจากการถูกวัวแดงขวิดตาย หมื่นหาญจึงยกนางบัวคลี่ลูกสาวของตนให้เป็นภรรยาของขุนแผน ต่อมาหมื่นหาญเห็นขุนแผนมีวิชาอาคมเหนือกว่าตนก็คิดกำจัด โดยสั่งให้นางบัวคลี่วางยาพิษฆ่าขุนแผน แต่โหงพรายมาบอกให้ขุนแผนรู้ตัว คืนนั้นพอนางบัวคลี่นอนหลับ ขุนแผนก็ผ่าท้องนางควักเอาเด็กไปทำพิธีปลุกเสกเป็นกุมารทอง ต่อจากนั้นก็ทำพิธีตีดาบฟ้าฟื้นและไปซื้อม้าลักษณะดีได้ตัวหนึ่ง ชื่อ ม้าสีหมอก แล้วขุนแผนก็ไปที่บ้านของขุนช้างสะกดคนให้หลับหมดแล้วขึ้นไปบนบ้านแต่เข้าห้องผิด จึงพบนางแก้วกิริยาและได้นางเป็นภรรยา จากนั้นก็ไปปลุกนางวันทองพาขึ้นม้าหนีเข้าป่าไป ขุนช้างไปฟ้องสมเด็จพระพันวษา พระองค์ให้ทหารตามจับขุนแผน แต่ถูกขุนแผนฆ่าตายไปหลายคน ขุนแผนกับนางวันทองหลบซ่อนอยู่ในป่าจนนางตั้งท้องจึงพากันออกมามอบตัวสู้คดีกับขุนช้างจนชนะคดี ขุนแผนนางวันทอง และนางแก้วกิริยาจึงอยู่ร่วมกันด้วยความสุข แต่ขุนแผนนึกถึงนางลาวทองจึงขอร้องจมื่นศรีเสาวรักษ์ให้ขอตัวนางจากสมเด็จพระพันวษาทำให้พระองค์โกรธว่าขุนแผนกำเริบจึงสั่งจำคุกขุนแผนไว้ นางแก้วกิริยาตามไปปรนนิบัติขุนแผนด้วย ส่วนนางวันทองพักอยู่ที่บ้านของหมื่นศรี ขุนช้างจึงพาพรรคพวกมาฉุดนางวันทองไปเป็นภรรยาอีก ต่อมานางก็คลอดลูกชาย แล้วตั้งชื่อให้ว่าพลายงาม ขุนช้างรู้ว่าไม่ใช่ลูกของตนก็เกลียดชัง วันหนึ่งจึงหลอกพาเข้าไปในป่าทุบตีจนสลบแล้วเอาท่อนไม้ทับไว้ โหงพรายของขุนแผนมาช่วยได้ทัน นางวันทองจึงให้ลูกไปอยู่กับนางทองประศรีที่กาญจนบุรีพลายงามได้ร่ำเรียนวิชาของพ่อเชี่ยวชาญ ขุนแผนจึงพาไปฝากไว้กับหมื่นศรี เพื่อหาโอกาสให้เข้ารับราชการ ทางฝ่ายพระเจ้าเชียงอินทร์ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ให้ทหารไปชิงตัวนางสร้อยทองธิดาพระเจ้าล้านช้างระหว่างที่เดินทางไปยังกรุงศรีอยุธยา เพราะพระเจ้าล้านช้างต้องการเป็นไมตรีด้วยจึงส่งธิดามาถวายตัวแล้วพระเจ้าเชียงอินทร์ยังส่งหนังสือท้าทายสมเด็จพระพันวษาอีกด้วย พลายงามได้โอกาสจึงอาสาออกไปรบ และขอให้ปล่อยขุนแผนออกจากคุกด้วย เพื่อจะได้ช่วยกันทำศึก ขุนแผนจึงพ้นโทษ ในขณะที่กำลังเตรียมทัพนางแก้วกิริยาก็คลอดลูกเป็นชาย ขุนแผนตั้งชื่อว่า พลายชุมพล แล้วขุนแผนกับพลายงามก็คุมทัพมุ่งสู่เชียงใหม่ ขุนแผนได้แวะเยี่ยมพระพิจิตรกับนางบุษบาซึ่งเคยให้ความช่วยเหลือ เมื่อครั้งขุนแผนกับนางวันทองเข้ามอบตัว พลายงามจึงได้พบนางศรีมาลาและได้นางเป็นภรรยา จากนั้นก็คุมทัพไปรบกับเชียงใหม่ได้ชัยชนะ ครั้นกลับถึงกรุงศรีอยุธยา ขุนแผนได้เป็นพระสุรินฤๅไชย เจ้าเมืองกาญจนบุรี พลายงามได้เป็นจมื่นไวยวรนาถ และสมเด็จพระพันวษาก็ยกนางสร้อยฟ้าธิดาของพระเจ้าเชียงอินทร์ให้แต่งงานกับพระไวยพร้อม ๆ กับนางศรีมาลา พระไวยนางให้แม่มาอยู่กับตนและคืนดีกับพ่อ จึงไปลักพานางวันทองมาขุนช้างเคืองมากไปฟ้องสมเด็จพระพันวษา จึงมีการไต่สวนคดีกันอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดสมเด็จพระพันวษาก็ถามความสมัครใจของนางว่าจะเลือกอยู่กับใคร นางตัดสินใจไม่ได้ สมเด็จพระพันวษาหาว่านางเป็นหญิงสองใจจึงสั่งให้นำตัวไปประหารชีวิต พระไวยพยายามอ้อนวอนขออภัยโทษได้ แต่ไปห้ามการประหารไม่ทัน ในครอบครัวของพระไวยก็ไม่ราบรื่นนัก เพราะนางสร้อยฟ้าไม่พอใจที่พระไวยและนางทองประศรีรักนางศรีมาลามากกว่านาง จึงมักจะมีการทะเลาะวิวาทกันอยู่เสมอ นางสร้อยฟ้าเจ็บใจจึงให้เถรขวาดทำเสน่ห์ให้พระไวยหลงรักนาง แล้วนางสร้อยฟ้าก็หาเรื่องใส่ความให้พระไวยตีนางมาลา พลายชุมพลเข้าไปห้ามก็ถูกตีไปด้วย พลายชุมพลน้อยใจจึงหนีออกจากบ้านไปหาพ่อแม่ที่กาญจนบุรีเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วหนีต่อไปหายายที่สุโขทัย ได้บวชเณรและเล่าเรียนอยู่ที่นั้น ฝ่ายขุนแผนรีบไปที่บ้านของพระไวย แล้วเสกกระจกมนต์ให้ดูว่าถูกทำเสน่ห์ แต่พระไวยไม่เชื่อหาว่าพ่อเล่นกลให้ดู และพูดลำเลิกบุญคุณที่ช่วยพ่อออกมาจากคุกขุนแผนแค้นมากประกาศตัดพ่อตัดลูก แล้วกลับกาญจนบุรีทันที พลายชุมพลเรียนวิชาสำเร็จแล้วก็นัดหมายกับขุนแผนจแก้แค้นพระไวย โดยพลายชุมพลสึกจากเณรปลอมเป็นมอญ ใช้ชื่อ สมิงมัตรา ยกกองทัพหุ่นหญ้าเสกมาถึงสุพรรณบุรี สมเด็จพระพันวษา ให้ขุนแผนยกทัพไปต้านศึก ขุนแผนแกล้งแพ้ให้ถูกจับได้พระไวยจึงต้องยกทัพไปและต่อสู้กับพลายชุมพล ระหว่างที่กำลังต่อสู้กัน ขุนแผนบอกให้พลายชุมพลจับตัวพระไวยไว้ พระไวยเห็นพ่อก็ตกใจหนีกับไปฟ้องสมเด็จพระพันวษาพระองศ์จึงให้นางศรีมาลาไปรับตัวขุนแผนกับพลายชุมพลเข้าวัง พลายชุมพลอาสาจับเสน่ห์ โดยขอหมื่นศรีไปเป็นพยานด้วย พลายชุมพลจับตัวเถรขวาดกับเณรจิ๋วไว้ แล้วขุดรูปปั้นลงอาคมที่ฝั่งไส้ใต้ดินขึ้นมาได้เสน่ห์จึงคลาย ตกดึกเถรขวาดกับเณรจิ๋วสะเดาะโซ่ตรวนหนีไป ในการไต่สวนคดีนางสร้อยฟ้า ไม่ยอมรับว่าเป็นคนทำเสน่ห์ และใส่ร้ายว่านางศรีมาลาเป็นชู้กับพลายชุมพล พอนางจับได้พลายชุมพลก็หนีไปยุยงขุนแผน ในที่สุดก็มีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยการลุยไฟนางสร้อยฟ้าแพ้ถูกไฟลวกจนพุพอง ส่วนนางศรีมาลาไม่เป็นอะไรเลย สมเด็จพระพันวษาสั่งประหารนางสร้อยฟ้า แต่นางศรีมาลาช่วยขออภัยโทษให้ จึงเพียงถูกเนรเทศกลับไปอยู่ที่เชียงใหม่เช่นเดิม ระหว่างเดินทางก็พบเถรขวาดกับเณรจิ๋ว จึงเดินทางไปด้วยกัน กลับถึงเชียงใหม่ได้ไม่นานกนางก็ให้กำเนิดลูกชาย ชื่อ พลายยง ส่วนนางศรีมาลาก็คลอดลูกชายเช่นกัน ขุนแผนตั้งชื่อให้ว่า พลายเพชร พระเจ้าเชียงอินทร์ ตั้งเถรขวาด เป็นพระสังฆราชเพื่อตอบแทนความดีความชอบที่พานางสร้อยฟ้าที่กลับบ้านเมืองได้อย่างปลอดภัย แต่เถรขวาดยังแค้นพลายชุมพล จึงเดินทางมาที่กรุงศรีอยุธยา แปลงเป็นจระเข้อาละวาดฆ่าคนและสัตว์เลี้ยงไปมากมาย พลายชุมพลจึงอาสาออกปราบจระเข้จนสำเร็จ ไดตัวเถรขวาดมาประหารชีวิต พลายชุมพลได้บรรดาศักดิ์เป็นหลวงนายฤทธิ์ นับจากนั้นเป็นตนมาทุกคนก็อยู่กันอย่างมีความสุข
ตัวละคร
ตัวละครหลัก - ขุนแผน
- ขุนช้าง
- นางพิมพิลาไลย (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น วันทอง)
- พลายงาม
วิเคราะห์ลักษณะนิสัยของตัวละครหลัก ขุนแผน
ขุนแผน หรือ พลายแก้ว นักรักและนักรบที่ไม่ยอมเป็นรองใคร มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นที่รักแก่บุคคลทั่วไปบุคคลที่ขุนแผนยอมอ่อนข้อให้มีเพียงสองคน คือ สมเด็จพระพันวษา เจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยา และนางทองประศรีขุนแผนเป็นคนที่เจ้าชู้หาตัวจับได้ยาก แม้ว่าขุนแผนจะเป็นผู้มีฤทธิ์เดชเป็นที่ยำเกรง แต่ในด้านอื่นขุนแผนเป็นรองขุนช้างอยู่สองประการใหญ่คือ ความรักเดียวใจเดียว และ ความร่ำรวย ด้านดี ๑. กตัญญูกตเวที ขุนแผนรับอาสาสมเด็จพระพันวษา ออกรบกับเมืองเชียงใหม่ และออกรบครั้งอื่นๆ ถือได้ว่าขุนแผนมีความกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน เมื่อครั้งที่ขุนแผนไปขออาศัยพระพิจิตรอยู่ก็ได้สำนึกถึงความผิดของตัวเอง เกรงว่าพระพิจิตรจะมีภัย จึงขอให้พระพิจิตรส่งตนและนางวันทองกลับกรุงอยุธยา ดังบทกลอนที่ว่า “พลายแก้วรับสั่งบังคมทูล ขอเดชะนเรนทร์สูรโปรดเกศา ชีวิตอยู่ใต้บาทา ขออาสาพระองค์ผู้ทรงชัย ตีทัพเชียงอินทร์แลเชียงทอง ให้สมพระทัยปองให้จงได้ ถ้าข้าพระพุทธเจ้ามิบรรลัย ก็มิได้ย่อท้อต่อณรงค์ ฯ” “ครานั้นขุนแผนแสนสนิท พระพิจิตรจงรักบำรุงสงวน อยู่เรือนที่หลังใหม่ข้างในจวน มาได้ถ้วนเดือนหนึ่งรำพึงคิด พระพิจิตรบุษบาให้อาศัย รักใคร่เราเหมือนบุตรสุจริต แต่นานไปที่ไหนความจะมิด ด้วยพระองค์ทรงฤทธิ์ยังโกรธา สั่งกำชับกรมการด่านคอย อายัดซ่องใหญ่น้อยไว้แน่นหนา ใครจับได้ให้ส่งไปพารา ด้วยโทษฆ่าคนตายเสียหลายพัน จะร้อนถึงพระพิจิตรผู้บิดา ที่เมตตาเลี้ยงดูให้อยู่นั่น สักหน่อยก็จะพลอยเป็นโทษทัณฑ์ ที่พูดนั้นว่าจะบอกไปขอไว้” ๒.มีความรับผิดชอบ ต่อการกระทำของตน รักลูก เมีย ขุนแผนเป็นคนรักลูกรักเมีย ทั้งยังมีความรับผิดชอบ ถึงแม้ขุนแผนจะมีภรรยามีหลายคนแต่ก็ดูแล และรับผิดชอบภรรยาทุกคนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ดังเช่น ที่ขุนแผนทำกับนางแก้วกิริยา ที่ได้นางเป็นเมียและให้เงินนางไถ่ตัวเองออกมาจากขุนช้าง หรือแม้ยามที่นางลาวทองป่วย ขุนแผนก็สู้อุส่าฝากเวรไว้กับขุนช้างและมาดูแลนางลาวทองเป็นเหตุให้ขุนช้างได้ข้ออ้างใส่ร้ายขุนแผนจนเข้าคุก “ขุนแผนรับขวัญอย่าพรั่นจิต พี่หาลืมคิดความหลังไม่ แสนสงสารสุดสวาทขาดใจ นับแต่วันนี้ไปจนวันตาย มิวันหนึ่งวันใดคงถึงห้อง ประสมสองเกษมสุขให้โศกหาย ชื่นจิตเจ้าจงคิดเพทุบาย ถ่ายถอนตัวเสียให้เป็นไท ว่าพลางทางถอดซึ่งแหวนเพชร ประครองเช็ดน้ำตาอย่าร้องไห้ ชมแหวนแทนพลางระหว่างใจ สอดใส่นิ้วน้อยให้นางดู” ๓. เฉลียวฉลาด เก่งกล้าสามารถ ขุนแผนเป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ครั้งที่พลายแก้วได้บวชเรียนก็มีความฉลาดหลักแหลม แถมมีความขยันหมั่นเพียร บวชเรียนไม่เท่าไหร่ก็ท่องจำได้ขึ้นใจ “ครานั้นจึงโฉมเจ้าเณรแก้ว บวชแล้วร่ำเรียนด้วยเพียรหมั่น ปัญญาไวว่องคล่องแคล่วครัน เรียกสิ่งใดได้นั่นไม่ช้าที จนอาจารย์ขยาดฉลาดเฉลียว เถรเณรออกเกรียวอยู่ที่นี่ จะเปรียบเณรแก้วได้นั้นไม่มี บวชยังไม่ถึงปีก็เจนใจ หนังสือสิ้นกระแสทั้งแปลอรรถ จนสมภารเจ้าวัดไม่บอกได้ ลูบหลังลูบหน้าแล้วว่าไป สิ้นไส้กูแล้วเณรแก้วอา” ด้านเสีย ๑. เจ้าชู้ ขุนแผนขึ้นชื่อว่าเป็นชายเจ้าชู้ อาจเป็นเพราะขุนแผนเป็นหนุ่มรูปงาม จึงมีความมั่นใจในตัวเอง และขุนแผนเป็นคนมีเสน่ห์ ทำให้บรรดาหญิงสาวพากันหลงใหล อีกทั้งขุนแผนเป็นผู้ชายทีมีลูกอ้อน ไม่ว่าสาวใดได้ยินคำหวานก็พากันหลงรัก แม้กระทั่งนางสายทองพี่เลี้ยงนางพิม และด้วยนิสัยเจ้าชู้ของขุนแผนทำให้ต้องเสียนางพิมไป ด้วยการที่ขุนแผนไปรบและได้นางลาวทองกลับมากรุงศรีฯ ทำให้นางพิมตัดสินใจ ที่จะอยู่กินกับขุนช้างอย่างเต็มใจ “ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายแก้ว เห็นพิมหลับแล้วให้ป่วนปั่น คิดถึงสายทองปองผูกพัน หมายมั่นที่จะมอบซึ่งไมตรี” ๒.อารมณ์รุนแรง ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ด้วยความที่เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ทำให้ขุนแผนทำอะไรไปโดยไม่มีการยับยั้งชั่งใจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่างๆ ทั้งที่ยามปกติขุนแผนจะเป็นคนฉลาดมีเหตุผล แต่พอโกรธขึ้นมากลับกลายเป็นคน ที่ไร้สติ ทำอะไรก็เอาแต่ความสาแก่ใจ ความพึงพอใจของตัวเองเพียงเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาในภายภาคหน้า สังเกตจาก การที่ขุนแผนนำคนล้อมเรือนขุนช้างเพื่อที่จะฆ่าขุนช้าง หรือ ตอนที่ขุนแผนฟันม่านฝีมือของนางวันทองขาดจนหมดสิ้น เพื่อระบายความแค้นของตนเอง แม้กระทั่งนำเชือกผูกขุนช้างและนางวันทองไว้ด้วยกันเพื่อความสาแก่ใจก็ตาม “จึงเอาเชือกด้ายที่สายม่าน ถึงงดไว้ไม่ผลาญให้เป็นผี จะทำให้สมหน้าอีกาลี เชือกเส้นนี้แลจะเล่นมึง ถีบเข้าให้ชิดติดกัน เชือกกระสันพันเข้าให้นอนขึง ผูกเป็นเปลาะชะเนาะตรึง ปลายเชือกโยนถึงบนหลังคา”
ขุนช้าง
ขุนช้าง เจ้าสัวใหญ่แห่งเมืองสุพรรณบุรี ผู้ยึดถือความรักที่มีต่อนางพิมเป็นใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดและกระทำทุกอย่างที่จะได้นางพิมมาครอบครอง โดยไม่สนใจว่าการกระทำนั้นจะถูกต้องหรือไม่ ด้านดี ๑. มีความรักอันมั่นคง แอ๊มมม ขุนช้างเป็นคนรักเดียวใจเดียว ด้วยความรักอันมั่นคงที่มีต่อนางพิมมาตั้งแต่วัยเด็ก ขุนช้างยังมุ่งมั่นที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้คนรักมา ถือว่าเป็นคนที่ไม่ย่อท้อ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพราะครั้งนั้นนางพิมก็หาได้มีใจรักขุนช้างไม่ แต่ขุนช้างก็ยังคงรัก และปฏิบัติกับนางอย่างดีเสมอมา หากเป็นชายอื่นคงถอดใจและหาคนรักไปไปนานแล้ว “เช้าเย็นเป็นทุกข์ทุกเวลา ไม่เห็นหน้าพิมน้อยก็สร้อยเศร้า นอนหลับกลับเพ้อละเมอเมา จนล่วงเข้าปลายเดือนไม่เคลื่อนคลา” ด้านเสีย ๑. เห็นแก่ตัว ขุนช้างเป็นคนที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ แม้ขุนช้างจะใช้ความรักที่มีต่อนางพิมมาเป็นข้ออ้าง แต่ก็ไม่สามารถหักลบกับการกระทำที่ไม่สมควรของขุนช้างได้ เพราะขุนช้างใช้กลลวง ลวงนางพิมว่าพลายแก้วตาย จนทำให้นางพิมต้องตัดใจแต่งงานกับตนเพื่อหลบเลี่ยงอาญา “ปลงช้างดูทางสังเกตได้ รีบข้ามน้ำขมีขมัน พบโพธิ์ปลูกเรียงไว้เคียงกัน ใบนั้นเขียวพุ่มชอุ่มตา จับต้นกลางกระโชกโยกให้หนัก เดชะอารักษ์เขารักษา ด้วยพลายแก้วนั้นตั้งสัตย์ปฏิญาณ์ กันจอบเสียมมีดพร้านั้นผิดไป แต่ว่าต้นโพธิ์ยังอ่อนนัก โยกหนักใบหล่นไม่ทนได้ ใบหดเหี่ยวหยองดังต้องไฟ ขุนช้างกับบ่าวไพร่ก็กลับมา” กวี : กวีหลายคนในสมัยรัชกาลที่ 2
ประเภท : นิทานคำกลอน
คำประพันธ์ : กลอนสุภาพ
ความยาว :
สมัย : ต้นรัตนโกสินทร์
ปีที่แต่ง : รัชกาลที่ 2
ชื่ออื่น :
ลิขสิทธิ์ : กรมศิลปากร
ผมอยากหา คำร้อง ของกาพย์เห่เรือ (เห่ชมไม้) อ่าคับ
ที่เป็นเสียงร้อง อยากได้เอามาประกอบเสียง ทำรายงาน
ไม่ทรายว่าจะหาได้จากที่ไหนบ้างอ่าคับ