ไปปายครั้งเดียวไม่เคยพอ

 อำเภอปาย เป็นเมืองเก่าแก่ของจังวัดแม่ฮ่องสอน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุดในฤดูหนาว การไปเที่ยวปายจึงเป็นการไปเที่ยวที่ไปครั้งเดียวคงจะไม่พอจริงๆ 

 จังหวัดแม่ฮ่องสอน

            แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย มีความโดดเด่นหลายลักษณะ โดยเฉพาะสภาพภูมิประเทศ ความหลากหลายด้านวัฒนธรรม และความหลากหลายของประชากรจากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ นับเป็นจังหวัดที่สถิติน่าสนใจหลายอย่าง เช่น มีประชากรเบาบางที่สุดในประเทศ และมีประชากรน้อยมากเป็นอันดับ 3 ในขณะที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ
แม่ฮ่องสอนได้ชื่อว่าเป็น เมืองสามหมอก เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพอากาศมีหมอกปกคลุมตลอดเวลาส่วนใหญ่ของปี นอกจากนี้แม่ฮ่องสอนยังนับเป็นพื้นที่ปลายสุดด้านตะวันตกของประเทศ คือที่เส้นแวง 97.5 องศาตะวันออกในเขตอำเภอแม่สะเรียง (ตะวันออกสุดของประเทศ อยู่ที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ 105.5 องศาตะวันออก)

ประชากร
           ประชากรในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความหลากหลาย ทั้งคนเมือง ชาวไต (ชาวไทยใหญ่) จีนฮ่อ พม่า และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ราวร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมด ได้แก่ ม้ง (แม้ว) ลีซู (ลีซอ) ล่าหู่ (มูเซอร์) ลัวะ และปกฺกะญอ (กะเหรี่ยง) เป็นต้น โดยต่างรักษาวัฒนธรรมของตนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็อยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมต่างกันได้โดยไม่เคยปรากฏความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมแต่อย่างใดด้วยความหลากหลายของเชื้อชาติดังกล่าวนี้ ประชากรในแม่ฮ่องสอนจึงมีการใช้ภาษาที่หลากหลายด้วย

อาณาเขต
พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีอาณาเขตโดยรอบ ดังนี้
• ทิศเหนือ จรดสหภาพพม่า
• ทิศตะวันออก จรดจังหวัดเชียงใหม่
• ทิศใต้ จรดจังหวัดตาก
• ทิศตะวันตก จรดสหภาพพม่า โดยมีแม่น้ำสาละวินคั่นเป็นบางช่วง

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

• ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกบัวตอง (Tithonia diversifolia)
• ต้นไม้ประจำจังหวัด: กระพี้จั่น (Millettia brandisiana)
• คำขวัญประจำจังหวัด: หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง

อำเภอปาย

              อำเภอปาย เป็นอำเภอขนาดเล็กทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติ

ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอปายตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
• ทิศเหนือ ติดต่อกับเมืองปั่น จังหวัดตองยี รัฐฉาน (ประเทศพม่า)
• ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง (จังหวัดเชียงใหม่)
• ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสะเมิงและอำเภอแม่แจ่ม (จังหวัดเชียงใหม่)
• ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนและอำเภอปางมะผ้า

ภูมิศาสตร์
            เป็นที่ราบแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำหลายสาย คือ น้ำปาย น้ำของ และน้ำแม่ปิงน้อย อีกทั้งมีลำห้วยอีกหลายสาย คือ ห้วยแม่เมือง ห้วยแม่เย็น และห้วยแม่ฮี้

ประวัติศาสตร์
อำเภอปายเป็นเมืองเก่าแก่ ประชากรที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาแต่เดิมคือชาวพ่ายหรือไปร ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้ภาษาตระกูลออสโตร-เอเชียติก สาขาว้า-เรียง ดังมีร่องรอยหลักฐานซากวิหารและเจดีย์กระจายอยู่ทั่วไปทั้งบนภูเขาสูง ที่ดอนเชิงเขา บริเวณพื้นราบลุ่มน้ำปาย บางแห่งก่อสร้างด้วยหิน เช่น ในผืนป่าบริเวณใกล้น้ำตกเอิกเกอเต่อ ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่ปิงน้อย บางแห่งมีการขุดคูเป็นร่องลึกบนภูเขาสูงชัน มีเจดีย์บนยอดเขามีหลักฐานว่าเจ้าเมืองคนแรกคือ ขุนส่างปาย ในสมัยพระเจ้าโหตรประเทศ พระราชาธิบดีเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ส่งเจ้าแก้วเมืองออกสำรวจชายแดน ได้พบว่าภูมิประเทศน่าสนใจ จึงแนะนำให้ขุนส่างปายย้ายเมืองมาตั้งฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปายเพราะเป็นที่ราบกว้างขวาง ผู้คนจึงเรียกเมืองใหม่ว่า "เวียงใต้" ส่วนเมืองเก่าเรียกว่า "เวียงเหนือ"

พ.ศ. 2454 เมืองปายได้ยกฐานะเป็นอำเภอ โดยมีนายอำเภอคนแรกชื่อ รองอำมาตย์เอกหลวงเจริญเขตเขลางค์นคร (สอน สุขุมินทร์)

ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์
เมืองปายเป็นเมืองที่มีคนตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในสมัยประวัติศาสตร์บริเวณที่ตั้งเมืองปายเป็นเมืองสำคัญของล้านนาในสมัยราชวงศ์มังรายซึ่งมีเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง ต่อมาเมืองปายได้ร้างไปพร้อมกับเมืองเชียงใหม่ ประมาณปี พ.ศ. 2318-2338 เมืองปายได้ฟื้นฟูเป็นหมู่บ้านและพัฒนาเป็นอำเภอปาย โดยมีผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ ได้แก่ คนไทยวน (คนเมือง) ชาวไทใหญ่ ชาวปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ทั้งนี้เนื่องจากเมืองปายตั้งอยู่ในบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย เหมาะสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปัจจุบันเมืองปายเป็นเมืองชุมทางที่สำคัญเมืองหนึ่งบนเส้นทางระหว่างเชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอน

สมัยก่อนประวัติศาสตร์
อำเภอปายมีร่องรอยการอาศัยอยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และมีชุมชนโบราณที่ปรากฏชื่อในตำนานคัมภีร์ใบลานหลายเมือง และมีประวัติสืบต่อกันมานับร้อยปี ประกอบกับมีหลักฐานโบราณคดีปรากฏอยู่ในชุมชนโบราณดังกล่าวด้วย จากการศึกษาของพระครูปลัดกวีวัตน์ธนจรรย์ สุระมณี วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีรายงานการสำรวจว่าในเขตเมืองน้อย อำเภอปาย มีหลักฐานโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ดังนี้
• ถ้ำผีแมน บ้านห้วยหก ตำบลเวียงเหนือ อยู่ห่างจากบ้านห้วยหกไปทางทิศตะวันตกราว 1,500 เมตร พบซากกระดูกและระแทะคล้ายรางไม้ให้อาหารสัตว์หลงเหลืออยู่ บางส่วนถูกชาวบ้านเผาไปเกือบหมดแล้ว ถ้ำผีแมนซึ่งเป็นที่อยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์นี้มีอยู่หลายแห่งในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน เช่น
o ถ้ำป่าคาน้ำฮู ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
o ถ้ำน้ำลอด อำเภอปางมะผ้า พบหลักฐานของใช้ของคนถ้ำในยุคนั้นคือ กำไลแขนทำด้วยโลหะ หม้อดินลายเชือกทาบ ขวานหินขุด ระแทะไม้ ฯลฯ
• ถ้ำดอยปุ๊กตั้ง อยู่ทางทิศใต้ของบ้านห้วยเฮี้ย ตำบลเวียงเหนือ ใช้เวลาเดินทางด้วยเท้าจากหมู่บ้านประมาณ 1 ชั่วโมง พบเครื่องใช้ของมนุษย์ถ้ำมีลักษณะเช่นเดียวกันกับที่พบในถ้ำผีแมนแห่งอื่น ๆ

การเดินทางไปปาย

1.รถตู้โดยสาร วิธีนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมมากที่สุด ที่แนะนำคือ aYa

Service: ปายโทร 053-699888, เขียงใหม่ โทร. 053-247889
ราคา 150 บาท ต่อ คน ต่อเที่ยว รับส่งถึง โรงแรม มีรถออกทุกชั่วโมงในเวลากลางวันตั้งแต่ 9.00 น.

2.รถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ
- มีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัทเอกชน ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร ทุกวันๆ ละ 1 เที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมืองเหนือยานยนต์โทร. 0 2936 3587-8 จากเชียงใหม่
- มีรถโดยสารประจำทางทั้งธรรมดาและปรับอากาศ วิ่งบริการ 2 เส้นทาง คือ
1. สายเชียงใหม่-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน มีบริการวันละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา (ทางหลวงหมายเลข 108) 06.30-21.00 น.    ใช้เวลาเดินทางถึงอำเภอ แม่สะเรียง 4 ชั่วโมง   ถึงแม่ฮ่องสอน 8 ชั่วโมง
2. สายเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน มีบริการวันละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา (ทางหลวงหมายเลข 107 และ 1095) 07.00-12.30 น. ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง (เชียงใหม่ ถึง แม่ฮ่องสอน) รายละเอียดติดต่อ   บริษัท เปรมประชาขนส่ง จำกัด โทร. 0 5361 1318
ราคา 60 บาทต่อเที่ยว

3.เครื่องบิน SGA เครือ นกแอร์ บิน เชียงใหม่ - ปาย ทุกวัน วันละ 2 รอบ เพียง 30 นาที มีแค่ 12 ที่นั่ง โทร.02-6646099  บนเครื่องยามเครื่องจะล่อนลง คุณจะได้ชมวิวทุ่งนาและขุนเขาจากมุมสูง หาชมที่ไหนไม่ได้แน่ ได้ภาพประทับใจไปอีกแบบ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ปาย  

1.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
สถานที่เที่ยวแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากผ่านมาจากเชียงใหม่(แม่ริม) คือ ห้วยน้ำดัง หรือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่จะตื่นกันตี 5 ขับรถขึ้นห้วยน้ำดังชมพระอาทิตย์ขึ้น ใช้เวลาประมาณ ครั้งชั่วโมง

               อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง สำหรับผู้ที่เดินทางจากเชียงใหม่ไปปาย ก่อนถึงปายนักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่ - ฝาง) แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกตลาดแม่มาลัย จากนั้นไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1095 (แม่มาลัย - ปาย) พอถึงหลักกิโลเมตรที่ 65 -66 ให้เลี้ยวขวา เดินทางต่อไปอีก 6 กม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ  ที่นี่มีทรัพยากรที่สมบูรณ์

               คล้ายเป็นของขวัญที่ธรรมชาติทักถอไว้ให้  จุดชมวิวห้วยน้ำดังหรือที่รู้จักกัน ดอยกิ่วลม จุดชมทะเลหมอกที่สวยงามยามอรุณรุ่ง ที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นผ่านไอหมอก  นอกเหนือจากจุดชมวิว  ยังมีน้ำพุร้อนโป่งเดือด และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติโป่งเดือด ภายในอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมีบ้านพักรับรอง จัดเตรียมไว้สองจุด คือบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ และบริเวณโป่งเดือด พร้อมที่อาบน้ำแร่ให้ชำระล้างร่างกายคลายอ่อนล้า หากใครที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ ก็สามารถกางเต้นท์นอนได้ในสถานที่จัดไว้ให้ มีทั้งเต้นท์และเครื่องนอนไม่เสียเวลาแบกมาจากบ้านด้วย สำหรับใครที่ไม่อยากพักที่ห้วยน้ำดังแต่อยากแวะไปเที่ยว มานอนที่ปายก็ไม่ไกลห้วยน้ำดังเท่าไหร่

2.น้ำพุร้อนปาย
อยู่ในป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบนท้องที่ตำบลแม่ฮี้ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (ปาย-แม่มาลัย) ข้ามสะพานแม่น้ำปาย ถึงบริเวณหลักกม.ที่ 87-88 แยกซ้ายเข้าไปอีก 2 กม. ตามทางเข้าบ้านท่าปาย เป็นทางราดยางตลอดทั้งสาย สภาพของโป่งน้ำร้อนเป็นบ่อน้ำร้อนน้ำกำลังเดือนเป็นฟองๆ และมีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ พร้อมทั้งมีน้ำร้อนไหลเรื่อยๆ ทั่วบริเวณกว้างมีบ่อใหญ่สองบ่อ นอกนั้นมีลักษณะเป็นน้ำผุดบางจุดความร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียส และรอบๆ โป่งร้อนเป็นไม้สักที่สมบูรณ์มาก ทุกวันจะมีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะวันหยุด เสาร์อาทิตย์ จะมีคนมาเที่ยวที่นี่มาก นอกจากการอาบน้ำแร่ จะเป็นผลดีต่อสุขภาพแล้ว หลายคนที่มาแช่น้ำพุร้อนเชื่อกันว่าจะทำให้โรคภัยไข้เจ็บบางอย่างหายหรืออาการดีขึ้นอีกด้วย

3.น้ำพุร้อนเมืองแปง 

               อยู่ในเขตบ้านเมืองแปง ตำบลเมืองแปงเป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ห่างจากอำเภอปาย ประมาณ 28 กม. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (ปาย-แม่มาลัย) และแยกเข้าสาย 1265 ด้านขวามือตรงบริเวณหลักกม.ที่ 85-86 ใกล้กับหน่วยพิทักษ์และรักษาป่าแม่ปิงเป็นทางลาดยาง มีป้ายบอกทาง จนสุดทางลาดยางมีสะพานไม้เล็กๆ อยู่ขวามือ ต้องเดินเท้าไปต่ออีก 150 เมตร อยู่ทางไปบ้านวัดจันทร์ จะแยกกันเมื่อขับรถไปได้ เกีอบ 20 กม.อุณหภูมิของน้ำร้อนสูงถึง 95 องศาเซลเซียส และพลุ่งขึ้นเป็นระยะ ๆ

4.โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ 

              อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ บรรยากาศเงียบสงบ อยู่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ติดกับ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ต้องเดินทางจาก อ.ปาย ทางหลวง 1095 จะใกล้กว่า ใช้เวลา เดินทางประมาณ 1 ชม 40 นาที สิ่งที่น่าสนใจคือ ทิวทัศน์ของป่าสนธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แวดล้อมด้วยวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าปากะญอ กิจกรรมที่นิยม คือ ดูนกที่หายาก ปั่นจักรยาน ชมทะเลหมอกยามเช้า เดินป่าศึกษาธรรมชาติ และถ่ายรูปธรรมชาติสวยๆในช่วงระหว่างกลางเดือนมกราคมถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ดอกซากุระเมืองไทย หรือต้นนางพญาเสือโครงจะเบ่งบาน พร้อมกับดอกสาลี่ดอยขาวแปลกตา ลองแวะมาชมหรือถ้ามีโอกาสได้มาพักที่นี่ก็จะได้บันทึกภาพสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก

5.โครงการเกษตรที่สูงบ้านวัดจันทร์ 

               เป็นโครงการในพระราชดำริ ปลูกป่า พืชและสัตว์เศษฐกิจ ภายในโครงการมีแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ ไม้ผลเมืองหนาว อย่างสาลี่ อาโวคาโด่ ฯลฯ ฟารม์เลี้ยงกระต่าย อยู่เลยโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ลึกเข้าไปสุดทาง หมู่บ้านวัดจันทร์ 3 กม.

6.วัดกลาง อ.ปาย 

               ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงใต้ ภายในวัดมีพระเจดีย์องค์ใหญ่ ศิลปไทยใหญ่แท้ประดิษฐานอยู่กลางลานวัด มีเจดีย์ทรงมอญรายล้อมโดยรอบใต้เจดีย์ทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวัน เหนือฐานเจดีย์องค์ใหญ่ทำเป็นมณฑปยอดมงกุฎ ภายในวัดมีวัตถุโบราณ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ในตัวเมืองปาย

7.เจดีย์พระธาตุแม่เย็น 

               อยู่ที่บ้านแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ ตามเส้นทางสายแม่ฮ่องสอน-ปาย เป็นเจดีย์ที่สร้างสมัยใด ไม่ปรากฎ ตั้งอยู่บนเนินสูง และเมื่อขึ้นไปนมัสการ องค์พระธาตุแม่เย็น จะมองเห็นทิวทัศน์ ของอำเภอปายโดยทั่วถึง เป็นจุดสังเกต ของผู้โดยสารเครื่องบิน ว่าเข้าเขตอำเภอปายแล้ว

8.วัดน้ำฮู
ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กม. เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่ออุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 28 นิ้ว สูง 30 นิ้ว พระพุทธรูปองค์นี้พระเศียรกลวง ส่วนบนเปิดปิดได้และมีน้ำขังอยู่ เป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม อายุประมาณ 500 ปี เมื่อ พ.ศ. 2515 มีพระธุดงค์จากอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มานมัสการและสงสัยว่าข้างในพระจะมีน้ำจึงเปิดดูพบว่ามีน้ำจริงๆ ข่าวนี้แพร่ออกไปก็มีผู้คนหลั่งไหลมาขอน้ำไปสักการะพอน้ำในพระเศียรหมดก็จะมีไหลออกมาอีกในลักษณะซึกออกมาตลอดเวลา น้ำตกอยู่ระหว่างทางไป น้ำตกหมอแปงด้านหลังมีองค์พระเจดีย์ ตามประวัติเล่าว่า พระสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเพื่อบรรจุพระอัฐิของพระพี่นางสุพรรณกัลยา

9.น้ำตกหมอแปง อ.ปาย  

               น้ำตกหมอแปง เป็นน้ำตกขนาดกลาง อยู่ในบริเวณ หมู่บ้านหมอแปง ทางทิศเหนือของตัวอำเภอ ใช้เส้นทางสายปาย แม่ฮ่องสอน อยู่ห่างจากตัวอำเภอปาย ก.ม. เส้นทางเป็นถนนคอนกรีต และเป็นถนนลูกรังในช่วงสุดท้ายที่จะถึงทางขึ้นน้ำตก ทางช่วงนี้ไม่สามารถนำรถยนต์ขึ้นได้ นอกจากเป็นรถขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ มอเตอร์ไซด์สามารถนำขึ้นไปได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ น้ำตกมีบริเวณสำหรับกางเต้นท์ แต่ไม่มีร้านค้า

10.สะพานสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
สะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อพ.ศ. 2485 ขณะที่ญี่ปุ่นเรืองอำนาจอยู่ในประเทศไทย ทหารญี่ปุ่นใช้อำเภอปายเป็นเส้นทางขนส่งจากเชียงใหม่ไปยังพม่า สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่าเช่นเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำแควที่กาญจนบุรี  ปัจจุบันทรุดโทรมมาก ใช้งานไม่ได้

11.กอแล ( ปาย แคนย่อน)
อยู่ในเขตบ้านร้องเหย่ง ห่างจากอำเภอประมาณ 7 กม. สามารถเดินทางได้โดยทางหลวงหมายเลข 1095 (ปาย-แม่มาลัย) บริเวณหลักกม.ที่ 88 อยู่ทางด้านขวามือ และต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ลักษณะเป็นผืนดินที่ถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผาติดต่อกันเป็นบริเวณกว้างประมาณ 5 ไร่เศษ (คล้ายกับแพะเมืองผีของจังหวัดแพร่) สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 617 คน กำลังออนไลน์