สุขภาพกายและสุขภาพจิต
การขับถ่ายตอนเช้าเป็นสิ่งสำคัญ คนเราต้องขับถ่ายทุกวัน เพื่อเอาของเสียออกจากร่ายกาย ช่วงเวลาการขับถ่ายที่สำคัญที่ สุดคือ ตอนเช้า คือในช่วงเวลา 05.00 น.-07.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ทำงานในการขับกากอาหารออกจากร่างกาย หลายคน สงสัยว่าเพราะอะไร??.. ตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ การขับถ่ายที่เป็นเวลาจะทำให้ระบบขับถ่ายมีความเป็นธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาไม่ยอมขับถ่ายก็จะทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า ท้องผูก ถ้ารุนแรงมากๆ อาจจะเป็นโรคริดสีดวงทวารเลยก็ได้ แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นและรู้สึกไม่ได้ทันทีเหมือนอาการท้องผูกก็คือ สารพิษและของเสียที่ตกค้างในลำไส้เป็นเวลานานนั้น จะสร้างโอกาสในการได้รับสารพิษกลับเข้าไปในร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ลำไส้ให้มากขึ้น ดังนั้นการขับถ่ายตอนเช้าจึงถือได้ว่าเป็นทั้งการนำของเก่าออก เป็นการสร้างระบบขับถ่ายที่ดีต่อร่างกายและดีต่อสุขภาพของร่างกายอีกด้วย
คุณเคยรู้สึกแบบนี้ บ้างหรือไม่
- ช่วงเช้า ก่อนเวลาอาหารกลางวัน จะรู้สึกง่วงนอนเพราะเลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงสมองและหัวใจ ทำให้รู้สึกอ่อนล้า ไม่สดชื่น
- มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก เนื่องจากมีการขับของเสียออกทางลมหายใจและผิวหนัง
- เมื่อไม่ขับถ่ายในช่วงเช้าแล้ว ยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าอีก มื้อกลางวันก็จะรู้สึกหิวมากและรับประทานอาหารมากเกินไป
- มีอาการของโรคริดสีดวงทวารหนัก
ทางเลือกเหล่านี้ จะช่วยให้คุณมีสุขภาพลำไส้และร่างกายที่แข็งแรงได้
- ขับถ่ายให้เป็นนิสัยในช่วงเวลา 05.00 น.-07.00 น.
- การดื่มน้ำสะอาด 1 แก้วเป็นประจำทุกวันเมื่อตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานและเกิดการบีบอุจจาระออก
- มีการออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกาย ในท่าทางที่ช่วยให้ลำไส้เกิดการบีบตัว เช่น หมุนเอว ก้มแตะปลายเท้า เป็นต้น
- รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำทุกวัน ช่วงเวลา 07.00 น.-09.00 น.
- เลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบจาก ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ ส้ม แครอท มะเขือเทศ ผักใบเขียว ธัญพืช หรือขนมปังโฮลวีต เหล่านี้ คือ อาหารที่จะช่วยให้ขับถ่ายได้ดี นั่นเป็นเพราะอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงที่จะช่วยระบบขับ ถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ
- นักโภชนาการโรงพยาบาลเวชธานี ขยายความเข้าใจไว้ว่า อาหารที่ช่วยในการขับถ่ายนั้นเป็นอาหารที่มีเส้นใยหรือที่เรียกว่า ไฟเบอร์ ที่แบ่งได้เป็นเส้นใยที่ละลายในน้ำ ที่มักจะพบในผลไม้ต่างๆ และเป็นอาหารที่ดีของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ และเส้นใยที่ไม่ละลายในน้ำจำพวกนี้ถือได้ว่า เป็นยาระบายอย่างดีเพราะจะสามารถดูดซับน้ำและเร่งให้ผนังลำไส้บีบคลายตัว ช่วยให้กากอาหารเคลื่อนที่ ทั้งยังช่วยให้กากอาหารนั้นอ่อนนุ่ม หมดปัญหาที่จะเป็นริดสีดวงทวารหนัก ประเภทนี้มักจะเจอในผักและธัญพืช ส่วนปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทานนั้น แบ่งง่าย ๆ คือ ควรกินผักสุก 1 ทัพพี ผลไม้ประมาณ 8-10 ชิ้น หรือส้ม 1 ลูกก็พอแล้ว
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เป็นพื้นฐานที่ดีของการมีสุขภาพที่ดีและการขับถ่ายก็จะดีไปด้วย
- สามารถเสริมการใช้ไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติที่เป็นพรีไบโอติก เพื่อเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ได้เหมือนกระบวนการตามธรรมชาติ ก็จะสามารถช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่าย และเสริมสร้างความแข็งแรงของลำไส้และร่างกายได้ในทุกวัยโดย ภญ. นัชชาพร ตั้งเสงี่ยมวิสัย | 03/09/2556
การขับถ่ายตอนเช้าเป็นสิ่งสำคัญ คนเราต้องขับถ่ายทุกวัน เพื่อเอาของเสียออกจากร่ายกาย ช่วงเวลาการขับถ่ายที่สำคัญที่ สุดคือ ตอนเช้า คือในช่วงเวลา 05.00 น.-07.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ทำงานในการขับกากอาหารออกจากร่างกาย หลายคน สงสัยว่าเพราะอะไร??.. ตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ การขับถ่ายที่เป็นเวลาจะทำให้ระบบขับถ่ายมีความเป็นธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาไม่ยอมขับถ่ายก็จะทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า ท้องผูก ถ้ารุนแรงมากๆ อาจจะเป็นโรคริดสีดวงทวารเลยก็ได้ แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นและรู้สึกไม่ได้ทันทีเหมือนอาการท้องผูกก็คือ สารพิษและของเสียที่ตกค้างในลำไส้เป็นเวลานานนั้น จะสร้างโอกาสในการได้รับสารพิษกลับเข้าไปในร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ลำไส้ให้มากขึ้น ดังนั้นการขับถ่ายตอนเช้าจึงถือได้ว่าเป็นทั้งการนำของเก่าออก เป็นการสร้างระบบขับถ่ายที่ดีต่อร่างกายและดีต่อสุขภาพของร่างกายอีกด้วย
คุณเคยรู้สึกแบบนี้ บ้างหรือไม่
- ช่วงเช้า ก่อนเวลาอาหารกลางวัน จะรู้สึกง่วงนอนเพราะเลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงสมองและหัวใจ ทำให้รู้สึกอ่อนล้า ไม่สดชื่น
- มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก เนื่องจากมีการขับของเสียออกทางลมหายใจและผิวหนัง
- เมื่อไม่ขับถ่ายในช่วงเช้าแล้ว ยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าอีก มื้อกลางวันก็จะรู้สึกหิวมากและรับประทานอาหารมากเกินไป
- มีอาการของโรคริดสีดวงทวารหนัก
ทางเลือกเหล่านี้ จะช่วยให้คุณมีสุขภาพลำไส้และร่างกายที่แข็งแรงได้
- ขับถ่ายให้เป็นนิสัยในช่วงเวลา 05.00 น.-07.00 น.
- การดื่มน้ำสะอาด 1 แก้วเป็นประจำทุกวันเมื่อตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานและเกิดการบีบอุจจาระออก
- มีการออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกาย ในท่าทางที่ช่วยให้ลำไส้เกิดการบีบตัว เช่น หมุนเอว ก้มแตะปลายเท้า เป็นต้น
- รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำทุกวัน ช่วงเวลา 07.00 น.-09.00 น.
- เลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบจาก ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ ส้ม แครอท มะเขือเทศ ผักใบเขียว ธัญพืช หรือขนมปังโฮลวีต เหล่านี้ คือ อาหารที่จะช่วยให้ขับถ่ายได้ดี นั่นเป็นเพราะอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงที่จะช่วยระบบขับ ถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ
- นักโภชนาการโรงพยาบาลเวชธานี ขยายความเข้าใจไว้ว่า อาหารที่ช่วยในการขับถ่ายนั้นเป็นอาหารที่มีเส้นใยหรือที่เรียกว่า ไฟเบอร์ ที่แบ่งได้เป็นเส้นใยที่ละลายในน้ำ ที่มักจะพบในผลไม้ต่างๆ และเป็นอาหารที่ดีของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ และเส้นใยที่ไม่ละลายในน้ำจำพวกนี้ถือได้ว่า เป็นยาระบายอย่างดีเพราะจะสามารถดูดซับน้ำและเร่งให้ผนังลำไส้บีบคลายตัว ช่วยให้กากอาหารเคลื่อนที่ ทั้งยังช่วยให้กากอาหารนั้นอ่อนนุ่ม หมดปัญหาที่จะเป็นริดสีดวงทวารหนัก ประเภทนี้มักจะเจอในผักและธัญพืช ส่วนปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทานนั้น แบ่งง่าย ๆ คือ ควรกินผักสุก 1 ทัพพี ผลไม้ประมาณ 8-10 ชิ้น หรือส้ม 1 ลูกก็พอแล้ว
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เป็นพื้นฐานที่ดีของการมีสุขภาพที่ดีและการขับถ่ายก็จะดีไปด้วย
- สามารถเสริมการใช้ไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติที่เป็นพรีไบโอติก เพื่อเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ได้เหมือนกระบวนการตามธรรมชาติ ก็จะสามารถช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่าย และเสริมสร้างความแข็งแรงของลำไส้และร่างกายได้ในทุกวัย