มรดก สถาปัตยกรรม และประติมากรรมของอารยธรรมของโรมัน     กฎหมาย (Law) เป็นมรดกสำคัญที่ทิ้งไว้ให้แก่โลก เป็นผลจากวิวัฒนาการกฎหมายสิบสองโต๊ะ โดยเฉพาะกฤษฎีกา ของพวกพรีเตอร์ -Civil law กฎหมายของกรุงโรมและพลเมืองชาวโรมันเป็นกฎหมายที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรและภาษาพูด- Law of peoples กฎหมายสำหรับประชาชนทั่วไปโดยไม่ต้องจำกัดเชื้อชาติกฎหมายนี้ให้สิทธิแก่ทาสและเอกชนเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติและกำหนดหลักการซื้อและการขายหุ้นส่วนและสัญญาเป็นกฎหมายซึ่งใช้กับชาวต่างชาติในอาณาจักร-Natural law มาจากปรัชญาสโตอิค ซึ่งด้านพัฒนามาจากความคิดของระเบียบธรรมชาติที่มีเหตุผล เป็นการรวบรวมความยุติธรรมและสิทธิ      วรรณคดี  โรมันถือเป็นแบบอย่างในการแต่งกาพย์บทละครและนิพนธ์ลิริก วรรณคดีละตินจะเน้นที่การสั่งสอนศีลธรรมจรรยามากกว่าวรรณคดีกรีก วรรณคดีละตินได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีที่งามมีคุณค่าและทิ้งไว้เป็นมรดกสำคัญของชาวโลกแบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ1.ยุคทอง เขียนในสมัย ออกัสทัส2.ยุคเงิน เขียนในคริสต์ศตวรรษที่ 1ยุคทอง กวีที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงยุคนี้ จูเลียส ซีซาร์ ได้แต่งประวัติศาสตร์เรื่อง Commentaries on the Gallic War     ศิลปะ  แม้ว่าชาวกรีกจะแพ้สงครามแก่โรมัน แต่กลับชนะทางวัฒนธรรม ด้วยโรมันได้นำศิลปวัฒนธรรมกรีกมาปฏิบัติ แต่มีจุดมุ่งหมายแตกต่างไปจากกรีก คือ โรมันเน้นประโยช์ใช้สอย ความหรูหราโอ่อ่าและความแข็งแรง เพื่อให้รับกับความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ      สถาปัตยกรรมและประติมากรรม  ศิลปะมีการเจริญเติบโตทั้งอาคารก่อสร้างที่ใหญ่โตและรูปภาพประดับกำแพง สถาปัตยกรรม ชาวโรมันใช้หลังคารูปโดม ใช้บัวหัวเสาแบบคอรินเธียน ซุ้มประตูโค้ง  สนามแข่งขันกีฬา อาคารสาธารณะจะสร้างใหญ่โตและเข้มแข็ง สถานที่ที่สำคัญเช่น วิหารแพนธิออน คอลอสเซียม  โรมันฟอรัม ประตูไชย เป็นต้น     ศาสนา  ชาวโรมันจะนับถือเทพเจ้า ศาสนาของโรมันจึงเน้นการทำพิธีเพื่อจะได้ทำให้องค์เทพเจ้าพอใจและได้รับผลประโยชน์ที่ชาวโรมันต้องการ เทพเจ้าของโรมันมีหลายองค์ เช่น จูปิเตอร์ เทพเจ้าแห่งท้องฟ้า นิเนอวา เทพเจ้าแห่งความรักและเนปจูน เทพเจ้าแห่งมหาสมุทร เป็นต้น ไม่มีกฎหรือไม่เชื่อในรางวัลตอบแทนและลงโทษชีวิตหลังการตาย กงสุลมีหน้าที่ประกอบพิธีศาสนา สร้างปฏิทินและกำหนดพิธีฉลองต่างๆ