พัฒนาการของคอมพิวเตอร์
ห้ามลบ ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.
หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล
ซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
พัฒนาการของคอมพิวเตอร์
จากการพัฒนาของคอมพิวเตอร์ เราแบ่งยุคของคอมพิวเตอร์จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดยแบ่ง คอมพิวเตอร์เป็น 4 ยุค ดังนี้
1. ยุคที่ 1 ค.ศ. 1944 - 1958 เป็นยุคที่ใช้หลอดสูญญากาศ
2. ยุคที่ 2 ค.ศ. 1659 - 1964 เป็นยุคที่ใช้ทรานซิสเตอร์
3. ยุคที่ 3 ค.ศ. 1965 - 1970 เป็นยุคที่ใช้ระบบวงจร IC
4. ยุคที่ 4 ค.ศ. 1970 - ปัจจุบัน ซึ่งใช้ระบบ Large Scale Intergrarion (LSI) วงจรกึ่งตัวนำ
คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในประเทศไทยในยุดคอมพิวเตอร์ยุคทรานซิสเตอร์ในปี พ.ศ. 2507
โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเข้ามาใช้ในการศึกษา ในระยะเวลาเดียวกันสำนักงานสถิติแห่งชาติ ก็นำมาเพื่อใช้ใน
การคำนวณสำมโนประชากร นับเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่ใช้ในประเทศไทย คอมพิวเตอร์ยุคทรานซิสเตอร์นี้ หน่วยเก็บข้อมูล
ของคอมพิวเตอร์ได้รับารพัฒนาไปมากจนทำให้ระบบการเก็บข้อมูลในจานแม่เหล็กมีความจุได้สูงขึ้นมาก
******************
การแบ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ตามขนาดในการใช้งาน
1. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นเคร่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการคำนวณด้วยความเร็วสูง ใช้ในการสำรวจ
และวิจัยองค์การขนาดใหญ่ของรัฐบาล หรืองานระดับโลก เช่น งานสำรวจอวกาศขององค์ารนาซาร์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ใน
ระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เช่น
องค์การนาซาของสหรัฐอเมริกา ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการคำนวณ และควบคุมยานอวกาศต่าง ๆ ในยุคแรก และ
มีพัฒนาการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันขนาดใหญ่
2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ คือ สามารถทำงานได้รวดเร็วหลายสิบล้านคำสั่งต่อวินาที จึง
เหมาะกับการใช้งานในด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก เช่น
งานธนาคาร หรือ งานของสำนักงานทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
3. มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)
มินิคอมพิวเตอร์ มีขนาดใหญ่กว่าไมโครคอมพิเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทนี้มีใช้ตามสถานศึษาระดับอุดมศึกษา
หลายแห่ง มินิคอมพิวเตอร์จึงเหมาะกับงานหลายประเภท เช่น วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ นอกจากนี้ยังใช้ใน
หน่วยงานราชการอีกด้วย
4. ไมโครคอมพิวเตร์ (Microcomputer)
ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและมีราคาค่อนข้างถูกคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ถูกเรียกว่า "ไมโครคอมพิวเตอร์"
ที่ใช้กันในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเครื่อง Macintosh และกลุ่มเครื่อง PC
.................................
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
เราได้ประโยชน์อะไรจากการเรียนคอมพิวเตอร์
1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก
2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและไรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วย
คอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI
3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง
6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ประโยชน์ทางตรง
ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ใน
ด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในแวดวงใน หากนำคอมพิวเตอร์
เข้าช่วยงาน จะช่วยแบ่งเบาภาระงานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ
2. ประโยชน์ทางอ้อม
คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางาน
ด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น
++++++++++++++++++++++++++
ความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ในยุคอดีตดึกดำบรรพ์ มนุษย์รู้จักวิธีการนับโดยการใช้นิ้วมือ กิ่งไม้ ก้อนหิน ลูกปัด มีการขีดเขียนตามผนังถ้ำเพื่อนับ
จำนวนต่อมาในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ชาวจีน ได้คิดค้นเครื่องมือที่ช่วยในการรับเป็นครั้งแรก โดยนำเอาลูกปัดมาร้อยเป็น
พวง ซึ่งสมัยโบราณเรียกว่า "ลูกคิด" (Abacus) ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการนับที่มนุษย์คิดขึ้นเป็นสิ่งแรกของโลก
และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ (Computer) มาจากรากศัพท์ ภาษาลาตินว่า Computare ซึ่งแปลว่า การคิดการคำนวณ
ใน ภาษาไทย เรียกว่า เครื่องคณิตกรณ์ (อ่านว่า คะ - นิด - ตะ - กอน) เป็นสิ่งประดิษฐ์ ที่ผลิตขึ้น เพื่อสนอง
ความต้องการของมนุษย์ ในปัจจุบัน เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ใช้ในการช่วยแก้ปัญหาการทำงานทั่วทุกวงการ
เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คอมพิวเตอร์ หมายถึง สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
เพื่อช่วยเหลืองานที่ซับซ้อนยุ่งยาก หรืองานที่มีประมาณมากให้เสร็จด้วยความถูกต้อง แม่นยำภายในระยะเวลาสั้น ๆ
ทั้งยังช่วยงานในด้านการบันเทิงได้อีกด้วย
-----------------------------------------------
อุกปรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้บังคับตัวชี้ (pointer) ให้เคลื่อนไปตามตำแหน่งต่าง ๆ บนจอภาพ สำหรับเรียก
โปรแกรมใช้งาน เลือกรายการคำสั่ง วาดภาพ หรือเลือกข้อความ
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พิมพ์คำสั่ง หรือป้อนข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันแป้นพิมพ์ส่วนใหญ่จะมี
108 คีย์ บางรุ่นอาจจะมีน้อยหรือมากกว่านี้ ถ้าแป้นพิมพ์รุ่นเก่าจะมี 101 คีย์
หน้าต่างวินโดสว์
วินโดสว์ Windows คือ โปรแกรมพิเศษชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ระบบปฏิบัติการ (Operatiog System)
จาก บริษัทไมโครซอฟต์ ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ทำให้สามารถใช้โปรแกรมอื่น ๆ ได้
หน้าต่างวินโดวส์ (Windows)
ปุ่ม Start
ปุ่มนี้ใช้เรียกโปรแกรม ไฟล์ ได้สะดวกและรวดเร็ว
ทาสก์บาร์ (Taskbar)
ใช้แสดงชื่อโปรแกรมที่เปิดใช้งานบนวินโดวส์ และแสดง Quick Lunch ที่เป็นไอคอนเล็ก ๆ มุมล่างซ้ายมือที่ใช้เรียก
โปรแกรมบ่อย ๆ เช่น Internet Explorer , Outlook Express
เดสก์ทอป (Dasktop)
เป็นพื้นที่ใช้สดงรายละเอียดของโปรแกรม
My Computer
เป็นไอคอนรวมโฟลเดอร์หลัก ๆ ของระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์
Internet Explorer
เป็นเบาวเซอร์ที่ใช้สำหรับท่องไปในอินเตอร์เน็ต
Network Neighborhood
แสดงชื่อเซิรฟ์เวอร์ หรือชื่อของคอมพิวเตอร์ที่ได้เชื่อมต่อเป็นเน็ตเวิร์ก
Recycle Bin
เป็นที่เก็บไฟล์ที่ถูกลบทิ้งไปชั่วคราว
หน้าต่าง (Windows)
เป็นกรอบสี่เหลี่ยมที่ประกอบที่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง สามารถปรับเปลี่ยนขนาดของหน้าต่างได้
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-