ภูเขาไฟระเบิด

ห้ามลบ ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.
หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล
ซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล


ภูเขาไฟระเบิด

 

 

                                                    

ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งดังที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้คือการระเบิดของภูเขาไฟที่ประเทศโคลัมเบียและปาปัวนิวกินี การระเบิดของภูเขาไฟนั้นแสดงให้เห้นว่าใต้ผิวโลกของเราลงไประดับหนึ่ง มีความร้อนสะสมมอยู่มากโดยเฉพาะที่เรียกว่า"จุดร้อน" ณ บริเวณนี้มีหินหลอมละลายเรียก แมกมา และเมื่อมันถูกพ่นขึ้นมาตามรอยแตกหรือปล่องภูเขาไฟ เราเรียกว่า ลาวา
กรบวนการระเบิดของภูเขานั้นยังไม่เป้นที่เข้าใจกระจ่างชัดนัก นักธรณีวิทยาคาดว่ามีการสะสมของงความร้อนอย่างมากบริเวรนั้น ทำให้มีแมกมา ไอนำ และแก๊ส สะสมตัวอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก่อให้เกิดความดัน ความร้อนสูง เมื่อถึงจุดหนึ่งมันจะเบิดออกมา อัตราความรุนแรงของการระเบิด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงการะเบิด รวมทั้งขึ้นอยู่กับความดันของไอ และความหนืดของลาวา ถ้าลาวาค้นมากๆ อัตราการรุนแรงของการระเบิดจะรุนแรงมากตามไปด้วย
เวลาภูเขาไฟระเบิด มไช่มีแต่เฉพาะลาวาที่ไหลออกมาเท่านั้น ยังมีแก๊สไอนำ ฝุ่นผงเถาถ่านต่างๆ ออกมาด้วย มองเป็นกลุ่มควันม้วนลงมา พวกไอนำจะควบแน่นกลายเป็นนำ นำเอาฝุ่นละอองเถ้าต่างๆที่ตกลงมาด้วยกัน ไหลบ่ากลลายเป็นโคลนท่วนในบริเวณเชิงเขาตำลงไป ยิ่งถ้าภูเขาไฟนั้นมีหิมะคลุมอยู่ มันจะละลายหิมะ นำนำโคลนมาเป็นจำนวนมากได้ เช่น ในกรณีของภัยพิบัติที่เกิดในประเทศโคลัมเบียเมื่อไม่นานนี้

 ปล่องภูเขาไฟจังหวัด  ลำปาง

ที่ตั้ง


ปล่องภูเขาไฟลำปางที่จัดได้ว่าเห็นชัดที่สุด ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องของอำเภอเมืองและอำเภอแม่ทะ ได้แก่ปล่อง ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ปล่องภูเขาไฟทั้งสอง ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน โดยอยู่คนละฝั่งถนน สายเข้าเหมืองถ่านหินแม่เมาะ การเข้าถึงทำได้โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 (ลำปาง-เด่นชัย) ออกจากตัวเมืองลำปางไป 10 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเหมืองถ่านหินแม่เมาะไปถึงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 2 และ 3 จะมีทางเลี้ยวขวาเข้าวัดเวียงสวรรค์ ให้วิ่งตามทางลาดยางเข้าไป 3.5 กิโลเมตรจะถึงวัด แต่ไม่เข้าวัดให้เลยไปจนสุดถนนซึ่งเป็นลานจอดรถด้านหลัง แล้วเดินขึ้นบันไดซีเมนต์ไปอีกราว 100-200 เมตร ขึ้นไปที่ศาลาชมวิวบนยอดเขา ซึ่งสร้างอยู่บนปากปล่องของภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ส่วนปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด ให้ใช้ถนนเข้าเหมืองเช่นกัน ไปจนเลยหลักกิโลเมตรที่ 6 เล็กน้อยจะมีทางแยกซ้ายเข้าสู่เชิงเขาดอยผาคอกจำป่าแดด แต่ที่นี่ไม่มีทางขึ้นเขาเหมือนที่ดอยผาคอกหินฟู จึงขึ้นไปปากปล่องไม่ได้

ชื่อของภูเขาไฟทั้งสองได้มาจากชาวบ้านในบริเวณนั้น เป็นคำง่ายๆ ที่มีความหมายสอดคล้องกับลักษณะของปล่องภูเขาไฟ คำว่า ผาคอก หมายถึงเขาที่มีผากั้นล้อมรอบ หินฟู หมายถึงหินที่มีลักษณะเป็นรอยแตกฟู มีน้ำหนักเบา ลอยน้ำได้ หรือตะกรันภูเขาไฟ (Scoria) ส่วนคำว่า จำป่าแดด เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณปล่อง ภูเขาไฟ

ภูเขาไฟทั้งสองลูกนี้สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลจากเส้นทางสายลำปาง-เด่นชัย ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 14 ที่กลางสะพานข้ามทางรถไฟ โดยให้มองไปทางเหมืองแม่เมาะจะเห็นภูเขายาวต่อเนื่องกันตั้งตระหง่านขวางหน้า ให้สังเกตภูเขาลูกเล็กยอดแหลม ซึ่งโดดเด่นกว่าบริเวณข้างเคียงตรงกลางเทือก จุดนี้เป็นจุดแบ่งระหว่างภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดดที่อยู่ทางซ้ายและภูเขาไฟดอยคอกผาหินฟู ที่อยู่ทางขวา มีระยะห่างกันในแนวเหนือใต้ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

                                    
ปล่องภูเขาไฟลำปางอีกบริเวณหนึ่ง อยู่ที่บริเวณอำเภอเกาะคา อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปประมาณ 32 กิโลเมตร อยู่ในแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1: 50,000 ระวางอำเภอเกาะคา เส้นละติจูดที่ 19ฐ 0ข 94ขข เหนือกับเส้นลองจิจูดที่ 5ฐ 40ข 100ขข ตะวันออก ปล่องภูเขาไฟนี้มีถนนสายลำปาง-สบปราบ (ทางหลวงหมายเลข 1) ตัดผ่านระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 586 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเส้นทางสายนี้ โดยจะเห็นชั้นหินลาวา (หินบะซอลต์) ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ เนื่องจากปากปล่องภูเขาไฟมีบริเวณกว้าง ลักษณะของพืชหรือต้นไม้คลุมดินมีลักษณะเหมือนๆ กับภูมิประเทศทั่วๆ ไปจึงไม่เป็นที่ทราบว่าบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของปล่องภูเขาไฟ และไม่ได้นำรูปมาแสดงไว้
                                 

ลักษณะของแหล่ง
ปล่องภูเขาไฟลำปางทั้งสองแห่ง เมื่อมองจากด้านล่างจะเห็นเป็นเทือกเขายอดเว้า แต่ถ้ามองจากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นยอด เป็นแอ่งรูปกลม เมื่อขึ้นไปที่ปากปล่องจะเห็นสันเขาเป็นแนวยาว ล้อมรอบเป็นวง การมองต้องใช้จินตนาการประกอบ เนื่องจากปล่องคลุมพื้นที่กว้างและต้นไม้คลุมหนาแน่นทำให้มองเหมือนไหล่เขาชันทั่วๆ ไป

ลักษณะของปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด เป็นปากปล่องที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 150 เมตร ขอบปล่องด้านเหนือและด้านตะวันตกเฉียงใต้เปิดออก ทำให้ลาวาไหลออกคลุมพื้นที่บริเวณห้วยจำห้า ห้วยแม่ทะ และพื้นราบ เห็นได้จากหินบะซอลต์ที่คลุมบริเวณดังกล่าว ความชันของเนินเขาด้านใต้จะมีมุมเอียงเทมากกว่าด้านเหนือ รูปร่างภูเขาไฟมองเห็นไม่ชัดเจน เพราะเกิดชิดกับเทือกเขาหินปูน ซึ่งเป็นเทือกที่ขวางกั้นระหว่างแอ่งลำปางกับแอ่งแม่เมาะ ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดดมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปางกลาง 530 เมตร ปล่องด้านเหนือแหว่งเล็กน้อย เนื่องจากเป็นทางไหลออกของลาวา ความชันของเนินเขาด้านใต้ชันมากกว่าด้านเหนือ

สำหรับลักษณะของปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู มีลักษณะเป็นปล่องสองปล่องซ้อนกัน โดยปล่องแรกมีขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากมีการปะทุของลาวาสองครั้ง จึงทำให้ขอบปล่องเดิมถูกทำลาย เหลือแต่ขอบด้านใต้ โดยเกิดเป็นปล่องเล็กซ้อนขึ้นมา ปล่องเล็กมีลักษณะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ขอบปล่องด้านทิศเหนือเปิดออก ทำให้ลาวาไหลคลุมพื้นที่ราบโดยรอบเกิดเป็นหินบะซอลต์ ปากปล่องมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 200 เมตร คลุมพื้นที่ประมาณ ครึ่งตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 450 เมตร และมีความสูงจากที่ราบข้างเคียงประมาณ 80 เมตร

ปล่องภูเขาไฟสบปราบ มีลักษณะเป็นเนินยาวขนานไปกับแม่น้ำวังซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตก ตอนเหนือเป็นเนินสูงรูปร่างคล้ายกรวยฐานกว้าง มีแบบรูปทางน้ำเป็นรัศมีและวงแหวน ตอนใต้เป็นเนินยาวค่อนข้างราบ เป็นส่วนลาดต่อมาจากเนินรูปกรวยซึ่งอยู่ตอนเหนือ บนยอดเนินรูปกรวย มีลักษณะเป็นแอ่งรูปวงกลม มีขอบสูงเปิดออกทางทิศตะวันตก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 700 เมตร ลักษณะของเนินทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้เป็นธรณีสันฐานที่เกิดจาก ภูเขาไฟและลาวาหลาก โดยเนินตอนเหนือเป็นปล่องภูเขาไฟที่กาลเวลาได้กัดกร่อนจนปล่องพังทะลาย ส่วนเนินยาวตอนใต้เป็นลาวาที่หลากล้นออกมาปกคลุมพื้นที่หุบเขาแม่วัง ซึ่งในปัจจุบันประชาชนได้ตั้งบ้านเรือน ทำการเกษตรมีผลผลิตดี เนื่องจากหินบะซอลต์ผุพังกลายเป็นดินที่มีความสมบูรณ์สูง บริเวณพื้นที่ภูเขาไฟพบบอมบ์ภูเขาไฟและตะกรันภูเขาไฟ ส่วนบริเวณปล่องภูเขาไฟพบการหลากของชั้นลาวา นับได้ 5 ชั้น หรือแสดงการปะทุของหินหนืดจากภายใต้ผิวโลกประมาณ 5 ครั้ง

                                  

ธรณีวิทยา
กลุ่มหินบะซอลต์ ที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟลำปางไหลอาบออกมาปกคลุมพื้นที่ มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่คลุมพื้นที่อำเภอเกาะคา และอำเภอสบปราบ เรียกรวมกันว่า บะซอลต์สบปราบ มีพื้นที่ประมาณ 70 ตารางกิโลเมตร อีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในบริเวณอำเภอเมือง และอำเภอแม่ทะ รวมเรียกว่า บะซอลต์แม่ทะ ซึ่งได้แก่ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู กลุ่มนี้ให้ลาวาคลุมพื้นที่ประมาณ 120 ตารางกิโลเมตร

ภูเขาไฟลำปางเกิดจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ทำให้เกิดรอยเลื่อนลึก (Deepseated fault) ขึ้นในแนวเหนือ-ใต้ เป็นช่องทางให้หินหนืดภายใต้ผิวโลก ทะลักล้นออกมาในแนวรอยเลื่อนนี้เกิดเป็นปล่องภูเขาไฟเรียงตัวในแนวนี้ด้วย

จังหวัดลำปางได้จัดให้ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัด สามารถเดินทางไปชมได้สะดวก แต่การชมภูเขาไฟ จะต้องใช้จินตนาการค่อนข้างสูง เพราะปล่องภูเขาไฟมีขนาดกว้างมากกว่าสายตาจะเก็บภาพได้หมด ทั้งยังมีต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมอยู่หนาแน่น หากไม่มีการชี้นำจะมองไม่เห็นภาพใดๆ แม้ทางจังหวัดจะได้พัฒนาสร้างศาลาชมวิวไว้บนสันดอยผาคอกหินฟูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแล้วก็ตาม แต่หากจังหวัดจะพัฒนาให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวอำเภอแม่เมาะ สำหรับไปนั่งพักชมวิวหรือนำอาหารเครื่องดื่มติดตัวไปนั่งรับประทานกันเป็นกลุ่มได้ จะทำให้ศาลาที่ก่อสร้างไว้แล้วใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น


สร้างโดย: 
jumleen

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 474 คน กำลังออนไลน์