สังคมการปกครอง อารยธรรมโรมัน
อารยธรรมโรมัน
สังคมการเมืองการปกครอง
อารยธรรมโรมันเกิดจากบริเวณคาบสมุทรอิตาลี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป โดยมีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรียกว่า "แหลมอิตาลี"
เดิมทีตามความเชื่อในตำนานเล่าว่า พวกแรกที่เข้ามาในอารยธรรมโรมันคือ "พวกอีทรัสกัน" เดิมทีมีถิ่นเดิมอยู่ในเอเชียไมเนอร์ และเมื่ออพยพเข้ามาในแหลมอิตาลีก็ได้นำเอาความเชื่อในศาสนาของกรีก ศิลปะการแกะสลัก การทำเครื่องปั้นดินเผา อักษรกรีก ฯลฯ เข้ามาเผยแพร่ในคาบสมุทรอิตาลี
ชาวโรมันเดิมเป็นคนเชื้อสายอินโด-ยุโรเปียน ต่อมามีชาวอินโด-ยุโรเปียนกลุ่มหนึ่งเดินทางเข้ามาบุกรุกดินแดนของแหลมอิตาลี คนพวกนี้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณอิตาลีทางตอนเหนือและตอนกลาง และต่อมาก็ได้ผสมกลมกลืนกับพวกชนพื้นเมืองเดิม จนเกิดเป็นชนกลุ่มใหม่อีกกลุ่มหนึ่งมีชื่อว่า "อิตาลิค(Itslics) " ชนพวกนนี้มีพัฒนาการที่มากขึ้นมากกว่าชนเผ่าเดิมในแหลมอิตาลี คนพวกนี้ตั้งถิ่นฐานส่วนใหญ่อยู่ใน"ลาติอุม(Latium)" ทางตอนใต้ของแม่น้ำ"ไทเบอร์(Tiber)" มีชื่อเรียกว่า "พวกละติน(Latins)"
ต่อมาพวกละตินได้มีการติดต่อกับพวกอีทรัสกัน จากนั้นพวกละตินนี้ก็ได้ขับไล่กษัตริย์ของอีทรัสกันออกจากบัลลังก์ และจัดตั้งโรมมีรูปแบบการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ อำนาจในการปกครองส่วนใหญ่เป็นของพวกคนชนชั้นสูง คือ พวกแพทริเชียน(Patricians)
การปกครองของโรมันได้แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม
1). พวกแพทริเชียน(Patricians) คือพวกชนชั้นสูง ได้แก่ กลุ่มผู้ดีมีสกุล มีความมั่งคั่งร่ำรวย พวกแพทริเชียน มีอำนาจในการปกครองสาธารณรัฐและพยายามรักษาอำนาจของตนด้วยการห้ามปะปนโลหิตกับพวกสามัญ
2).พวกเพลเบียน(Plebeians) คือ พวกชนชั้นต่ำ หรือสามัญ ได้แก่ ชาวนา พ่อค้า ช่างฝีมือ ซึ่งแทบจะไม่มีอำนาจหรือสิทธิทางการเมืองและสังคมเลย
ต่อมาก็ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างพวกแพทริเชียนและเพลเบียน เกี่ยวกับอำนาจและสิทธิในสังคมทางการเมือง พวกเพลเบียนได้มีสิทธิออกกฏหมายร่วมกับพวกแพทริเชียน เป็นการออกประมวลกฏหมายเป็นลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของโรมัน เรียกว่า "กฏหมายสิบสองโต๊ะ" (Law of the Twelve tables) ซึ่งถูกจารึกไว้บนแผ่นไม้ ถือกันว่าเป็นกฏบัตรแห่งเสรีภาพของประชาชนโรมัน และเพื่อใช้บังคับให้ชาวโรมันทุกคนปฏิบัติ อยู่ในกรอบเดียวกันของกฏหมาย กฏหมายสิบสองโต๊ะดังกล่าวนับว่าเป็นมรดกชิ้นสำคัญของโรม
ต่อมาโรมได้ทำสงครามพิวนิก(Punic Wars) กับพวกคาร์เทจ และพวกคาร์เทจเองก็เป็นฝ่ายผ่ายแพ้ และต้องสูญเสียอาณาจักร เป็นการเปิดโอกาสให้โรมันเป็นเจ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นรัฐที่มีอำนาจมากที่สุดในขณะนั้น โดยผูกขาดการค้ากับยุโรปตะวันตกกับยุโรปตะวันออก และเอเชียไมเนอร์ จนมีฐานะมั่งคั่ง
เมื่อ 27 ปีก่อนคริสต์ศักราช โรมันได้ยุติการปกครองในระบอบสาธารณรัฐและหันมาใช้การปกครองแบบจักรวรรดิอย่างเป็นทางการ ออคเทเวียน(Octavian)ได้รับสมญานามว่า ออกุสตุส(Augustus) และสภาโรมันยกย่องให้เป็นจักรพรรดิพระองค์แรกของจักรวรรดิโรมัน
ในคริสต์ศัตวรรษที่ 5 จักรวรรดิโรมันก็อ่อนแอลง ในที่สุดกรุงโรมก็ถูกพวกเผ่าเยอรมันหรือเผ่ากอท(Goth) หรอืโกล์ ซึ่งเป้นเผ่าที่ใหญ่ที่สุด เข้าปล้นและโจมตีกรุงโรม เมื่อสิ้นสุด โรมันก็เข้าสู้ยุคมืด
ตรวจแล้ว