สร้าง VDO ด้วย Windows Movie Maker

ห้ามลบ ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.
หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล
ซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล


Windows Movie Maker


• การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือของ Windows Movie Maker
• เกี่ยวกับบานหน้าต่าง
• เกี่ยวกับกระดานเรื่องราวและเส้นเวลา
• เกี่ยวกับหน้าจอแสดงตัวอย่าง
• การทำความเข้าใจเกี่ยวกับคอลเลกชัน โครงการและภาพยนตร์
• การใช้ Windows Movie Maker

คุณสามารถใช้ Windows Movie Maker ในการนำเข้าเสียงและวิดีโอจากกล้องวิดีโอดิจิทัลมายังคอมพิวเตอร์ของคุณ และใช้เนื้อหาที่นำเข้าในภาพยนตร์ของคุณได้ คุณยังสามารถนำเข้าเสียง วิดีโอหรือภาพนิ่งที่มีอยู่มาไว้ใน Windows Movie Maker เพื่อใช้กับภาพยนตร์ที่คุณสร้างได้ด้วย
หลังจากแก้ไขเนื้อหาของเสียงและวิดีโอใน Windows Movie Maker ซึ่งรวมถึงการเพิ่มชื่อเรื่อง ช่วงการเปลี่ยนภาพวิดีโอหรือลักษณะพิเศษเข้าไปแล้ว คุณสามารถเผยแพร่ภาพยนตร์ในขั้นสุดท้ายและใช้ภาพยนตร์ร่วมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ของคุณ

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือของ Windows Movie Maker
Windows Movie Maker จะแบ่งออกเป็นสามพื้นที่หลักคือ บานหน้าต่าง กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา และหน้าจอแสดงตัวอย่าง รูปภาพต่อไปนี้แสดงพื้นที่พื้นฐานของ Windows Movie Maker
 
Windows Movie Maker
เนื้อหาในส่วนนี้จะให้คำแนะนำย่อๆ เกี่ยวกับพื้นที่เหล่านี้

เกี่ยวกับบานหน้าต่าง
คุณลักษณะหลักของอินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ Windows Movie Maker จะปรากฏในบานหน้าต่างแยกต่างหาก คุณสามารถสลับระหว่างมุมมอง 'คอลเลกชัน' และมุมมอง 'งาน' ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงานที่คุณต้องการทำ
บานหน้าต่าง 'งาน' จะแสดงรายการทั่วไปที่คุณอาจต้องทำเมื่อสร้างภาพยนตร์ รวมถึงการนำเข้าแฟ้ม การแก้ไขภาพยนตร์ และการเผยแพร่ภาพยนตร์
บานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' จะแสดงโฟลเดอร์คอลเลกชันซึ่งมีคลิปอยู่ โฟลเดอร์คอลเลกชันจะปรากฏทางซ้ายของบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' และคลิปในโฟลเดอร์คอลเลกชันที่เลือกไว้จะปรากฏทางขวาของบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' รูปภาพต่อไปนี้แสดงบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน'
 
บานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน'

บานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' จะแสดงคลิป ลักษณะพิเศษ หรือช่วงการเปลี่ยนภาพที่คุณทำงานอยู่ในขณะสร้างภาพยนตร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณกำลังทำงาน คุณสามารถเปลี่ยนมุมมองเพื่อแสดงรูปขนาดย่อหรือรายละเอียดได้
คุณสามารถลากคลิป ช่วงการเปลี่ยนภาพ หรือลักษณะพิเศษจากบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' หรือคอลเลกชันจากบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' ไปยังกระดานเรื่องราว/เส้นเวลาสำหรับโครงการปัจจุบันของคุณได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถลากคลิปต่างๆ ไปเล่นที่หน้าจอแสดงตัวอย่างได้ด้วย หากคุณเปลี่ยนแปลงคลิป การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลต่อโครงการปัจจุบันเท่านั้น แต่จะไม่มีผลกับแฟ้มต้นฉบับ
หน้าจอแสดงตัวอย่างทำให้คุณดูคลิปแต่ละรายการหรือทั้งโครงการได้ ด้วยหน้าจอแสดงตัวอย่าง คุณสามารถแสดงตัวอย่างโครงการก่อนที่จะเผยแพร่เป็นภาพยนตร์ได้ คุณสามารถใช้ตัวควบคุมการเล่นเพื่อนำทางไปยังคลิปแต่ละรายการหรือทั้งโครงการได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ปุ่มบนหน้าจอแสดงตัวอย่างในการทำงานต่างๆ เช่น การแยกคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอให้เป็นคลิปขนาดเล็กสองคลิป หรือการถ่ายรูปของเฟรมปัจจุบันที่แสดงอยู่ในหน้าจอแสดงตัวอย่าง

เกี่ยวกับกระดานเรื่องราวและเส้นเวลา
พื้นที่ที่คุณสร้างและแก้ไขโครงการจะแสดงเป็นสองมุมมองคือ กระดานเรื่องราวและเส้นเวลา คุณสามารถสลับระหว่างสองมุมมองดังกล่าวได้เมื่อสร้างภาพยนตร์
กระดานเรื่องราว.   กระดานเรื่องราวเป็นมุมมองเริ่มต้นใน Windows Movie Maker คุณสามารถใช้กระดานเรื่องราวเพื่อดูลำดับหรือการจัดลำดับของคลิปต่างๆ ในโครงการของคุณและสามารถจัดเรียงใหม่ได้ง่าย หากจำเป็น มุมมองดังกล่าวทำให้คุณเห็นช่วงการเปลี่ยนภาพของวิดีโอหรือลักษณะพิเศษของวิดีโอที่คุณเพิ่มเข้าไปได้ คลิปเสียงที่คุณเพิ่มลงในโครงการจะไม่แสดงบนกระดานเรื่องราว แต่คุณสามารถดูได้ในมุมมองเส้นเวลา รูปภาพต่อไปนี้แสดงมุมมองกระดานเรื่องราวใน Windows Movie Maker
 
มุมมองกระดานเรื่องราว

เส้นเวลา.    มุมมองเส้นเวลาเป็นมุมมองที่แสดงรายละเอียดของโครงการภาพยนตร์ของคุณและทำให้คุณแก้ไขภาพยนต์ได้ปราณีตขึ้น การใช้มุมมองเส้นเวลาทำให้คุณสามารถตัดแต่งคลิปวิดีโอ ปรับระยะเวลาของช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างคลิป และดูแทร็กเสียงได้ คุณสามารถใช้เส้นเวลาในการตรวจทานหรือแก้ไขการกำหนดเวลาคลิปในโครงการของคุณ ใช้ปุ่มเส้นเวลาในการสลับไปยังมุมมองกระดานเรื่องราว ย่อหรือขยายรายละเอียดของโครงการ บรรยายเส้นเวลา หรือปรับระดับเสียง รูปภาพต่อไปนี้แสดงมุมมองเส้นเวลาใน Windows Movie Maker
 
มุมมองเส้นเวลา

เกี่ยวกับหน้าจอแสดงตัวอย่าง
หน้าจอแสดงตัวอย่างจะแสดงคลิปหรือรูปภาพที่คุณกำลังทำงานอยู่ คุณสามารถใช้หน้าจอแสดงตัวอย่างในการดูคลิปหรือรูปภาพต่างๆ ในโฟลเดอร์คอลเลกชันหรือในโครงการที่คุณกำลังทำงานอยู่ได้ ใช้ปุ่มใต้หน้าจอแสดงตัวอย่างเพื่อเล่นคลิปหรือหยุดชั่วคราว หรือเพื่อเลื่อนไปข้างหน้าหรือกรอกลับคลิปทีละเฟรม ปุ่ม 'แยก' ทำให้คุณแยกคลิปออกเป็นสองส่วนในจุดที่แน่ชัดซึ่งแสดงในหน้าจอแสดงตัวอย่าง
คุณสามารถกำหนดให้หน้าจอแสดงตัวอย่างใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ โดยการคลิก มุมมอง ชี้ไปที่ ขนาดหน้าจอแสดงตัวอย่าง แล้วเลือกขนาด นอกจากนี้ คุณยังสามารถลากหน้าต่างเพื่อทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ด้วย

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับคอลเลกชัน โครงการและภาพยนตร์
Windows Movie Maker ทำให้คุณสามารถจัดการ คลิป วิดีโอ รูปภาพและแฟ้มเสียงได้อย่างง่ายดายโดยใช้ชุดโฟลเดอร์ที่เรียกว่าคอลเลกชัน คุณสามารถดูคอลเลกชันได้โดยการคลิก มุมมอง แล้วคลิก คอลเลกชัน
เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอลเลกชัน ให้ดูที่ การทำงานกับโฟลเดอร์.
เมื่อคุณเริ่มย้ายคลิปวิดีโอ คลิปเสียง และรูปภาพไปที่กระดานเรื่องราวหรือเส้นเวลา Windows Movie Maker จะสร้างโครงการที่มีข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับลำดับของแฟ้ม พร้อมด้วยช่วงการเปลี่ยนภาพหรือลักษณะพิเศษที่คุณอาจเพิ่มเข้าไป คุณสามารถบันทึกโครงการไว้เพื่อให้ครั้งถัดไปที่คุณเปิดโครงการใน Windows Movie Maker คุณจะเห็นข้อมูลทั้งหมดตามลำดับเดิม เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ ให้ดูที่ การทำงานกับโครงการ.
เมื่อคลิปวิดีโอ คลิปเสียง และรูปภาพทั้งหมดของคุณจัดเรียงตามลำดับที่ต้องการแล้ว คุณก็สามารถสร้างภาพยนตร์ได้โดยการคลิก เผยแพร่ภาพยนตร์ คุณสามารถเผยแพร่ภาพยนตร์ของคุณลงบนคอมพิวเตอร์ บันทึกลงซีดีแบบบันทึกได้ ส่งเป็นสิ่งที่แนบมาในข้อความอีเมล หรือบันทึกลงบนเทปวิดีโอดิจิทัล (DV) หากคุณมี Windows DVD Maker ซึ่งรวมอยู่ใน Windows Vista Ultimate และ Windows Vista Home Premium คุณสามารถบันทึกภาพยนตร์ลงในดีวีดีได้โดยตรง เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพยนตร์ ให้ดูที่ การเผยแพร่ภาพยนตร์.

การใช้ Windows Movie Maker
การสร้างภาพยนตร์โดยใช้ Windows Movie Maker สามารถแบ่งออกได้เป็นสามขั้นตอนคือ นำเข้า แก้ไข และเผยแพร่ ต่อไปนี้คือการเชื่อมโยงไปยังหัวข้อที่อธิบายถึงวิธีการเริ่มต้นใช้งาน Windows Movie Maker
•   การนำเข้าแฟ้มวิดีโอ รูปภาพ และเสียง
•   การทำงานกับคลิป
•   การเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษลงในรูปภาพและวิดีโอ
•   การเพิ่มชื่อเรื่องภาพยนตร์และรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
•   การเผยแพร่ภาพยนตร์

ดูเพิ่มเติม
• การทำงานกับโครงการ
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป

การทำงานกับคลิปใน Windows Movie Maker

ในบทความนี้
• การแยกและการรวมคลิป
• การตัดแต่ง (หรือซ่อน) ส่วนของคลิปวิดีโอ
• การสร้างคลิป

คุณสามารถแก้ไขคลิปด้วยการใช้ Windows Movie Maker ได้หลายวิธีด้วยกัน ต่อไปนี้เป็นรายการของการแก้ไขในรูปแบบต่างๆ
การแยกและการรวม เมื่อคุณแยกคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ หมายความว่าคุณแบ่งคลิปนั้นออกเป็นสองคลิป และคุณสามารถแยกคลิปใดคลิปหนึ่งหรือทั้งสองคลิปให้เป็นคลิปที่เล็กลงได้อีกครั้ง และแยกต่อไปได้อีก นอกจากนี้ คุณยังสามารถรวมคลิปเพื่อทำให้เป็นคลิปที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้เช่นกัน
การตัดแต่งคลิปวิดีโอ คุณสามารถซ่อนหรือตัดแต่งคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอใดๆ เพื่อไม่ให้ผู้ชมได้ยินหรือดูคลิปนั้นได้ ตัวอย่างเช่น หากคลิปวิดีโอเริ่มต้นด้วยวิดีโอสีดำสนิทเป็นช่วงสั้นๆ คุณสามารถตัดแต่งจุดเริ่มต้นของวิดีโอเพื่อไม่ให้เฟรมวิดีโอสีดำสนิทปรากฏในภาพยนตร์ที่เผยแพร่ได้
การสร้างคลิป คุณอาจจะต้องการสร้างคลิปวิดีโอขนาดเล็กหลายๆ คลิป คลิปที่สามารถจัดการได้ง่ายจากคลิปวิดีโอที่มีอยู่เพื่อให้การทำงานกับโครงงานของคุณทำได้ง่ายขึ้น Windows Movie Maker จะสร้างคลิปด้วยวิธีการต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของคลิป

การแยกและการรวมคลิป

หากคุณนำเข้าแฟ้มวิดีโอซึ่งมีการแบ่งออกเป็นคลิปเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใน Photo Gallery คลิปวิดีโอดังกล่าวจะปรากฏใน Windows Movie Maker ด้วย นอกจากนี้ คุณยังสามารถแยกคลิปเสียงและคลิปวิดีโอให้เป็นคลิปเล็กๆ ด้วยตัวเองเพื่อให้การทำงานกับคลิปเหล่านั้นทำได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณมีคลิปวิดีโอซึ่งต้องการจะแทรกช่วงการเปลี่ยนภาพวิดีโอ คุณสามารถแยกคลิปวิดีโอในจุดที่คุณต้องการแทรกช่วงการเปลี่ยนภาพวิดีโอ แล้วเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพลงเข้าไปได้
ในทางกลับกัน คุณอาจจะมีแฟ้มที่แบ่งออกเป็นคลิปเล็กๆ ซึ่งต้องการจะรวม อย่างไรก็ตาม คุณสามารถรวมได้เฉพาะคลิปที่อยู่ติดกันเท่านั้น คำว่า "ติดกัน" หมายถึงเวลาเริ่มต้นของคลิปที่สองจะต้องตามด้วยเวลาสิ้นสุดของคลิปแรกทันที ตัวอย่างเช่น หากคุณมีแฟ้มเสียงหรือแฟ้มวิดีโอซึ่งแบ่งออกเป็นคลิปเล็กๆ เมื่อนำเข้าคลิปเหล่านั้นใน Windows Movie Maker โดยคลิปมีชื่อคลิป 1 คลิป 2 และคลิป 3 ตามลำดับ คุณสามารถรวมคลิป 1 และคลิป 2 หรือ คลิป 2 และคลิป 3 แต่คุณไม่สามารถรวมคลิป 1 และคลิป 3 ได้
คุณสามารถรวมคลิปวิดีโอที่อยู่ติดกันในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา หรือในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ก่อนที่จะเพิ่มคลิปเดียวหรือหลายๆ คลิปลงในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
เมื่อต้องการแยกคลิป
1. ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' หรือบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ให้คลิกคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงที่ต้องการแยก
2. ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง ให้คลิก เล่น
3. เมื่อคลิปมาถึงจุดที่ใกล้กับตำแหน่งที่ต้องการแยกคลิป ให้คลิก หยุดชั่วคราว
4. ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง ให้ใช้ตัวควบคุมการเล่นเพื่อค้นหาจุดที่คุณต้องการแยกคลิป
5. ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง ให้คลิกปุ่ม แยก
เคล็ดลับ  คุณสามารถลากตัวบ่งชี้การเล่นบนแถบค้นหาไปยังจุดที่แน่นอนที่คุณต้องการแยกคลิป

เมื่อต้องการรวมคลิป
1. ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' หรือบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ให้กดแป้น CTRL ค้าง แล้วคลิกคลิปที่อยู่ติดกันที่ต้องการจะรวม
2. คลิก คลิป แล้วคลิก รวม  ชื่อและข้อมูลคุณสมบัติของคลิปแรกในกลุ่มจะถูกใช้สำหรับคลิปใหม่และเวลาจะถูกปรับอย่างเหมาะสม
เคล็ดลับ   คุณสามารถรวมคลิปได้มากกว่าสองคลิปในแต่ละครั้ง หากคลิปเหล่านั้นต่อเนื่องกัน เมื่อต้องการเลือกหลายๆ คลิป ให้คลิกคลิปแรก กดแป้น Shift ค้างไว้ แล้วคลิกคลิปสุดท้าย

การตัดแต่ง (หรือซ่อน) ส่วนของคลิปวิดีโอ

เมื่อคุณตัดแต่งคลิป คุณได้สร้างจุดเริ่มต้นและ/หรือจุดสิ้นสุดการตัดแต่งใหม่ จุดเริ่มต้นการตัดแต่งจะเวลาที่คลิปเริ่มเล่น และจุดสิ้นสุดการตัดแต่งจะกำหนดเวลาที่คลิปหยุดเล่นในโครงงานและภาพยนตร์ในขั้นสุดท้ายของคุณ เมื่อคุณตัดแต่งคลิปใดๆ ส่วนที่ตัดแต่งของคลิปไม่ได้ถูกเอาออกไปจากแฟ้มต้นฉบับจริงๆ เพียงแต่ไม่ปรากฏในโครงงานหรือภาพยนตร์ที่เผยแพร่เท่านั้น

เมื่อต้องการตัดแต่งคลิปวิดีโอ
1.  หากคุณอยู่ในมุมมองกระดานเรื่องราว ให้คลิก มุมมอง แล้วคลิก เส้นเวลา
2.  บนเส้นเวลา ให้คลิกคลิปที่ต้องการตัดแต่ง
3.  ใช้ตัวควบคุมการเล่นใต้หน้าจอแสดงตัวอย่างเพื่อค้นหาจุดที่คุณต้องการตัดแต่งคลิป
4.  ให้ทำดังต่อไปนี้
•  เมื่อตัวบ่งชี้การเล่นอยู่ในจุดที่คุณต้องการให้คลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงที่เลือกเริ่มเล่น ให้คลิก คลิป แล้วคลิก ตัดแต่งส่วนต้น
•  เมื่อตัวบ่งชี้การเล่นอยู่ในจุดที่คุณต้องการให้คลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงที่เลือกไว้หยุดเล่น ให้คลิก คลิป แล้วคลิก ตัดแต่งส่วนท้าย
หมายเหตุ
• คุณสามารถลากที่จับปรับการตัดแต่งบนคลิปเพื่อตั้งค่าจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการตัดแต่ง ที่จับปรับการตัดแต่งจะปรากฏเป็นสามเหลี่ยมสีดำเล็กๆ ที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของคลิปหลังจากคุณคลิกที่คลิปบนเส้นเวลา เมื่อวางตัวชี้ค้างไว้เหนือที่จับปรับการตัดแต่ง ตัวชี้จะเปลี่ยนเป็นลูกศรสองหัวสีแดง ให้คลิกและลากที่จับปรับการตัดแต่งเพื่อตั้งค่าจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของคลิปใหม่
รูปภาพต่อไปนี้จะแสดงที่จับปรับการตัดแต่ง
 
การตัดแต่งคลิป

• คุณอาจต้องคลิกปุ่ม ขยายเส้นเวลา หนึ่งครั้งหรือมากกว่าเพื่อให้ดูคลิปบนเส้นเวลาได้ชัดเจนขึ้น ปุ่ม 'ขยายเส้นเวลา' จะปรากฏบนแถบเครื่องมือเส้นเวลาเป็นแว่นขยายมีเครื่องหมายบวกอยู่ด้านใน
เมื่อต้องการเลิกทำคลิปที่ตัดแต่งแล้ว
1.   หากคุณอยู่ในมุมมองกระดานเรื่องราว ให้คลิก มุมมอง แล้วคลิก เส้นเวลา
2.   คลิกคลิปที่ตัดแต่งแล้วบนเส้นเวลา คลิก คลิป แล้วคลิก ล้างจุดตัดแต่ง

การสร้างคลิป

คุณอาจจะต้องการสร้างคลิปวิดีโอขนาดเล็กหลายๆ คลิป คลิปที่สามารถจัดการได้ง่ายจากคลิปวิดีโอที่มีอยู่เพื่อให้การทำงานกับโครงงานของคุณทำได้ง่ายขึ้น Windows Movie Maker จะสร้างคลิปด้วยวิธีการต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของคลิป หากคลิปต้นฉบับมาจากกล้องวิดีโอดิจิทัล (DV) Windows Movie Maker จะสร้างคลิปโดยยึดตามเวลาประทับของกล้องวิดีโอดิจิทัลเมื่อบันทึกวิดีโอต้นฉบับและการเปลี่ยนเฟรมที่สำคัญในวิดีโอ
1.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้เลือกคลิปวิดีโอที่คุณต้องการสร้างคลิป
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก สร้างคลิป
 หมายเหตุ   คุณสามารถสร้างคลิปโดยอัตโนมัติสำหรับแฟ้ม Windows Media Video (WMV) และแฟ้มวิดีโอ Audio-Video Interleaved (AVI) ซึ่งใช้ตัวแปลงสัญญาณ DV สำหรับรูปแบบแฟ้มวิดีโออื่นๆ คลิปไม่สามารถสร้างได้โดยอัตโนมัติเสมอไป ดังนั้นแฟ้มวิดีโอดังกล่าวจะปรากฏเป็นคลิปวิดีโอขนาดใหญ่หนึ่งคลิปใน Windows Movie Maker สำหรับคลิปวิดีโอขนาดใหญ่ดังกล่าว คุณต้องแยกคลิปวิดีโอใหญ่ให้เป็นคลิปเล็กๆ ด้วยตัวเอง
การเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษลงในรูปภาพและวิดีโอใน Windows Movie Maker

ในบทความนี้
• ช่วงการเปลี่ยนภาพ
• ลักษณะพิเศษ
คุณสามารถปรับปรุงภาพยนตร์ของคุณได้โดยการเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพหรือลักษณะพิเศษ

ช่วงการเปลี่ยนภาพ

ช่วงการเปลี่ยนภาพจะควบคุมวิธีการเล่นภาพยนตร์ของคุณจากคลิปวิดีโอหรือรูปภาพหนึ่งไปยังรายการถัดไป คุณสามารถเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างรูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือชื่อเรื่องในสองรายการรวมกันได้บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา คุณสามารถเปลี่ยนระยะเวลาการเล่นของช่วงการเปลี่ยนภาพให้เท่ากับระยะเวลาที่สั้นกว่าของสองคลิปติดกันได้ ช่วงการเปลี่ยนภาพที่คุณสามารถเพิ่มได้แก่ การค่อยๆ ปรากฏจากหน้าจอสีดำ การเลื่อนคลิปออกไปจากหน้าจอเพื่อแสดงคลิปต่อไป หรือการทำให้คลิปแตกออกเพื่อแสดงคลิปถัดไป
ช่วงการเปลี่ยนภาพที่เพิ่มเข้าไปจะปรากฏอยู่บนแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพของเส้นเวลา หากต้องการดูแทร็กนี้ คุณต้องขยายแทร็กวิดีโอ ความยาวของช่วงการเปลี่ยนภาพจะกำหนดโดยระยะการเหลื่อมกันระหว่างสองคลิป รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนกระดานเรื่องราวที่มีช่วงการเปลี่ยนภาพ
 

ช่วงการเปลี่ยนภาพบนกระดานเรื่องราว
รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนเส้นเวลาที่มีช่วงการเปลี่ยนภาพ
 

ช่วงการเปลี่ยนภาพบนเส้นเวลา
เมื่อต้องการเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพ
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ให้คลิกวินาทีของคลิปวิดีโอ ชื่อเรื่อง หรือรูปภาพสองรายการที่ต้องการเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพคั่น
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ช่วงการเปลี่ยนภาพ
3.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้คลิกช่วงการเปลี่ยนภาพที่ต้องการเพิ่ม คุณสามารถคลิก เล่น ใต้จอภาพเพื่อดูการแสดงตัวอย่างของช่วงการเปลี่ยนภาพดังกล่าว
4.   คลิก คลิป แล้วคลิก เพิ่มไว้ที่เส้นเวลา หรือ เพิ่มไว้ที่กระดานเรื่องราว

หมายเหตุ
• คุณสามารถเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพได้โดยลากช่วงการเปลี่ยนภาพใส่ในเส้นเวลาและวางไว้ระหว่างคลิปสองรายการบนแทร็กวิดีโอ หรือหากคุณอยู่ในมุมมองกระดานเรื่องราว คุณสามารถลากช่วงการเปลี่ยนภาพมายังเซลล์ช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างคลิปวิดีโอหรือรูปภาพสองรายการนั้น
• หากคุณปรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณจาก Windows XP  เป็น Windows Vista ช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษใดๆ ที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้จะไม่สามารถใช้งานได้ใน Windows Movie Maker รุ่นปัจจุบัน

เมื่อต้องการเปลี่ยนระยะเวลาของช่วงการเปลี่ยนภาพ
•    บนแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพของเส้นเวลา ให้ลากจุดเริ่มต้นช่วงการเปลี่ยนภาพไปยังจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของเส้นเวลา ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ช่วงการเปลี่ยนภาพนั้นสั้นลงหรือยาวขึ้น
หมายเหตุเมื่อต้องการดูแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพของเส้นเวลา ให้ขยายแทร็กวิดีโอ

เมื่อต้องการเปลี่ยนระยะเวลาของช่วงการเปลี่ยนภาพเริ่มต้น
1.   คลิก เครื่องมือ คลิก ตัวเลือก แล้วคลิกแท็บ ขั้นสูง
2.   ระบุเวลา (เป็นวินาที) ที่คุณต้องการให้เล่นช่วงการเปลี่ยนภาพเป็นค่าเริ่มต้นหลังจากเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพไว้ที่กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา

เมื่อต้องการเอาช่วงการเปลี่ยนภาพออก
1.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•    บนกระดานเรื่องราว ให้คลิกเซลล์ช่วงการเปลี่ยนภาพที่มีช่วงการเปลี่ยนภาพที่ต้องการเอา 
      ออก
•    บนเส้นเวลา ให้คลิกช่วงการเปลี่ยนภาพบนแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพที่ต้องการเอาออก
2.   คลิก แก้ไข แล้วคลิก เอาออก

ลักษณะพิเศษ

ลักษณะพิเศษช่วยให้คุณเพิ่มลักษณะพิเศษในภาพยนตร์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีวิดีโอที่นำเข้ามาและต้องการให้มีลักษณะและรู้สึกคลาสสิคเหมือนภาพยนตร์เก่า คุณสามารถเพิ่มลักษณะพิเศษฟิล์มเก่าลงในคลิปวิดีโอ รูปภาพหรือชื่อเรื่องเพื่อให้วิดีโอของคลิปนั้นดูเหมือนภาพยนตร์เก่า
รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนกระดานเรื่องราวพร้อมด้วยลักษณะพิเศษ
 
ลักษณะพิเศษบนกระดานเรื่องราว
รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนเส้นเวลาพร้อมด้วยลักษณะพิเศษ
 
ลักษณะพิเศษบนเส้นเวลา

เมื่อต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษ
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ให้เลือกคลิปวิดีโอ รูปภาพ หรือชื่อเรื่องที่ต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษ
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ลักษณะพิเศษ
3.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้คลิกลักษณะพิเศษที่คุณต้องการเพิ่ม คุณสามารถคลิก เล่น ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่างเพื่อดูตัวอย่างของลักษณะพิเศษ
4.   คลิก คลิป แล้วคลิก เพิ่มไว้ที่เส้นเวลา หรือ เพิ่มไว้ที่กระดานเรื่องราว
หมายเหตุ
• คุณยังสามารถเพิ่มลักษณะพิเศษโดยการลากลักษณะพิเศษจากบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' แล้ววางลงในรูปภาพหรือคลิปวิดีโอบนแทร็กวิดีโอของเส้นเวลา ลากไปยังเซลล์ลักษณะพิเศษของคลิปวิดีโอหรือรูปภาพบนกระดานเรื่องราว
• มุมมองรูปขนาดย่อในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' จะแสดงตัวอย่างของลักษณะพิเศษแบบต่างๆ
• หากคุณปรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณจาก Windows XP เป็น Windows Vista ช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษใดๆ ที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้จะไม่สามารถใช้งานได้ใน Windows Movie Maker รุ่นปัจจุบัน

เมื่อต้องการเปลี่ยนลักษณะพิเศษ
1.   บนแทร็กวิดีโอของเส้นเวลาหรือบนกระดานเรื่องราว ให้คลิกที่คลิปวิดีโอ รูปภาพ หรือชื่อเรื่องที่ใช้ลักษณะพิเศษที่ต้องการเปลี่ยน
2.   คลิก คลิป ชี้ไปที่ วิดีโอ แล้วคลิก ลักษณะพิเศษ
3.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•  เมื่อต้องการเอาลักษณะพิเศษออก ในพื้นที่ ลักษณะพิเศษที่แสดง ให้คลิกลักษณะพิเศษ แล้วคลิก เอาออก ทำซ้ำตามความต้องการ
•  เมื่อต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษ ในพื้นที่ ลักษณะพิเศษที่สามารถใช้ได้ ให้คลิกลักษณะพิเศษที่ต้องการเพิ่ม แล้วคลิก เพิ่ม ทำซ้ำตามความต้องการ

เคล็ดลับ
• ถ้าคุณเพิ่มลักษณะพิเศษหลายรายการ คุณสามารถเปลี่ยนลำดับการแสดงลักษณะพิเศษได้ด้วยปุ่ม ย้ายขึ้น หรือ ย้ายลง
• หากต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษอย่างรวดเร็ว คุณสามารถลากลักษณะพิเศษไปยังคลิปวิดีโอ รูปภาพ หรือชื่อเรื่องบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
• ถ้าคุณเพิ่มลักษณะพิเศษเดียวกันลงในคลิปมากกว่าหนึ่งครั้ง ลักษณะพิเศษนั้นจะถูกใช้หลายครั้งตามที่คุณเพิ่ม ตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่มลักษณะพิเศษ 'เร่งความเร็วเป็นสองเท่า' สองครั้งในคลิปวิดีโอเดียวกัน คลิปนั้นจะเล่นด้วยความเร็วสี่เท่าของแฟ้มต้นฉบับ
• คุณสามารถเอาลักษณะพิเศษออกได้ โดยการเลือกเซลล์ลักษณะพิเศษในกระดานเรื่องราวที่มีลักษณะพิเศษที่ต้องการเอาออก แล้วกดแป้น DELETE

ดูเพิ่มเติม
• การแก้ไขภาพยนตร์
• การเพิ่มชื่อเรื่องภาพยนตร์และรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
• การทำงานกับคลิป
• การแสดงตัวอย่างวิดีโอ


การแก้ไขภาพยนตร์ใน Windows Movie Maker

กระดานเรื่องราวและเส้นเวลาใน Windows Movie Maker จะช่วยให้คุณจัดการและแก้ไขคลิปที่ไม่ได้ปรับแต่ง รวมทั้งเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษได้ง่ายขึ้น คุณสามารถใช้กระดานเรื่องราวก่อนเพื่อจัดวางและจัดการคลิป ลักษณะพิเศษและช่วงการเปลี่ยนภาพทั้งหมด จากนั้นใช้เส้นเวลาเพื่อปรับแต่งโครงการของคุณโดยการแก้ไขคลิป
 
การเพิ่มคลิปลงในโครงการ
1.   ในบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' ให้คลิกโฟลเดอร์ที่บรรจุคลิปที่คุณต้องการจะเพิ่มลงในโครงการของคุณ
2.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้คลิกคลิปที่คุณต้องการเพิ่ม
3.   คลิก คลิป แล้วคลิก เพิ่มไว้ที่กระดานเรื่องราว หรือ เพิ่มไว้ที่เส้นเวลา ขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณกำลังใช้อยู่

การเคลื่อนย้ายคลิปบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา เลือกคลิปที่คุณต้องการเคลื่อนย้าย
2.   คลิก แก้ไข แล้วคลิก ตัด
3.   ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณกำลังใช้งานอยู่
•  บนกระดานเรื่องราว ให้คลิกเซลล์ว่างถัดไป
•  บนเส้นเวลา ให้ย้ายตัวบ่งชี้การเล่นไปยังจุดที่คุณต้องการวางคลิปนั้น
4.   คลิก แก้ไข แล้วคลิก วาง

การเลิกทำการเปลี่ยนแปลงบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
 1.   ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
2.   ถ้าคุณต้องการเลิกทำการกระทำหนึ่งอย่างหรือมากกว่าบนแถบเครื่องมือ ให้คลิกลูกศรถัดจาก เลิกทำ แล้วคลิกการกระทำที่คุณต้องการเลิกทำ
3.  ถ้าคุณต้องการทำซ้ำการกระทำหนึ่งอย่างหรือมากกว่าบนแถบเครื่องมือ คลิกลูกศรถัดจาก ทำซ้ำ แล้วคลิกการกระทำที่คุณต้องการทำซ้ำ

การล้างกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
•   คลิก แก้ไข แล้วคลิก ล้างเส้นเวลา หรือ ล้างกระดานเรื่องราว ขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณกำลังใช้อยู่

 


การย่อ/ขยายบนเส้นเวลา
คุณสามารถเปลี่ยนระดับรายละเอียดบนเส้นเวลาโดยการย่อหรือขยายได้ เมื่อคุณย่อขนาด มาตราส่วนเวลาจะแสดงช่วงเวลาที่เล็กลง และคุณจะเห็นโครงการของคุณในรายละเอียดที่ใหญ่ขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อคุณขยายขนาด มาตราส่วนเวลาจะขยายออก ซึ่งทำให้ตำแหน่งการมองบนเส้นเวลาและเนื้อหาโดยรวมใหญ่ขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้จัดการและแก้ไขโครงการของคุณได้ง่ายขึ้น
1.   คลิก มุมมอง แล้วคลิก เส้นเวลา
2.   คลิก มุมมอง แล้วคลิก ขยาย หรือ ย่อ

การทำให้เส้นเวลาพอดีกับหน้าจอ
•    คลิก มุมมอง แล้วคลิก ย่อ/ขยายให้พอดี

การเพิ่มหรือลดขนาดของกระดานเรื่องราว
•   ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•   ในการเพิ่มขนาดของกระดานเรื่องราว ให้ลากเส้นขอบด้านบนของกระดานเรื่องราวขึ้น
•   ในการลดขนาดของกระดานเรื่องราว ให้ลากเส้นขอบด้านบนของกระดานเรื่องราวลง

หมายเหตุเมื่อคุณจะวางตัวชี้ที่เส้นขอบสีฟ้าด้านบนของกระดานเรื่องราว ตัวชี้จะเปลี่ยนเป็นลูกศรสองหัวที่คุณสามารถใช้เพื่อลากเส้นขอบขึ้นหรือลงได้

 ถ้าต้องการเพิ่มคลิปลงในโครงการของคุณอย่างรวดเร็ว ให้ลากคลิปไปที่กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ในการลากคลิปที่อยู่ติดกัน ให้คลิกคลิปแรกในรายการ กดแป้น SHIFT ค้าง แล้วคลิกคลิปสุดท้ายในรายการนั้น จากนั้น ลากคลิปที่ได้เลือกไว้ไปที่กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ในการลากคลิปที่ไม่ติดกัน กดแป้น CTRL ค้าง
คลิกแต่ละคลิปที่คุณต้องการเพิ่ม จากนั้น ลากคลิปที่ได้เลือกไว้ไปที่กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา

ดูเพิ่มเติม
• การเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษลงในรูปภาพและวิดีโอ
• การเพิ่มชื่อเรื่องภาพยนตร์และรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
• การแสดงตัวอย่างวิดีโอ
• การเพิ่มเพลงลงในภาพยนตร์ของคุณ
• การเผยแพร่ภาพยนตร์

 

เพิ่มชื่อเรื่องภาพยนตร์และรายชื่อผู้เกี่ยวข้องใน Windows Movie Maker

Windows Movie Maker ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มชื่อเรื่อง ชื่อของคุณ วันที่ รายชื่อผู้เกี่ยวข้อง และข้อความอื่นๆ ลงในภาพยนตร์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะต้องการเพิ่มชื่อเรื่องเพื่อแนะนำบุคคลหรือฉากที่ปรากฏในภาพยนตร์ของคุณ
คุณสามารถเพิ่มข้อความชื่อเรื่องไปยังที่ต่างๆ ในภาพยนตร์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นตอนต้นหรือตอนท้าย ก่อนหรือหลังคลิป หรือซ้อนไปกับคลิป ชื่อเรื่องจะปรากฏขึ้นในช่วงเวลาตามที่ระบุ บนหน้าจออยู่เดี่ยวๆ หรือซ้อนกับวิดีโอ จากนั้น ชื่อเรื่องจะหายไปในขณะที่คลิปวิดีโอหรือรูปภาพยังคงแสดงอยู่
รูปภาพต่อไปนี้จะแสดงโครงการที่มีชื่อเรื่องซึ่งปรากฏก่อนคลิปวิดีโอ
 
ชื่อเรื่องที่จุดเริ่มต้นบนเส้นเวลา

รูปภาพต่อไปนี้จะแสดงโครงการที่มีชื่อเรื่องซึ่งปรากฏซ้อนกับคลิปวิดีโอในเวลาที่คลิปเล่นอยู่
 
ชื่อเรื่องแบบซ้อนทับบนเส้นเวลา

 

 


รูปภาพต่อไปนี้จะแสดงโครงการที่มีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องซึ่งปรากฏในตอนท้ายของโครงการ
 
รายชื่อผู้เกี่ยวข้องบนเส้นเวลา
 

การเพิ่มชื่อเรื่องหรือรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
1.   ถ้าคุณรู้ว่าต้องการให้ชื่อเรื่องหรือรายชื่อผู้เกี่ยวข้องปรากฏขึ้นที่ใดในภาพยนตร์ของคุณ ให้คลิกตำแหน่งนั้นบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ชื่อเรื่องและรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
3.   คลิกการเชื่อมโยงที่ตรงกับตำแหน่งที่คุณต้องการเพิ่มชื่อเรื่องหรือรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
4.   ในกล่อง พิมพ์ข้อความสำหรับชื่อเรื่อง ให้พิมพ์ข้อความที่คุณต้องการให้ปรากฏเป็นชือ่เรื่องหรือรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง       หลังจากที่พิมพ์ข้อความแล้ว จอแสดงจะแสดงการเคลื่อนไหวและรูปแบบเริ่มต้นสำหรับชื่อเรื่องหรือรายชื่อผู้เกี่ยวข้องที่คุณต้องการเพิ่ม
5.   ในการเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของชื่อเรื่อง คลิก เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของชื่อเรื่อง แล้วเลือกการเคลื่อนไหวของชื่อเรื่องจากรายการ
6.   ในการเปลี่ยนแบบอักษรและสีสำหรับชื่อเรื่องของคุณ คลิก เปลี่ยนแปลงแบบอักษรและสีของข้อความ แล้วเลือกแบบอักษร สีแบบอักษร การจัดรูปแบบ สีพื้นหลัง ความโปร่งใส ขนาดแบบอักษร และตำแหน่งของชื่อเรื่องตามต้องการ
7.   คลิก เพิ่มชื่อเรื่อง

การแก้ไขชื่อเรื่องที่มีอยู่
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา คลิกชื่อเรื่องที่คุณต้องการแก้ไข
2.   คลิก แก้ไข แล้วคลิก แก้ไขชื่อเรื่อง
3.   ทำการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ แล้วคลิก เพิ่มชื่อเรื่อง

 

การเปลี่ยนช่วงเวลาของชื่อเรื่อง
1.  เพื่อให้แน่ใจว่าคุณอยูในมุมมองเส้นเวลา คลิกเมนู มุมมอง แล้วคลิก เส้นเวลา
2.  เลือกชื่อเรื่องที่มีช่วงเวลาที่คุณต้องการเปลี่ยน
3.   เมื่อต้องการขยายช่วงเวลาการเล่นของชื่อเรื่อง ให้ลากที่จับสำหรับปรับจุดสิ้นสุดการตัดแต่งไปยังจุดสิ้นสุดของเส้นเวลา

เมื่อต้องการลดช่วงเวลาการเล่นของชื่อเรื่อง ให้ลากที่จับสำหรับปรับจุดเริ่มต้นการตัดแต่งไปยังจุดสิ้นสุดของเส้นเวลา

การเอาชื่อเรื่องออก
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา คลิกชื่อเรื่องที่คุณต้องการเอาออกจากภาพยนตร์ของคุณ
2.   คลิก แก้ไข แล้วคลิก เอาออก

 หมายเหตุที่จัดปรับการตัดแต่งจะปรากฏเป็นสามเหลี่ยมสีดำที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของคลิป ตัวชี้จะเปลี่ยนเป็นลูกศรสองหัวสีแดงเมื่อคุณวางตัวชี้ไว้บนที่จับปรับการตัดแต่ง
 
ดูเพิ่มเติม
• การเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษลงในรูปภาพและวิดีโอ
• การแก้ไขภาพยนตร์
• การทำงานกับคลิป

 

 

 

 

 

 

การแสดงตัวอย่างวิดีโอใน Windows Movie Maker

คุณสามารถแสดงตัวอย่างโครงการทั้งหมดหรือส่วนประกอบเล็กๆ เช่น คลิปเสียงหรือวิดีโอ ช่วงการเปลี่ยนภาพ และลักษณะพิเศษใน Windows Movie Maker การแสดงตัวอย่างโครงการเป็นครั้งคราวบนจอภาพในขณะที่คุณทำงานอยู่นั้นจะช่วยให้เห็นภาพและเสียง รวมทั้งตรวจสอบการแก้ไขของคุณได้ หรือเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้นำเข้าเนื้อหาที่คุณต้องการใช้ในภาพยนตร์ของคุณหรือเปลี่ยนคลิป คุณสามารถดูหรือฟังคลิปวิดีโอหรือเสียงแต่ละชิ้นได้
คุณยังสามารถแสดงตัวอย่างลักษณะพิเศษและช่วงการเปลี่ยนภาพเพื่อให้เห็นภาพก่อนที่จะเพิ่มส่วนประกอบเหล่านั้นเข้าไปในโครงการของคุณ ซึ่งสามารถทำได้โดยคลิกลักษณะพิเศษหรือช่วงการเปลี่ยนภาพอย่างหนึ่งในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' แล้วคลิก เล่น ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง
 
การแสดงตัวอย่างโครงการ
1.   เพิ่มอย่างน้อยหนึ่งคลิปไว้ที่กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
2.   คลิกเมนู เล่น แล้วคลิก กรอกลับกระดานเรื่องราว หรือ กรอกลับเส้นเวลา ขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งจะยืนยันว่าการแสดงตัวอย่างจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นของโครงการ
3.   ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง ให้คลิกปุ่ม เล่น

การแสดงตัวอย่างคลิป
1.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้คลิกคลิปเสียงหรือวิดีโอที่คุณต้องการแสดงตัวอย่าง
2.   ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง ให้คลิกปุ่ม เล่น

การหยุดตัวอย่างโครงการหรือหยุดชั่วคราว
•  เมื่อวิดีโอ เสียง ลักษณะพิเศษหรือช่วงการแสดงภาพวิดีโอกำลังเล่นอยู่ในหน้าจอแสดงตัวอย่าง ภายใต้หน้าจอแสดงตัวอย่างที่ด้านซ้ายสุดของแผงควบคุมการเล่น ให้คลิก หยุดชั่วคราว หรือ หยุด

การเล่นวิดีโอในโหมดเต็มหน้าจอ
1.   คลิกคลิปวิดีโอในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลาหรือในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' เพื่อเลือกคลิปนั้น
2.   คลิก มุมมอง แล้วคลิก เต็มหน้าจอ

การเปลี่ยนขนาดหน้าจอแสดงตัวอย่าง
1.   คลิกคลิปวิดีโอในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลาหรือในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' เพื่อเลือกคลิปนั้น
2.   คลิก มุมมอง ชี้ไปที่ ขนาดหน้าจอแสดงตัวอย่าง แล้วจึงคลิก เล็ก หรือ ใหญ่

หมายเหตุ
• เมื่อต้องการทำให้หน้าจอแสดงตัวอย่างใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง คุณสามารถคลิกและลากเส้นระหว่างหน้าจอแสดงตัวอย่างและหน้าต่างคอลเลกชันไปทางซ้ายหรือทางขวา
• ขนาดจริงและอัตราส่วนกว้างยาวของหน้าจอแสดงตัวอย่างจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและการตั้งค่าวิดีโอสำหรับรูปแบบและอัตราส่วนกว้างยาวของวิดีโอ การตั้งค่าเหล่านี้อยู่ในกล่องโต้ตอบ ตัวเลือก บนแท็บ ขั้นสูง ใน Windows Movie Maker สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบและการตั้งค่าอัตราส่วนกว้างยาวของวิดีโอใน Windows Movie Maker ให้ดูที่ การเปลี่ยนอัตราส่วนกว้างยาวและรูปแบบของวิดีโอ
• ขนาดของหน้าจอแสดงตัวอย่างที่คุณสามารถเลือกใช้ใน Windows Movie Maker จะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความละเอียดหน้าจอปัจจุบันสำหรับคอมพิวเตอร์และจอภาพของคุณ ตัวอย่างเช่น ถ้าการแสดงภาพของคุณถูกตั้งไว้ให้มีความละเอียดหน้าจอต่ำ ขนาดของหน้าจอแสดงตัวอย่างใน Windows Movie Maker จะไม่สามารถตั้งค่าให้เป็น ใหญ่ ได้ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอ ให้ดูที่ การเปลี่ยนความละเอียดของหน้าจอ

การข้ามเฟรม
•  เมื่อวิดีโอเล่นหรือหยุดชั่วคราวในหน้าจอแสดงตัวอย่าง ให้คลิกปุ่ม เฟรมก่อนหน้า หรือ เฟรมถัดไป ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่าง

การข้ามคลิปในโครงการ
1.   คลิกคลิปในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลาเพื่อเลือกคลิปนั้น
2.   คลิกเมนู เล่น แล้วคลิก ย้อนกลับ หรือ ไปข้างหน้า


ดูเพิ่มเติม
• การแก้ไขวิดีโอ เสียง และรูปภาพ

 

 

 

 

การนำเข้าแฟ้มวิดีโอ รูปภาพ และเสียงใน Windows Movie Maker

คุณสามารถนำเข้าแฟ้มที่มีนามสกุลต่อไปนี้ใน Windows Movie Maker เพื่อใช้ในโครงการของคุณ
  •  แฟ้มวิดีโอ: .asf, .avi, dvr-ms, .m1v, .mp2, .mp2v, .mpe, .mpeg, .mpg, .mpv2, .wm และ .wmv
  •  แฟ้มเสียง: .aif, .aifc, .aiff .asf, .au, .mp2, .mp3, .mpa, .snd, .wav และ .wma
  •  แฟ้มรูปภาพ: .bmp, .dib, .emf, .gif, .jfif, .jpe, .jpeg, .jpg, .png, .tif, .tiff และ .wmf

คุณสามารถนำเข้าแฟ้มใน Windows Movie Maker ที่มีนามสกุลต่างไปจากรายการข้างต้น แต่คุณอาจไม่สามารถใช้งานแฟ้มทุกชนิดเมื่อพยายามใช้ในการสร้างภาพยนตร์
แฟ้มรายการโทรทัศน์ที่บันทึกไว้ของ Microsoft (ที่มีนามสกุล .dvr-ms) ที่ไม่ได้มีการป้องกันโดยใช้ระบบจัดการลิขสิทธิ์ดิจิทัล สามารถนำเข้าใน Windows Movie Maker ได้ ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณเรียกใช้ Windows Vista Home Premium หรือ Windows Vista Ultimate


การนำเข้าแฟ้มใน Windows Movie Maker
1.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก นำเข้ารายการสื่อ
2.   นำทางไปยังตำแหน่งที่มีแฟ้มสื่อดิจิทัลที่คุณต้องการนำเข้า แล้วคลิก นำเข้า

   คุณสามารถนำเข้าคลิปวิดีโอหลายคลิปได้ในครั้งเดียว สำหรับคลิปที่อยู่ติดกัน ให้คลิกคลิปวิดีโอแรกในรายการ กดแป้น SHIFT ค้าง แล้วคลิกคลิปสุดท้ายในรายการนั้น สำหรับคลิปวิดีโอที่ไม่ติดกัน ให้กดแป้น CTRL ค้าง แล้วคลิกแต่ละคลิปที่คุณต้องการนำเข้าใน Windows Movie Maker
คุณยังสามารถนำเข้าแฟ้มวิดีโอและรูปภาพโดยลากแฟ้มจาก Windows Photo Gallery ไปที่ Windows Movie Maker


ดูเพิ่มเติม
• การนำเข้าแฟ้ม: คำถามที่ถามบ่อย
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป
• การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าแฟ้ม

 


การเพิ่มเพลงลงในภาพยนตร์ของคุณ

เพลงอาจเป็นวิธีอันยอดเยี่ยมในการสร้างอารมณ์ของภาพยนตร์ของคุณ และการเพิ่มเพลงใน Windows Movie Maker เป็นเรื่องง่ายดาย ก่อนอื่น ให้หาเพลงที่คุณต้องการเพิ่มลงไปในภาพยนตร์ของคุณและนำเข้าเพลงนั้นในโครงการของคุณ อย่างที่สอง เพิ่มเพลงลงในเส้นเวลาบนแทร็กเสียง/เพลง และแก้ไขเพลงนั้นเพื่อสร้างลักษณะพิเศษที่คุณต้องการ

1.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก นำเข้ารายการสื่อ
2.   เรียกดูแฟ้มที่คุณต้องการเพิ่ม แล้วคลิกแฟ้มนั้น คุณสามารถนำเข้าแฟ้มเสียงที่มีนามสกุลต่อไปนี้ใน Windows Movie Maker .aif, .aifc, .aiff .asf, .au, .mp2, .mp3, .mpa, .snd, .wav และ .wma
3.   คลิก นำเข้า
4.   ลากแฟ้มเพลงไปที่แทร็ก เสียง/เพลง ของเส้นเวลา
5.   ใช้หน้าจอแสดงตัวอย่างเพื่อแสดงตัวอย่างวิดีโอที่ประกอบกัน จากนั้น ลากแทร็กเสียงไปทางขวาหรือซ้ายเพื่อให้เสียงและวิดีโอมีข้อมูลตรงกันถ้าจำเป็น ตัวชี้จะเปลี่ยนเป็นมือเมื่อคุณคลิกแฟ้มเสียงเพื่อบ่งชี้ว่าคุณสามารถเคลื่อนย้ายแฟ้มนั้นได้

• วิธีที่รวดเร็วในการปรับระดับเสียงของคลิปเสียงบนแทร็กเสียง/เพลงคือการคลิกขวาที่คลิป แล้วคลิก ระดับเสียง ปรับระดับเสียงด้วยแถบเลื่อน
• คุณสามารถเพิ่มทั้งเพลงและคำบรรยายลงในแทร็กเสียง/เพลงใน Windows Movie Maker ทั้งสองอย่างสามารถเล่นไปพร้อมกันในภาพยนตร์ที่คุณเผยแพร่ คุณสามารถปรับระดับเสียงเพื่อกำหนดว่าช่วงไหนที่จะใช้เสียงดังเสียงเบาได้ในภาพยนตร์ของคุณ


ดูเพิ่มเติม
• การปรับเสียง: คำถามที่ถามบ่อย
• เพิ่มคำบรรยายลงในภาพยนตร์ของคุณ

 

 

 

การเผยแพร่ภาพยนตร์ใน Windows Movie Maker

หลังจากที่ทำงานกับโครงการเสร็จแล้ว คุณสามารถเผยแพร่โครงการเป็นภาพยนตร์ได้ ภาพยนตร์เป็นแฟ้ม Windows Media ที่มีนามสกุลแฟ้มเป็น .wmv หรือแฟ้ม Audio-Video Interleaved (AVI) ที่มีนามสกุลแฟ้มเป็น .avi เมื่อคุณเผยแพร่ภาพยนตร์ใน Windows Movie Maker คุณสามารถใช้ภาพยนตร์ร่วมกับผู้อื่นได้หลายวิธี อาทิ ผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซีดีแบบบันทึกได้ ดีวีดีแบบบันทึกได้ เป็นสิ่งที่แนบมาในข้อความอีเมลหรือวิดีโอเทปในกล้อง DV

เมื่อต้องการเผยแพร่ภาพยนตร์ไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ
1.   คลิก แฟ้ม คลิก เผยแพร่ภาพยนตร์
2.   คลิก คอมพิวเตอร์นี้ แล้วคลิก ถัดไป
3.   ในกล่อง ชื่อแฟ้ม ให้พิมพ์ชื่อภาพยนตร์ของคุณ
4.   ในกล่อง เผยแพร่ไปยัง ให้เลือกตำแหน่งที่คุณต้องการบันทึกภาพยนตร์เมื่อมีการเผยแพร่ แล้วคลิก ถัดไป
5.   เลือกการตั้งค่าที่ต้องการใช้เผยแพร่ภาพยนตร์ แล้วคลิก เผยแพร่
6.   ถ้าคุณต้องการดูภาพยนตร์หลังจากการเผยแพร่ ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย เล่นภาพยนตร์เมื่อฉันคลิก 'เสร็จสิ้น'
    7.   คลิก เสร็จสิ้น

เมื่อต้องการเผยแพร่และเขียนภาพยนตร์ลงดีวีดี
เมื่อต้องการเผยแพร่และเขียนภาพยนตร์ลงดีวีดี คุณต้องมี Windows DVD Maker ซึ่งจะรวมอยู่ใน Windows Vista Ultimate และ Windows Vista Home Premium และคุณจำเป็นต้องมีเครื่องเขียนดีวีดีด้วย
1.   ใส่ดีวีดีเปล่าแบบบันทึกได้หรือเขียนทับได้ลงในเครื่องเขียนดีวีดี
2.   เปิดโครงการใน Windows Movie Maker
3.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก เผยแพร่ภาพยนตร์
4.   คลิก ดีวีดี แล้วคลิก ถัดไปWindows DVD Maker จะเปิดขึ้น
5.   ทำตามขั้นตอนในการสร้างดีวีดีโดยการใช้ Windows DVD Maker

เมื่อต้องการเผยแพร่และเขียนภาพยนตร์ลงบนซีดีแบบบันทึกได้
1.   ใส่ซีดีเปล่าแบบบันทึกได้หรือเขียนทับได้ลงในเครื่องเขียนซีดี
2.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก เผยแพร่ภาพยนตร์
3.   คลิก ซีดีแบบบันทึกได้ แล้วคลิก ถัดไป
4.   ในกล่อง ชื่อแฟ้ม ให้พิมพ์ชื่อภาพยนตร์ของคุณ
5.    ในกล่อง ชื่อซีดี ให้พิมพ์ชื่อซีดี แล้วคลิก ถัดไป
6.   เลือกการตั้งค่าที่ต้องการใช้เผยแพร่ภาพยนตร์ แล้วคลิก เผยแพร่
7.   เมื่อต้องการเผยแพร่และเขียนภาพยนตร์ลงในซีดีแบบบันทึกได้แผ่นอื่น ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย เผยแพร่ภาพยนตร์นี้ลงในซีดีที่บันทึกได้อื่น แล้วคลิก ถัดไป เปลี่ยนเป็นซีดีแบบบันทึกได้แผ่นอื่น แล้วทำซ้ำขั้นตอนที่ 4 ถึง 6

เมื่อต้องการส่งภาพยนตร์เป็นสิ่งที่แนบมากับอีเมลในข้อความอีเมล
1.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก เผยแพร่ภาพยนตร์
2.   คลิก อีเมล แล้วคลิก ถัดไป
3.   หลังเผยแพร่ภาพยนตร์เสร็จแล้ว ให้เลือกทำดังต่อไปนี้
•  เมื่อต้องการเล่นภาพยนตร์ในโปรแกรมเล่นเริ่มต้นก่อนที่จะส่ง ให้คลิก เล่นภาพยนตร์
•  เมื่อต้องการบันทึกสำเนาภาพยนตร์ที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ นอกเหนือจากการส่งเป็นสิ่งที่แนบมากับอีเมล ให้คลิก บันทึกสำเนาภาพยนตร์ของฉันบนคอมพิวเตอร์ของฉัน ใส่ชื่อแฟ้มภาพยนตร์ในกล่อง ชื่อแฟ้ม แล้วคลิก บันทึก
4.   เมื่อต้องการแนบภาพยนตร์กับข้อความอีเมล ให้คลิก แนบภาพยนตร์
5.   ในโปรแกรมอีเมลเริ่มต้นของคุณ ให้ใส่ที่อยู่อีเมลของผู้ที่คุณจะส่งภาพยนตร์ไปถึง เพิ่มข้อความเพิ่มเติมใดๆ ลงในเนื้อความแล้วส่งข้อความนั้น

เมื่อต้องการบันทึกภาพยนตร์ลงในวิดีโอเทปของกล้องวิดีโอดิจิทัล
1.   เปิดกล้องวิดีโอดิจิทัล (DV) และตรวจสอบว่ากล้องอยู่ในโหมดเล่น (มักจะมีคำว่า VCR อยู่บนกล้อง)
2.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก เผยแพร่ภาพยนตร์
3.   คลิก กล้องวิดีโอดิจิทัล แล้วคลิก ถัดไป
4.   ถ้าคุณมีอุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัลเปิดอยู่มากกว่าหนึ่งและตรวจพบโดย Windows Movie Maker บนหน้า เลือกกล้องวิดีโอดิจิทัล ให้เลือกอุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัลที่มีวิดีโอเทปที่คุณต้องการบันทึกภาพยนตร์ แล้วคลิก ถัดไป
5.   เมื่อคุณเห็นหน้า เลื่อนเทปของคุณ ให้ใช้ตัวควบคุมการเลื่อนบนกล้อง DV ของคุณ เพื่อกรอเทปกลับหรือกรอไปข้างหน้าไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการบันทึก แล้วคลิก ถัดไป  คุณควรตรวจสอบว่าคุณไม่ได้กำลังเขียนทับส่วนของเทปที่มีวิดีโอที่บันทึกที่ต้องการเก็บไว้
6.   เมื่อต้องการเริ่มการบันทึกภาพยนตร์ของคุณกลับไปไว้ที่เทป ให้คลิก ใช่ รอให้ภาพยนตร์ของคุณเผยแพร่เสร็จแล้วบันทึกไปยังวิดีโอเทป เวลาที่ใช้ในการสร้างและบันทึกภาพยนตร์ไปที่เทปจะขึ้นอยู่กับความยาวของภาพยนตร์และทรัพยากรระบบบนคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถแสดงตัวอย่างภาพยนตร์ในจอภาพ LCD ของกล้อง DV ของคุณได้เช่นเดียวกับการบันทึกภาพยนตร์ไปยังเทป
7.   คลิก เสร็จสิ้น

เมื่อต้องการเปลี่ยนตำแหน่งบันทึกภาพยนตร์ชั่วคราว
Windows Movie Maker จะใช้ตำแหน่งที่เก็บแฟ้มชั่วคราวในกรณีดังต่อไปนี้
•  เมื่อคุณเผยแพร่ภาพยนตร์ แฟ้มเสียงหรือแฟ้มภาพยนตร์จะถูกเก็บไว้ในตำแหน่งแฟ้มชั่วคราวจนกระทั่งการเผยแพร่แฟ้มเสร็จสิ้น
•  เมื่อคุณบันทึกเสียงบรรยาย แฟ้มชั่วคราวจะถูกเก็บลงในตำแหน่งที่เก็บแฟ้มชั่วคราว แล้วลบออกไปหลังจากที่บันทึกแฟ้มเสียงแล้ว
•  เมื่อคุณเผยแพร่ภาพยนตร์ที่คุณต้องการแนบกับข้อความอีเมล สำเนาของแฟ้มภาพยนตร์จะถูกเก็บลงในตำแหน่งแฟ้มชั่วคราวจนกว่าจะส่งภาพยนตร์ได้สำเร็จ
•  เมื่อคุณส่งภาพยนตร์ไปยังเทปที่อยู่ในกล้องวิดีโอดิจิทัล (DV) แฟ้มภาพยนตร์ชั่วคราวที่สร้างไว้จะถูกเก็บไว้ในตำแหน่งนี้จนกระทั่งการบันทึกลงเทปเสร็จสิ้น

คุณสามารถเปลี่ยนตำแหน่งที่เก็บแฟ้มเริ่มต้นใน Windows Movie Maker ได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการเปลี่ยนที่เก็บแฟ้มหากคุณมีตำแหน่งที่เก็บที่มีเนื้อที่ดิสก์ที่เหลืออยู่มากกว่า ถ้าฮาร์ดดิสของคุณมีสองพาร์ติชัน คุณอาจต้องการเลือกไดรฟ์ที่มีพื้นที่การจัดเก็บมากกว่า
1.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ตัวเลือก
2.   คลิกแท็บ ทั่วไป และในกล่อง ที่เก็บชั่วคราว ให้เลือกตำแหน่งเริ่มต้นที่คุณต้องการบันทึกแฟ้มเสียงและภาพยนตร์ชั่วคราวไว้ชั่วคราว

เมื่อต้องการป้องกันการใส่ข้อมูลชื่อเรื่อง ผู้สร้าง ลิขสิทธิ์ การจัดอันดับและข้อคิดเห็นลงในแฟ้มภาพยนตร์ที่เผยแพร่
คุณสามารถเลือกที่จะไม่ใส่ข้อมูล เช่น ชื่อเรื่อง ผู้สร้าง ลิขสิทธิ์ การจัดอันดับและข้อคิดเห็นลงในแฟ้มภาพยนตร์ที่เผยแพร่ได้ หากคุณไม่ต้องการใส่ข้อมูลนี้ ชื่อของคุณและข้อมูลเมตาอื่นๆ จะไม่แสดงเมื่อคุณหรือบุคคลอื่นเล่นภาพยนตร์ของคุณในโปรแกรมเล่นสื่อ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้อนข้อมูลโครงการและภาพยนตร์ที่เผยแพร่ในขั้นสุดท้ายของคุณ ให้ดูที่ การเพิ่มชื่อเรื่อง ชื่อผู้สร้าง และคำอธิบายของภาพยนตร์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะของ Windows Movie Maker ที่จะมีผลกับสิทธิส่วนบุคคลของคุณ ให้ดูที่ คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคลออนไลน์ของ Windows Movie Maker
เมื่อต้องการเลือกที่จะไม่ใส่ข้อมูลเมตาในภาพยนตร์ที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำดังต่อไปนี้
1.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ตัวเลือก
2.   คลิกแท็บ ทั่วไป แล้วเลือกหรือล้างกล่องกาเครื่องหมาย ไม่รวมข้อมูลชื่อเรื่อง ผู้สร้าง ลิขสิทธิ์ การจัดอันดับและข้อคิดเห็นลงในแฟ้มภาพยนตร์ที่เผยแพร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้เอาข้อมูลส่วนบุคคลออกจากแฟ้มภาพยนตร์ที่เผยแพร่หรือไม่
ดูเพิ่มเติม
• การตั้งค่าภาพยนตร์: คำถามที่ถามบ่อย
• การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพยนตร์ไปยังคอมพิวเตอร์
• แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพยนตร์ลงซีดีที่บันทึกได้
• การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการส่งภาพยนตร์ในข้อความอีเมล
• การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการส่งภาพยนตร์ไปยังเทป DV
• การเพิ่มชื่อเรื่อง ชื่อผู้สร้าง และคำอธิบายสำหรับภาพยนตร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


การทำงานกับโครงการใน Windows Movie Maker

โครงการจะประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเรียงและการกำหนดเวลาของรายการที่ปรากฏบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ซึ่งรวมถึงคลิปเสียงและคลิปวิดีโอ ช่วงการเปลี่ยนภาพวิดีโอ ลักษณะพิเศษวิดีโอ และชื่อเรื่อง โครงการจะไม่มีแฟ้มต้นฉบับของเสียง วิดีโอและรูปภาพจริง แต่จะอ้างอิงแฟ้มเหล่านั้นเป็นคลิปแทน คุณสามารถแก้ไขคลิปในโครงการได้โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแฟ้มต้นฉบับ เมื่อคุณพอใจกับลำดับของคลิป วิดีโอ และรูปภาพบนกระดานเรื่องราวหรือเส้นเวลาของโครงการแล้ว คุณสามารถเผยแพร่ผลลัพธ์และสร้างภาพยนตร์ได้
ตารางต่อไปนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างโครงการและภาพยนตร์

โครงการ ภาพยนตร์
สร้างโดยการเพิ่มคลิป แฟ้มวิดีโอ แฟ้มเสียง และรูปภาพลงในโฟลเดอร์ใน Windows Movie Maker สร้างโดยการคลิก แฟ้ม แล้วคลิก เผยแพร่ภาพยนตร์
มีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเรียงและการกำหนดเวลาของคลิป ชื่อเรื่อง ช่วงการเปลี่ยนภาพ และลักษณะพิเศษที่อยู่บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา เป็นแฟ้มสื่อดิจิทัลเดียวที่สามารถเล่นได้ใน Windows Media Player และโปรแกรมเล่นสื่ออื่นๆ เผยแพร่ไปยังซีดีแบบบันทึกได้ เผยแพร่และแนบเป็นสิ่งที่แนบมากับแฟ้มไปกับข้อความอีเมล บันทึกลงเทปในกล้องวิดีโอดิจิทัล (DV) แล้วเล่นจากเทปหรือโทรทัศน์ หรือหากคุณใช้ Windows Vista Ultimate หรือ Windows Vista Home Premium ให้เผยแพร่และเขียนลงดีวีดี
มีนามสกุลแฟ้มเป็น .mswmm ตัวอย่างเช่น myProject.mswmm มีส่วนขยายของแฟ้มเป็น .wmv หรือ .avi ตัวอย่างเช่น myMovie.wmv หรือ myMovie.avi
สามารถแก้ไขจากตำแหน่งที่บันทึกล่าสุด ไม่สามารถแก้ไขได้

 

เมื่อต้องการสร้างโครงการใหม่
•  คลิก แฟ้ม แล้วคลิก โครงการใหม่
คุณสามารถทำงานกับโครงการใน Windows ได้ครั้งละหนึ่งโครงการเท่านั้น

เมื่อต้องการบันทึกโครงการ
1.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก บันทึกโครงการ
2.   ในกล่อง ชื่อแฟ้ม พิมพ์ชื่อแฟ้มโครงการ แล้วคลิก บันทึก
แฟ้มโครงการที่บันทึกไว้ใน Windows จะมีนามสกุลแฟ้มเป็น .mswmm

เมื่อต้องการบันทึกโครงการด้วยชื่อใหม่
1.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก บันทึกโครงการเป็น
2.   ในกล่อง ชื่อแฟ้ม พิมพ์ชื่อแฟ้มโครงการใหม่ แล้วคลิก บันทึก

การเปิดโครงการ
1.   คลิก แฟ้ม แล้วคลิก เปิดโครงการ
2.   นำทางไปยังโฟลเดอร์ที่มีแฟ้มโครงการของ Windows Movie Maker ที่คุณต้องการเปิด
3.   คลิกแฟ้มโครงการ แล้วคลิก เปิด

เมื่อต้องการเปิดโครงการล่าสุดโดยอัตโนมัติเมื่อ Windows Movie Maker เริ่มต้น
1.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ตัวเลือก
2.   คลิกแท็บ ทั่วไป แล้วเลือกกล่องกาเครื่องหมาย เปิดโครงการล่าสุดเมื่อเริ่มต้น

 หมายเหตุ   คุณสามารถเปิดแฟ้มโครงการของ Windows Movie Maker ที่สร้างและบันทึกใน Windows Movie Maker รุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นปัจจุบันได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณเปิดและบันทึกแฟ้มโครงการใน Windows Movie Maker รุ่นปัจจุบัน โครงการจะไม่สามารถเปิดใน Windows Movie Maker รุ่นก่อนหน้าได้อีก

ดูเพิ่มเติม
• การแก้ไขวิดีโอ เสียง และรูปภาพ
• การเผยแพร่ภาพยนตร์

 


การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป

คุณสามารถคัดลอกภาพวิดีโอจากวิดีโอเทปในกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV) ลงในคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ' เมื่อคุณนำเข้าภาพวิดีโอจากวิดีโอเทปในกล้อง DV เข้ามาในคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ภาพวิดีโอในเทปจะถูกเข้ารหัสเป็นแฟ้มวิดีโอและบันทึกลงบนฮาร์ดดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
 
เมื่อต้องการนำเข้าภาพวิดีโอทั้งหมดจากเทปในกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV)
1.   ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้อง DV ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้การเชื่อมต่อIEEE 1394 หรือ USB 2.0 จากนั้นตั้งค่าโหมดของกล้องให้เล่นวิดีโอที่บันทึกไว้ (มักใช้ชื่อ VTR หรือ VCR บนกล้อง DV)
2.   ในกล่องโต้ตอบ เล่นอัตโนมัติ ที่แสดงขึ้นมาเมื่อคุณเปิดกล้อง DV ให้คลิก นำเข้าวิดีโอ
3.   ในกล่อง ชื่อ ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มวิดีโอที่คุณต้องการสร้าง นำเข้า จากนั้นให้บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ
4.   เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการบันทึกแฟ้มวิดีโอของคุณจากรายการ นำเข้าไปยัง หรือคลิก เรียกดู เพื่อเลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่น
5.   ในรายการ จัดรูปแบบ ให้เลือกรูปแบบแฟ้มวิดีโอต่อไปนี้สำหรับใช้กับแฟ้มวิดีโอใหม่นี้ แล้วคลิก ถัดไป
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้มเดี่ยวโดยใช้ชนิดแฟ้มที่อุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัลของคุณจะใช้ตามค่าเริ่มต้น เช่น แฟ้ม AVI หรือ DV-AVI ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว)
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม Windows Media Video (WMV) ซึ่งเป็นแฟ้มเดี่ยวที่เก็บข้อมูลทั้งหมดบนวิดีโอเทปไว้ ให้เลือก แฟ้ม Windows Media Video (แฟ้มเดี่ยว)
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม WMV สำหรับทุกฉากบนวิดีโอเทป ให้เลือก Windows Media Video (หนึ่งแฟ้มต่อฉาก)
6.   คลิก นำเข้าวิดีโอเทปทั้งหมดลงในคอมพิวเตอร์ของฉัน แล้วคลิก ถัดไป
7.   ถ้าคุณต้องการหยุดการนำเข้าวิดีโอก่อนม้วนวิดีโอเทปสิ้นสุด ให้คลิก หยุด แล้วคลิก ใช่
8.   คลิก เสร็จสิ้น

วิดีโอที่นำเข้าถูกบันทึกเป็นแฟ้มวิดีโอหนึ่งแฟ้มหรือมากกว่าบนคอมพิวเตอร์ของคุณและปรากฏใน Windows Photo Gallery

 

 

เมื่อต้องการนำเข้าภาพวิดีโอทั้งหมดจากเทปในกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV) และเขียนลงในดีวีดี
เมื่อต้องการเขียนวิดีโอเทปลงดีวีดี คุณจะต้องมี Windows DVD Maker ซึ่งมาพร้อมกับ Windows Vista Ultimate และ Windows Vista Home Premium และคุณจำเป็นต้องมีเครื่องเขียนดีวีดีด้วย
1.   ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้อง DV ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้การเชื่อมต่อIEEE 1394 หรือ USB 2.0 จากนั้นตั้งค่าโหมดของกล้องให้เล่นวิดีโอที่บันทึกไว้ (มักใช้ชื่อ VTR หรือ VCR บนกล้อง DV)
2.   ในกล่องโต้ตอบ เล่นอัตโนมัติ ที่แสดงขึ้นมาเมื่อคุณเปิดกล้อง DV ให้คลิก นำเข้าวิดีโอ
3.   ในกล่อง ชื่อ ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มวิดีโอที่คุณต้องการสร้าง นำเข้า จากนั้นให้บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ
4.   เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการบันทึกแฟ้มวิดีโอของคุณจากรายการ นำเข้าไปยัง หรือคลิก เรียกดู เพื่อเลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่น
5.   ในรายการ จัดรูปแบบ ให้เลือกรูปแบบแฟ้มวิดีโอต่อไปนี้สำหรับใช้กับแฟ้มวิดีโอใหม่นี้ แล้วคลิก ถัดไป
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้มเดี่ยวโดยใช้ชนิดแฟ้มที่อุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัลของคุณจะใช้ตามค่าเริ่มต้น เช่น แฟ้ม AVI หรือ DV-AVI ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว)
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม Windows Media Video (WMV) ซึ่งเป็นแฟ้มเดี่ยวที่เก็บข้อมูลทั้งหมดบนวิดีโอเทปไว้ ให้เลือก แฟ้ม Windows Media Video (แฟ้มเดี่ยว).
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม WMV สำหรับทุกฉากบนวิดีโอเทป ให้เลือก Windows Media Video (หนึ่งแฟ้มต่อฉาก)
6.   คลิก นำเข้าวิดีโอเทปทั้งหมดแล้วเขียนข้อมูลลงดีวีดี พิมพ์ชื่อเรื่องสำหรับดีวีดี แล้วคลิก ถัดไป   เทปในกล้อง DV จะถูกกรอกลับไปต้นม้วน และภาพวิดีโอจะถูกนำเข้า
7.   ถ้าต้องการหยุดการนำเข้าวิดีโอก่อนม้วนวิดีโอเทปสิ้นสุด ให้คลิก หยุด แล้วคลิก ใช่   ภาพวิดีโอที่ถูกนำเข้ามาแล้วจะถูกบันทึกเป็นแฟ้มวิดีโอ
8.   เมื่อนำเข้าภาพวิดีโอจากวิดีโอเทปเสร็จแล้ว ให้คลิก เสร็จสิ้น เพื่อปิด 'การนำเข้าวิดีโอ'  แฟ้มวิดีโอที่ได้รับการบันทึกเรียบร้อย (หนึ่งแฟ้มหรือหลายแฟ้ม) จะถูกเขียนลงในดีวีดี

เมื่อต้องการนำเข้าภาพวิดีโอบางส่วนจากเทปในกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV)
1.   ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้อง DV ของคุณเชื่อมต่ออย่างเหมาะสม โดยใช้การเชื่อมต่อIEEE 1394 หรือ USB 2.0 จากนั้นตั้งค่าโหมดของกล้องให้เล่นวิดีโอที่บันทึกไว้ (มักใช้ชื่อ VTR หรือ VCR บนกล้อง DV)
2.   ในกล่องโต้ตอบ เล่นอัตโนมัติ ที่แสดงขึ้นมาเมื่อคุณเปิดกล้อง DV ให้คลิก นำเข้าวิดีโอ
3.   ในกล่อง ชื่อ ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มวิดีโอที่คุณต้องการสร้าง นำเข้า จากนั้นให้บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ
4.   เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการบันทึกแฟ้มวิดีโอของคุณจากรายการ นำเข้าไปยัง หรือคลิก เรียกดู เพื่อเลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่น
5.   ในรายการ จัดรูปแบบ ให้เลือกรูปแบบแฟ้มวิดีโอต่อไปนี้สำหรับใช้กับแฟ้มวิดีโอใหม่นี้ แล้วคลิก ถัดไป
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้มเดี่ยวโดยใช้ชนิดแฟ้มที่อุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัลของคุณจะใช้ตามค่าเริ่มต้น เช่น แฟ้ม AVI หรือ DV-AVI ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว)
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม Windows Media Video (WMV) ซึ่งเป็นแฟ้มเดี่ยวที่เก็บข้อมูลทั้งหมดบนวิดีโอเทปไว้ ให้เลือก แฟ้ม Windows Media Video (แฟ้มเดี่ยว).
•  ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม WMV สำหรับทุกฉากบนวิดีโอเทป ให้เลือก Windows Media Video (หนึ่งแฟ้มต่อฉาก)
6.   คลิก นำเข้าวิดีโอเทปบางส่วนเท่านั้นลงในคอมพิวเตอร์ของฉัน แล้วคลิก ถัดไป
7.   บนหน้า เลื่อนวิดีโอเทปแล้วเริ่มการนำเข้าวิดีโอ ให้ทำอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้
•  ใช้ตัวควบคุมกล้อง DV ใน 'การนำเข้าวิดีโอ' หรือตัวควบคุมบนกล้องวิดีโอของคุณ ค้นหาจุดเริ่มต้นของคลิปบนเทปซึ่งคุณต้องการนำเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของคุณ
•  ถ้าคุณต้องการระบุความยาวของเวลาที่จะนำเข้าภาพวิดีโอจากวิดีโอเทป ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย หยุดการนำเข้าหลังจาก แล้วป้อนค่าจำกัดเวลาสำหรับการนำเข้าภาพวิดีโอ
8.   คลิก เริ่มการนำเข้าวิดีโอ    วิดีโอเทปจะเล่นโดยอัตโนมัติและการนำเข้าจะเริ่มทำงาน
9.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•  เมื่อเทปมาถึงจุดที่คุณต้องการให้หยุดการนำเข้าแล้ว ให้คลิก หยุดการนำเข้าวิดีโอ
•  ถ้าคุณได้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย หยุดการนำเข้าหลังจาก ไว้ ให้รอจนถึงเวลาที่กำหนดในการนำเข้าภาพวิดีโอ
10.   ทำซ้ำขั้นตอนที่ 8 และ 9 สำหรับวิดีโอเทปแต่ละส่วนที่คุณต้องการนำเข้า
11.   เมื่อนำเข้าภาพวิดีโอเสร็จแล้ว ให้คลิก เสร็จสิ้น  วิดีโอที่นำเข้าถูกบันทึกเป็นแฟ้มวิดีโอหนึ่งแฟ้มหรือมากกว่าบนคอมพิวเตอร์ของคุณและปรากฏใน Windows Photo Gallery

หมายเหตุ
• คุณยังสามารถเปิด 'การนำเข้าวิดีโอ' ได้โดยใช้ Windows Movie Maker โดยที่กล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณและเปิดในโหมดการเล่น ใน Windows Movie Maker บนเมนู แฟ้ม ให้คลิก นำเข้าจากกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล
• คุณยังสามารถเปิดโปรแกรม Import Video ได้โดยใช้ Windows Photo Gallery โดยที่กล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณและเปิดในโหมดการเล่น ใน Windows Photo Gallery คลิก แฟ้ม คลิก นำเข้าจากกล้องหรือสแกนเนอร์ คลิกที่กล้อง DV ของคุณในรายการอุปกรณ์ แล้วคลิก นำเข้า
• ไม่สามารถนำเข้าภาพวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR เมื่อใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ' หรือ Windows Movie Maker ได้ เมื่อต้องการนำเข้าภาพวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR คุณจะต้องมีอุปกรณ์จับภาพวิดีโอแบบแอนะล็อกติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ และใช้ซอฟต์แวร์ที่ให้คุณสามารถนำเข้าวิดีโอจากอุปกรณ์จับภาพแบบแอนะล็อกได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารประกอบที่มาพร้อมกับอุปกรณ์จับภาพแบบแอนะล็อกของคุณ หรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต
• กล้อง DV บางชนิดยังให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แอนะล็อก อย่างเช่น VCR ได้อีกด้วย กล้อง DV จะทำการแปลงภาพวิดีโอจากแหล่งสัญญาณแอนะล็อกให้เป็นภาพวิดีโอแบบดิจิทัล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารประกอบที่มาพร้อมกับกล้อง DV ของคุณ หรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้กล้อง DV เพื่อนำเข้าวิดีโอจากอุปกรณ์วิดีโอแบบแอนะล็อก ให้ดูที่ การนำเข้าวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR โดยใช้กล้อง DV.
 
ดูเพิ่มเติม
• การตั้งค่าการนำเข้าวิดีโอ: คำถามที่ถามบ่อย
• การนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV
• กล้องวิดีโอแบบดิจิทัลและการเชื่อมต่อชนิดใดที่ฉันสามารถใช้เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้
• การแก้ไขปัญหาการนำเข้าภาพวิดีโอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 


การปรับเสียงใน Windows Movie Maker: คำถามที่ถามบ่อย

ต่อไปนี้เป็นคำตอบสำหรับคำถามที่พบโดยทั่วไปเกี่ยวกับการปรับระดับเสียงใน Windows Movie Maker
 
เสียงจะปรากฏอยู่ในโครงการใน Windows Movie Maker ได้อย่างไร
เมื่อคุณเพิ่มคลิปวิดีโอลงในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา เสียงที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอจะปรากฏบนแทร็กเสียงของเส้นเวลา เมื่อคุณเพิ่มคำบรรยายหรือเพลงประกอบลงในภาพยนตร์ เสียงนี้จะปรากฏอยู่บนแทร็กเสียง/เพลง ซึ่งแยกออกจากแทร็กเสียง คุณสามารถเล่นเสียงบนทั้งสองแทร็กในภาพยนตร์พร้อมกันและปรับแต่งแทร็กใดแทร็กหนึ่งให้ดังกว่าได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพิเศษที่คุณต้องการสำหรับภาพยนตร์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถค่อยๆ เพิ่มเสียงและค่อยๆ ลดเสียงของแต่ละคลิปหรือที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของภาพยนตร์ หรือคุณสามารถปิดเสียงของแต่ละคลิปได้เช่นกัน

ฉันจะปรับระดับเสียงของเพลงและเสียงที่เล่นพร้อมกันเพื่อให้ได้ยินเสียงทั้งคู่ได้อย่างไร
การตั้งค่าเสียงเริ่มต้นใน Windows Movie Maker มีไว้สำหรับส่วนของเสียงวิดีโอที่นำเข้าและคำบรรยายหรือเพลงที่คุณเพิ่มเพิ่มให้เล่นในระดับเสียงเดียวกัน แต่คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านั้นได้ หากระดับเสียงไม่สมดุลกันตามที่คุณต้องการ เมื่อต้องการปรับระดับเสียง ให้ทำดังต่อไปนี้
1.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ระดับเสียง
2.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•  เมื่อต้องการเพิ่มระดับเสียงบนแทร็กเสียงที่เป็นส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอ ให้ลากแถบเลื่อนไปยัง เสียงจากวิดีโอ
•  เมื่อต้องการเพิ่มระดับเสียงบนแทร็กเสียง/เพลง ให้ลากแถบเลื่อนไปยัง เสียง/เพลง
3.   คลิก ปิด

ฉันสามารถปิดเสียงในวิดีโอได้อย่างไร
เมื่อต้องการปิดเสียงในคลิปวิดีโอ ให้ทำดังต่อไปนี้
1.   บนแทร็กเสียงหรือแทร็กเสียง/เพลงของเส้นเวลา ให้คลิกคลิปเสียงที่คุณต้องการปิดเสียง เมื่อต้องการเลือกหลายๆ คลิป ให้กดแป้น CTRL ค้างไว้ในขณะคลิกที่คลิป
2.   คลิก คลิป ชี้ไปที่ เสียง แล้วคลิก ปิดเสียง

 


ฉันสามารถปรับระดับเสียงในภาพยนตร์ได้อย่างไร
เมื่อต้องการปรับระดับเสียงของคลิปเสียงแต่ละคลิปโดยให้ทำดังต่อไปนี้
1.   บนแทร็กเสียงหรือแทร็กเสียง/เพลงของเส้นเวลา ให้เลือกคลิปเสียงที่คุณต้องการปรับระดับเสียง
2.   คลิก คลิป ชี้ไปที่ เสียง แล้วคลิก ระดับเสียง
3.   เมื่อต้องการปรับระดับเสียง ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•  เมื่อต้องการลดระดับเสียง ให้เลื่อนแถบเลื่อน ระดับเสียง ไปทางซ้าย
•  เมื่อต้องการเพิ่มระดับเสียง ให้เลื่อนแถบเลื่อน ระดับเสียง ไปทางขวา
•  เมื่อต้องการปิดเสียงของคลิป ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย ปิดเสียงของคลิป
•  เมื่อต้องการตั้งค่าระดับเสียงใหม่ให้เป็นระดับเสียงเดิม ให้คลิก ตั้งค่าใหม่

ฉันสามารถค่อยๆ เพิ่มเสียงหรือค่อยๆ ลดเสียงได้อย่างไร
คุณสามารถค่อยๆ ลดเสียงหรือค่อยๆ เพิ่มเสียงได้ โดยการเพิ่มลักษณะพิเศษของเสียง ค่อยๆ เพิ่มเสียง หรือ ค่อยๆ ลดเสียง เมื่อต้องการค่อยๆ เพิ่มเสียงหรือค่อยๆ ลดเสียง ให้ทำดังต่อไปนี้
1.   บนแทร็กเสียงหรือแทร็กเสียง/เพลงของเส้นเวลา ให้เลือกคลิปเสียง
2.   คลิก คลิป ชี้ไปที่ เสียง แล้วคลิก ค่อยๆ เพิ่มเสียง หรือ ค่อยๆ ลดเสียง

Windows Movie Maker ใช้เทคโนโลยีใดในการเล่นแฟ้มเสียง
เทคโนโลยีที่ Windows Movie Maker ใช้ในการเล่นแฟ้มจะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกแฟ้มต้นฉบับ ตัวอย่างเช่น ถ้าแฟ้มถูกสร้างโดยใช้ Windows Media Audio (WMA) แล้ว Windows Movie Maker จะใช้ WMA ในการเล่นแฟ้ม ถ้าแฟ้มถูกสร้างโดยใช้ระบบ Dolby Digital Windows Movie Maker จะใช้ Dolby Digital ในการเล่นแฟ้ม เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของแฟ้มที่ Windows Movie Maker สามารถเล่นได้ ให้ดูที่ การนำเข้าแฟ้มวิดีโอ รูปภาพ และเสียงใน Windows Movie Maker
ซึ่งได้รับการผลิตภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Dolby Laboratories “Dolby”และสัญลักษณ์ D สองตัวเป็นเครื่องหมายการค้าของ Dolby Laboratories งานที่ไม่เปิดเผยและเป็นความลับ ลิขสิทธิ์ 1992–1997 Dolby Laboratories สงวนลิขสิทธิ์
 
ดูเพิ่มเติม
• การเพิ่มเพลงลงในภาพยนตร์ของคุณ
• การเพิ่มคำบรรยายลงในภาพยนตร์ของคุณ

 


การเพิ่มคำบรรยายลงในภาพยนตร์ของคุณ

คุณสามารถทำให้ภาพยนตร์ของคุณเป็นส่วนบุคคลมากขึ้นโดยการอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ด้วยคำพูดของคุณเอง ขั้นตอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการเพิ่มคำบรรยายลงในภาพยนตร์ของคุณ
1.   ถ้ามองเห็นมุมมองกระดานเรื่องราว ให้คลิก มุมมอง จากนั้น คลิก เส้นเวลา
2.   ย้ายตัวบ่งชี้การเล่น ซึ่งปรากฏเป็นสี่เหลี่ยมมีเส้นแนวตั้งข้างใต้ ไปที่จุดหนึ่งบนเส้นเวลาที่แทร็กเสียง/เพลงยังวางอยู่ และที่คุณต้องการเริ่มคำบรรยายของคุณ
3.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก บรรยายเส้นเวลา
4.   ถ้ามองเห็น แสดงตัวเลือก ให้คลิกที่ตัวเลือกนั้น
5.   เมื่อต้องการป้องกันไม่ให้มีการเล่นเสียงทางลำโพงของคุณขณะบันทึกคำบรรยายอยู่ ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย ปิดเสียงลำโพง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้มีเสียงหรือเสียงก้องที่ไม่พึงประสงค์ออกมากับคำบรรยายของคุณ
6.   ภายใต้ อุปกรณ์เล่นเสียง ให้คลิกอุปกรณ์จับเสียงที่คุณต้องการใช้ ตัวเลือกนี้จะใช้การได้กับอุปกรณ์แอนะล็อกเท่านั้น และอุปกรณ์เล่นเสียงมักจะเป็นชื่อของการ์ดเสียงที่ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ
7.   ในการปรับระดับการบันทึกคำบรรยายของคุณ ให้พูดลงในอุปกรณ์บันทึกและย้ายแถบเลื่อน ระดับสัญญาณขาเข้า ไปยังตำแหน่งบนเส้นวัดที่ลงทะเบียนเสียงของคุณในระดับเสียงที่คุณต้องการ คุณควรให้แถบเลื่อนอยู่ในส่วนบนของเส้นวัดแต่อยู่ต่ำกว่าพื้นที่สีแดง
8.   คลิก เริ่มคำบรรยาย แล้วเริ่มบรรยายเนื้อหาของเส้นเวลา
9.   เมื่อบรรยายเสร็จ ให้คลิก หยุดคำบรรยาย
10.   ในกล่อง ชื่อแฟ้ม พิมพ์ชื่อแฟ้มสำหรับคำบรรยายของคุณ จากนั้นคลิก บันทึก
11.   คลิก ปิด

Windows Movie Maker จะนำเข้าคำบรรยายของคุณในคอลเลกชันที่ใช้อยู่และวางไว้บนเส้นเวลาในจุดที่คุณเริ่มต้นบรรยายเป็นครั้งแรกบนแทร็กเสียง/เพลงโดยอัตโนมัติ Windows Movie Maker จะบันทึกแฟ้มด้วยนามสกุล .wma (Windows Media Audio) ลงในโฟลเดอร์ที่คุณเลือก
• ถ้าคุณต้องการให้ Windows Movie Maker หยุดการบันทึกโดยอัตโนมัติเมื่อคุณไปถึงอีกแทร็กเสียงบนเส้นเวลาของคุณ ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย จำกัดคำบรรยายไม่ให้เกินเนื้อที่ว่างที่มีอยู่บนแทร็กเสียง/เพลง ก่อนที่จะเริ่มบันทึกคำบรรยายของคุณ
    คุณสามารถใส่หูฟังแทนการปิดเสียงลำโพงเพื่อป้องกันไม่ให้มีเสียงที่ไม่ต้องการในคำบรรยายของคุณ เมื่อใช้หูฟัง คุณจะสามารถได้ยินเสียงอื่นๆ ในคลิปวิดีโอของคุณด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบว่าผู้ฟังของคุณจะได้ยินอะไรบ้างเมื่อพวกเขาเล่นภาพยนตร์ที่คุณเผยแพร่ 


หมายเหตุ
• ถ้าคุณพบว่าระดับเสียงต่ำไปเมื่อเล่นคำบรรยายของคุณและการ์ดเสียงของคุณสนับสนุน Microphoe Boost ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งาน Microphone Boost สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารประกอบการ์ดเสียงของคุณหรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต
• ถ้าตัวบ่งชี้การเล่นอยู่ที่จุดต้นๆ ของโครงการของคุณ คุณอาจจะมองไม่เห็นเส้นแนวตั้งเพราะเส้นดังกล่าวรวมอยู่กับเส้นขอบซ้ายของเส้นเวลา ให้ลากสี่เหลี่ยมที่ด้านบนของตัวบ่งชี้การเล่นไปทางขวาเพื่อให้เห็นเส้นและวางเส้นในที่ที่คุณต้องการ
 
ดูเพิ่มเติม
• เพิ่มเพลงลงในภาพยนตร์ของคุณ
• การปรับเสียง: คำถามที่ถามบ่อย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


การนำเข้าวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR โดยใช้กล้อง DV
ในบทความนี้
• สิ่งที่ต้องมี
• เชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับ DV ของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อ S-Video
• การเชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับ DV ของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อแบบ       คอมโพสิตวิดีโอ
• การเปิดใช้งานการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัลในกล้อง DV ของคุณ
• การเชื่อมต่อกล้อง DV กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
• การนำเข้าวิดีโอแบบแอนะล็อกไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้กล้อง DV

คุณสามารถนำเข้าวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้กล้องวิดีโอดิจิทัล (DV) และโปรแกรม Import Video คุณจะสามารถนำเข้าวิดีโอจากอุปกรณ์วิดีโอแบบแอนะล็อกรุ่นเก่า เช่น VCR หรือกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกซึ่งไม่มีพอร์ต IEEE 1394 รูปแบบของวิดีโอแบบแอนะล็อกที่ได้รับความนิยมบางรูปแบบได้แก่ 8mm, Hi-8, VHS และ S-VHS
เมื่อคุณเชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับกล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ กล้อง DV จะแปลงวิดีโอจากสัญญาณวิดีโอแบบแอนะล็อกเป็นสัญญาณวิดีโอดิจิทัลโดยใช้การแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัล จากนั้นวิดีโอดิจิทัลจะถูกนำเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้โปรแกรม Import Video
ถ้าคุณมีวิดีโอจำนวนมากในวิดีโอเทปแบบแอนะล็อก คุณสามารถบันทึกเวลาได้โดยใช้การแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัล เนื่องจากวิดีโอถูกนำเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่มีการบันทึกวิดีโอแบบแอนะล็อกเป็นวิดีโอเทป DV ไว้ก่อน คุณจะสามารถลดขั้นตอนในกระบวนการนำเข้าวิดีโอแบบแอนะล็อกไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขวิดีโอได้
ขั้นตอนพื้นฐานในการใช้กล้อง DV เพื่อนำเข้าวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR มีดังนี้:
1.   เชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ไปยังกล้อง DV ของคุณโดยใช้ชนิดของการเชื่อมต่อชนิดใดชนิดหนึ่งในสองชนิดนี้คือ การเชื่อมต่อ S-Video หรือ การเชื่อมต่อคอมโพสิตวิดีโอ.
2.  การเปิดใช้งานการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัลในกล้อง DV ของคุณ.
3.   การเชื่อมต่อกล้อง DV กับคอมพิวเตอร์ของคุณ.
4.   การนำเข้าวิดีโอแบบแอนะล็อกไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้กล้อง DV.

สิ่งที่ต้องมี
ในการแปลงวิดีโอแบบแอนะล็อกเป็นสัญญาณวิดีโอดิจิทัลโดยใช้กล้อง DV และโปรแกรม Import Video คุณต้องมีสิ่งต่อไปนี้
  •   กล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR
•   กล้อง DV ที่สนับสนุนการแปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นดิจิทัล
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการที่กล้อง DV เฉพาะรุ่นจะสนับสนุนการแปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นดิจิทัลได้หรือไม่ ให้ดูที่คู่มือที่มาพร้อมกับกล้อง DV หรือดูที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตกล้อง DV บางตัวมีการตั้งค่าการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัล ซึ่งจะมีป้ายแสดงว่า A/V เป็น DV Out, AV เป็น DV หรือชื่อที่คล้ายกันบนเมนูการเล่นเมนูใดเมนูหนึ่งบนกล้อง DV
• สายเคเบิล IEEE 1394
• พอร์ต IEEE 1394 บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
• สายเคเบิลเสียง/วิดีโอ (A/V)
สายเคเบิลซึ่งรวมอยู่กับกล้อง DV หลายตัวนั้นมีตัวเชื่อมต่อ RCA สามตัว (แดง ขาว และเหลือง) ที่ปลายข้างหนึ่งและตัวเชื่อมต่อ Mini A/V ที่ปลายอีกข้างหนึ่ง
•   (เลือกได้) สายเคเบิล S-Video และสายเคเบิล RCA ที่แยกต่างหากซึ่งมีตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดงและสีขาวที่ปลายข้างหนึ่งและหัวต่อขนาดเล็กสเตอริโอที่ปลายอีกข้างหนึ่ง
ถ้าคุณมีสายเคเบิล RCA หรือสายเคเบิล A/V ที่มีตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดงและสีขาวที่ปลายทั้งสองข้าง คุณสามารถเชื่อมต่ออะแด็ปเตอร์ที่มีหัวต่อขนาดเล็กสเตอริโอที่ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล

เชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับ DV ของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อ S-Video
ถ้ากล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ของคุณมีหัวต่อ S-Video คุณสามารถใช้การเชื่อมต่อ S-Video เพื่อเชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับกล้อง DV ของคุณ รูปภาพต่อไปนี้แสดงวิธีที่กล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR สามารถเชื่อมต่อกับกล้อง DV โดยใช้การเชื่อมต่อ S-Video รูปภาพนี้ยังแสดงให้เห็นกล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้การเชื่อมต่อ IEEE 1394 (ซึ่งคุณต้องทำในขั้นต่อไป)
 
การเชื่อมต่อ S-Video

การเชื่อมต่อต่อไปนี้แสดงไว้ในรูปภาพด้านบน:
• ตัวเชื่อมต่อ S-Video ที่ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล S-Video เสียบอยู่กับหัวต่อ S-Video บนกล้อง DV และตัวเชื่อมต่อ S-Video ที่ปลายอีกข้างหนึ่งเสียบอยู่กับหัวต่อ S-Video บนกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR สายเคเบิล S-Video จะถ่ายโอนวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ไปยังกล้อง DV
• ตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดงและสีขาวที่ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล A/V เสียบอยู่กับหัวต่อสีแดงและสีขาวที่สัมพันธ์กันบนกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดงและสีขาวถ่ายโอนเสียง ตัวเชื่อมต่อ RCA สีเหลืองต้องไม่เสียบอยู่กับกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ถ้าคุณกำลังใช้ VCR เป็นแหล่งวิดีโอแบบแอนะล็อก ให้ตรวจสอบว่าคุณมีตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดงและสีขาวที่เสียบอยู่กับหัวต่อ RCA แบบ Line Out บน VCR ของคุณ
• ตัวเชื่อมต่อ Mini A/V ที่ปลายอีกข้างหนึ่งของสายเคเบิล A/V เสียบอยู่กับหัวต่อ Mini A/V (มักเป็นสีเหลืองและติดป้าย Audio/Video) บนกล้อง DV
• ตัวเชื่อมต่อ IEEE 1394 ที่ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล IEEE 1394 เสียบอยู่กับพอร์ต IEEE 1394 (มักติดป้ายว่า DV In-Out หรือ DV) บนกล้อง DV ของคุณ และตัวเชื่อมต่อ IEEE 1394 ที่ใหญ่กว่าที่ปลายอีกข้างหนึ่งเสียบอยู่กับพอร์ต IEEE 1394 ที่คอมพิวเตอร์ของคุณ เช่นเดียวกัน การเชื่อมต่อนี้จะต้องทำในขั้นต่อไป
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR และกล้อง DV ปิดอยู่ก่อนที่คุณจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งสองชนิด 
ถ้าคุณมีตัวเลือกระหว่างการใช้การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิต หรือการเชื่อมต่อ S-Video เพื่อเชื่อมต่อกล้องแบบแอนะล็อกหรือ VCR ของคุณกับกล้อง DV ให้ใช้การเชื่อมต่อ S-Video เนื่องจากวิดีโอที่นำเข้าจะเป็นวิดีโอคุณภาพสูงเปรียบเทียบกับเมื่อคุณใช้การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิตวิดีโอ

การเชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับ DV ของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิตวิดีโอ
ถ้ากล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ของคุณมีหัวต่อแบบคอมโพสิตวิดีโอและหัวต่อ RCA สเตอริโอ
คุณสามารถใช้การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิตวิดีโอเพื่อเชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ของคุณกับกล้อง DV ของคุณ รูปภาพต่อไปนี้แสดงวิธีที่กล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR สามารถเชื่อมต่อกับกล้อง DV โดยใช้การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิตวิดีโอ รูปภาพนี้ยังแสดงให้เห็นกล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้การเชื่อมต่อ IEEE 1394 (ซึ่งคุณต้องทำในขั้นต่อไป)
 

การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิตวิดีโอ

การเชื่อมต่อต่อไปนี้แสดงไว้ในรูปภาพด้านบน:
• ตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดง สีขาว และสีเหลืองที่ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล A/V เสียบอยู่กับหัวต่อ RCA ที่สัมพันธ์กันบนกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดงและสีขาวถ่ายโอนเสียง และตัวเชื่อมต่อสีเหลืองถ่ายโอนวิดีโอ ถ้าคุณกำลังใช้ VCR เป็นแหล่งวิดีโอแบบแอนะล็อก ให้ตรวจสอบว่าคุณมีตัวเชื่อมต่อ RCA สีแดง สีเหลือง และสีขาวที่เสียบอยู่กับหัวต่อ RCA แบบ Line Out บน VCR ของคุณ
• ตัวเชื่อมต่อ Mini A/V ที่ปลายอีกข้างหนึ่งของสายเคเบิล A/V เสียบอยู่กับหัวต่อ Mini A/V (มักเป็นสีเหลืองและติดป้าย เสียง/วิดีโอ) บนกล้อง DV
• ตัวเชื่อมต่อ IEEE 1394 ที่ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล IEEE 1394 เสียบอยู่กับพอร์ต IEEE 1394 (มักติดป้ายว่า DV In-Out หรือ DV) บนกล้อง DV ของคุณ และตัวเชื่อมต่อ IEEE 1394 ที่ใหญ่กว่าที่ปลายอีกข้างหนึ่งเสียบอยู่กับพอร์ต IEEE 1394 ที่คอมพิวเตอร์ของคุณ เช่นเดียวกัน การเชื่อมต่อนี้จะต้องทำในขั้นต่อไป
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR และกล้อง DV ปิดอยู่ก่อนที่คุณจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งสองชนิด

การเปิดใช้งานการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัลในกล้อง DV ของคุณ
ขั้นตอนต่อไปคือการใช้งานการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัลบนกล้อง DV ของคุณ (ถ้ากล้อง DV เฉพาะของคุณสามารถแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัล)
1.   ถ้ามีวิดีโอเทปอยู่ในกล้อง DV ให้เปิดออกแล้วเอาเทปออกจากกล้อง DV ปิดช่องใส่เทป
2.   เปิดกล้อง DV และตั้งให้อยู่ในโหมดการเล่น (มักจะติดป้าย VCR หรือ VTR บนกล้อง DV)
3.   กดปุ่มหรือตัวควบคุมอื่นๆ บนกล้อง DV ที่นำคุณไปสู่เมนูการตั้งค่าการเล่น
4.   ค้นหาการตั้งค่าการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัลในกล้อง DV ของคุณ   ชื่อเฉพาะสำหรับการตั้งค่านี้ขึ้นอยู่กับกล้อง DV เฉพาะของคุณ อาจจะติดป้ายว่า A/V เป็น DV Out, A/V เป็น DV หรือชื่ออื่นที่คล้ายกัน
5.   เปิดใช้งานการแปลงแอนะล็อกเป็นดิจิทัลในกล้อง DV ของคุณ
6.   ออกจากเมนูการตั้งค่าการเล่นบนกล้อง DV
7.   ปิดกล้อง DV

การเชื่อมต่อกล้อง DV กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
คุณต้องเชื่อมต่อกล้อง DV กับคอมพิวเตอร์ของคุณ วิธีที่ใช้มากที่สุดในการเชื่อมต่อกล้อง DV กับคอมพิวเตอร์ของคุณคือ การใช้การเชื่อมต่อ IEEE 1394
เสียบตัวเชื่อมต่อตัวหนึ่งที่สายเคเบิล IEEE 1394 กับพอร์ต IEEE 1394 บนกล้อง DV ของคุณ จากนั้นเสียบตัวเชื่อมต่ออีกตัวหนึ่งที่ปลายอีกข้างบนพอร์ต IEEE 1394 บนคอมพิวเตอร์

การนำเข้าวิดีโอแบบแอนะล็อกไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้กล้อง DV
หลังจากที่คุณเชื่อมต่อกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR กับกล้อง DV และเชื่อมต่อกล้อง DV กับคอมพิวเตอร์ คุณจะสามารถนำเข้าวิดีโอแบบแอนะล็อกโดยใช้โปรแกรม Import Video
1.   ใส่เทปที่คุณต้องการบันทึกวิดีโอลงในกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ถ้าคุณบันทึกจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อก ให้เปิดกล้องและเปิดโหมดการเล่น
2.   เปิดกล้อง DV และตั้งให้อยู่ในโหมดการเล่น (มักจะติดป้าย VCR หรือ VTR บนกล้อง DV)
3.   ถ้ากล่องโต้ตอบ เล่นอัตโนมัติ แสดงขึ้นมาเมื่อคุณเปิดกล้อง DV ให้คลิก นำเข้าวิดีโอ
4.   ในกล่อง ชื่อ ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มวิดีโอที่คุณต้องการสร้าง นำเข้า จากนั้นให้บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ
5.   เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการบันทึกแฟ้มวิดีโอจากรายการ นำเข้าไปยัง หรือคลิก เรียกดู เพื่อเลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่น
6.   ในรายการ รูปแบบ ให้เลือกรูปแบบแฟ้มวิดีโอต่อไปนี้สำหรับใช้กับแฟ้มวิดีโอใหม่ แล้วคลิก ถัดไป:
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้มเดี่ยวโดยใช้ชนิดแฟ้มที่กล้อง DV ของคุณใช้เป็นค่าเริ่มต้น เช่น แฟ้ม AVI หรือ DV-AVI ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว)
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม Windows Media Video (WMV) ซึ่งเป็นแฟ้มเดี่ยวที่เก็บข้อมูลทั้งหมดบนวิดีโอเทปไว้ ให้เลือก แฟ้ม Windows Media Video (แฟ้มเดี่ยว)
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม WMV สำหรับทุกฉากบนวิดีโอเทป ให้เลือก Windows Media Video (หนึ่งแฟ้มต่อฉาก)
7.   คลิก นำเข้าวิดีโอเทปบางส่วนเท่านั้นลงในคอมพิวเตอร์ของฉัน แล้วคลิก ถัดไป
8.   ใช้ตัวควบคุมบนกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR (หรือรีโมทคอนโทรลสำหรับอุปกรณ์แบบแอนะล็อก) เพื่อเลื่อนเทปไปยังบริเวณที่คุณต้องการเริ่มการนำเข้าวิดีโอ จากนั้นกด 'เล่น' เพื่อเริ่มเล่นเทป
9.   ในหน้า เลื่อนวิดีโอเทปและเริ่มการนำเข้าวิดีโอ คลิก เริ่มการนำเข้าวิดีโอ
10.   เมื่อวิดีโอเทปแบบแอนะล็อกมาถึงจุดที่คุณต้องการให้หยุดการนำเข้าแล้ว ให้คลิก หยุดการนำเข้าวิดีโอ
11.   บนกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR (หรือรีโมทคอนโทรล) ให้กด 'หยุด'
12.   ทำซ้ำขั้นตอนที่ 8 ถึง 11 สำหรับวิดีโอเทปแบบแอนะล็อกแต่ละส่วนที่คุณต้องการนำเข้า
13.   เมื่อนำเข้าวิดีโอแบบแอนะล็อกเสร็จแล้ว ให้คลิก เสร็จสิ้น เพื่อปิดโปรแกรม Import Video
วิดีโอที่นำเข้าถูกบันทึกเป็นแฟ้มวิดีโอบนคอมพิวเตอร์ของคุณและปรากฏใน Windows Photo Gallery

หมายเหตุ
• ไม่สามารถนำเข้าวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ได้โดยตรงเมื่อใช้โปรแกรม Import Video หรือ Windows Movie Maker เมื่อต้องการนำเข้าวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR โดยตรง คุณจะต้องมีอุปกรณ์จับภาพวิดีโอแบบแอนะล็อกติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ และใช้ซอฟต์แวร์ที่ให้คุณสามารถนำเข้าวิดีโอจากแหล่งวิดีโอแอนะล็อกได้โดยตรง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารประกอบที่มาพร้อมกับอุปกรณ์จับภาพแบบแอนะล็อกของคุณ หรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต
• คุณยังสามารถเปิดโปรแกรม Import Video ได้โดยใช้ Windows Movie Maker ใช้กล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ที่เชื่อมต่อกับกล้อง DV ของคุณซึ่งเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อเปิดกล้อง DV ให้อยู่ในโหมดการเล่น ใน Windows Movie Maker บนเมนู แฟ้ม ให้คลิก นำเข้าจากกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล
• คุณยังสามารถเปิดโปรแกรม Import Video ได้โดยใช้ Windows Photo Gallery ใช้กล้องวิดีโอแบบแอนะล็อกหรือ VCR ที่เชื่อมต่อกับกล้อง DV ของคุณซึ่งเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อเปิดกล้อง DV ให้อยู่ในโหมดการเล่น ใน Windows Photo Gallery คลิก แฟ้ม คลิก นำเข้าจากกล้องหรือสแกนเนอร์ คลิกที่กล้อง DV ในรายการอุปกรณ์ จากนั้นคลิก นำเข้า
 
ดูเพิ่มเติม
• การตั้งค่าการนำเข้าวิดีโอ: คำถามที่ถามบ่อย
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป
• การนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV
• กล้องวิดีโอดิจิทัลและการเชื่อมต่อชนิดใดที่ฉันสามารถใช้เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้
• การแก้ไขปัญหาการนำเข้าภาพวิดีโอ


การตั้งค่าการนำเข้าวิดีโอ: คำถามที่ถามบ่อย

ต่อไปนี้เป็นคำตอบสำหรับคำถามที่พบโดยทั่วไปเกี่ยวกับการตั้งค่าการนำเข้าภาพวิดีโอใน 'การนำเข้าวิดีโอ'
 
รูปแบบวิดีโอคืออะไร
รูปแบบวิดีโอที่คุณเลือกจะเป็นตัวกำหนดชนิดของแฟ้มวิดีโอ ซึ่งให้คุณเป็นผู้เลือกชนิดแฟ้มสำหรับภาพวิดีโอที่คุณนำเข้าจากวิดีโอเทปแบบดิจิทัลมาในคอมพิวเตอร์ของคุณ เมื่อใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ'
 
ฉันสามารถเลือกรูปแบบวิดีโอใดได้บ้าง
  คุณสามารถเลือกนำเข้าภาพวิดีโอจากวิดีโอเทปให้เป็นแฟ้ม Windows Media Video (WMV) หรือเป็นแฟ้มที่ใช้รูปแบบเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัล (DV) อย่างเช่น แฟ้มวิดีโอ Audio Video Interleaved (AVI) เป็นต้น คุณยังสามารถเลือกที่จะปล่อยให้ 'การนำเข้าวิดีโอ' สร้างแฟ้ม WMV สำหรับ คลิป แต่ละคลิปบนวิดีโอเทปของคุณได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าวิดีโอเทปของคุณมีคลิปอยู่แปดคลิป 'การนำเข้าวิดีโอ' จะสามารถสร้างแฟ้ม WMV แปดแฟ้มแยกจากกันได้
 
ต้องพิจารณาอะไรบ้างเมื่อเลือกรูปแบบวิดีโอสำหรับภาพวิดีโอที่นำเข้า
  รายการต่อไปนี้จะแนะนำบางสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกรูปแบบวิดีโอ
•   โปรแกรมแก้ไขภาพวิดีโอที่คุณวางแผนจะใช้เพื่อแก้ไขภาพวิดีโอที่นำเข้า. เลือกนำเข้าภาพวิดีโอในรูปแบบวิดีโอที่ได้รับการสนับสนุนโดยโปรแกรมแก้ไขภาพวิดีโอที่คุณวางแผนจะใช้ ตัวอย่างเช่น ถ้าโปรแกรมแก้ไขภาพวิดีโอของคุณสนับสนุนการแก้ไขแฟ้มวิดีโอ AVI หรือแฟ้ม MPEG-2 ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว) ถ้าคุณวางแผนจะใช้โปรแกรมแก้ไขภาพวิดีโอที่สนับสนุนการแก้ไขแฟ้ม WMV และคุณวางแผนที่จะใช้คลิปแต่ละคลิปในวิดีโอที่แก้ไขแล้วของคุณ ให้เลือก Windows Media Video (หนึ่งแฟ้มต่อฉาก)
  •   แผนการบันทึกภาพยนตร์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วกลับลงวิดีโอเทป. ถ้าคุณวางแผนที่จะบันทึกภาพยนตร์ที่แก้ไขเสร็จสมบูรณ์แล้วของคุณกลับลงเทปอีก ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว)
  •   เนื้อที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ได้. ถ้าคุณมีภาพวิดีโอและเสียงจำนวนมากที่ต้องการนำเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของคุณ ควรพิจารณาถึงเนื้อที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ว่ามีเหลือเท่าใดด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเลือกที่จะนำเข้าภาพวิดีโอเป็นแฟ้ม AVI ภาพวิดีโอความยาวหนึ่งชั่วโมงจะใช้เนื้อที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ประมาณ 13 กิกะไบต์ (GB) ขณะที่ภาพวิดีโอความยาวเดียวกันนี้หากนำเข้าและบันทึกเป็นแฟ้ม WMV จะใช้เนื้อที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ประมาณ 1 GB เท่านั้น
  •   อัตราส่วนกว้างยาวของภาพวิดีโอต้นฉบับบนวิดีโอเทป. ภาพวิดีโอของคุณอาจถูกบันทึกให้มีอัตราส่วนกว้างยาว 16:9 (จอกว้าง) หรือ 4:3 (มาตรฐาน) ขึ้นอยู่กับกล้อง DV และการตั้งค่ากล้องเมื่อบันทึกภาพวิดีโอต้นฉบับลงเทป เลือกรูปแบบวิดีโอและการตั้งค่าอัตราส่วนกว้างยาวใน 'การนำเข้าวิดีโอ' ให้เหมือนกับภาพวิดีโอที่บันทึกอยู่ในเทป
  •   ทรัพยากรระบบของคอมพิวเตอร์. ถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์ที่มีทรัพยากรระบบแบบจำกัด เช่น มีตัวประมวลผลที่ทำงานช้า มี RAM น้อย หรือฮาร์ดดิสก์มีเนื้อที่ว่างเหลือไม่มากนัก ให้ลองนำเข้าวิดีโอเป็นรูปแบบแฟ้ม WMV แทน AVI วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาในการนำเข้าภาพวิดีโอ เช่น ภาพวิดีโอมีเฟรมกระตุก เป็นต้น
  •   เฟรมกระตุก. ถ้าคุณยอมให้มีเฟรมกระตุกในระหว่างกระบวนการนำเข้าได้ ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว) ถ้าคุณต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาเฟรมภาพวิดีโอกระตุก ควรนำเข้าวิดีโอเป็นแฟ้ม WMV
 
อะไรเป็นตัวกำหนดว่าแฟ้มวิดีโอจะถูกสร้างขึ้นกี่แฟ้มเมื่อฉันนำเข้าภาพวิดีโอ
  เมื่อคุณเลือกที่จะนำเข้าภาพวิดีโอเป็นแฟ้ม WMV หลายๆ แฟ้ม 'การนำเข้าวิดีโอ' จะจดจำตำแหน่งในวิดีโอที่มีการแบ่งฉากเกิดขึ้น และจะสร้างแฟ้ม WMV ให้กับแต่ละคลิปแยกจากกันโดยเฉพาะ เมื่อคุณเลือกที่จะนำเข้าวิดีโอเทปของคุณให้เป็นแฟ้ม WMV หรือ AVI แบบแฟ้มเดี่ยว วิดีโอที่คุณนำเข้าจากกล้อง DV นั้นมักจะถูกนำเข้าและบันทึกเป็นแฟ้มวิดีโอแฟ้มเดียวบนคอมพิวเตอร์ของคุณ อย่างไรก็ดี ในบางครั้งอาจมีการสร้างแฟ้มวิดีโอมากกว่าหนึ่งแฟ้ม เนื่องจากสาเหตุข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
  •   รูปแบบของภาพวิดีโอบนเทปเปลี่ยนไป. ถ้าแต่แรกเริ่มภาพวิดีโอบนเทปถูกบันทึกโดยใช้รูปแบบวิดีโอชนิดหนึ่ง และถูกเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบวิดีโออีกชนิดหนึ่ง แฟ้มวิดีโอใหม่จะถูกสร้างขึ้นทุกครั้งที่รูปแบบวิดีโอของภาพวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้มีการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น ถ้าส่วนหนึ่งของวิดีโอถูกบันทึกไว้เป็นรูปแบบวิดีโอ NTSC จากนั้นส่วนถัดไปของวิดีโอในเทปนี้ถูกบันทึกเป็นรูปแบบวิดีโอ PAL แฟ้มวิดีโอใหม่จะถูกสร้างขึ้นเมื่อวิดีโอที่บันทึกไว้มีการสลับจากรูปแบบ NTSC ไปเป็น PAL
  •   อัตราส่วนกว้างยาวของภาพวิดีโอบนเทปเปลี่ยนไป. ถ้าแต่แรกเริ่มภาพวิดีโอบนเทปถูกบันทึกที่อัตราส่วนกว้างยาวค่าหนึ่ง และถูกเปลี่ยนไปเป็นอัตราส่วนกว้างยาวอีกค่าหนึ่ง แฟ้มวิดีโอใหม่จะถูกสร้างขึ้นทุกครั้งที่อัตราส่วนกว้างยาวของวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้มีการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น ถ้าภาพวิดีโอส่วนหนึ่งถูกบันทึกไว้ที่ 16:9 (จอกว้าง) และจากนั้นการตั้งค่าการบันทึกบนกล้องได้ถูกเปลี่ยนเป็น 4:3 (มาตรฐาน) แฟ้มวิดีโอใหม่จะถูกสร้างขึ้นเมื่อภาพวิดีโอที่บันทึกไว้มีการสลับจาก 16:9 เป็น 4:3
 
ดูเพิ่มเติม
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป
• การนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV
• กล้องวิดีโอแบบดิจิทัลและการเชื่อมต่อชนิดใดที่ฉันสามารถใช้เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้
• การแก้ไขปัญหาการนำเข้าวิดีโอ

 

กล้องวิดีโอแบบดิจิทัลและการเชื่อมต่อชนิดใดที่ฉันสามารถใช้เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้

คุณสามารถใช้กล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV) เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอจากวิดีโอเทป (หรือจากแหล่งภาพสด) เข้ามาในคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ'
เมื่อต้องการนำเข้าภาพวิดีโอคุณภาพสูงโดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ' คุณสามารถเชื่อมต่อกล้อง DV ของคุณเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้สองวิธี วิธีแรกคือใช้การเชื่อมต่อ IEEE 1394 ในกรณีนี้ ปลายข้างหนึ่งของสายเคเบิล IEEE 1394 เชื่อมต่อกับพอร์ต DV บนกล้องของคุณและปลายอีกข้างหนึ่งของสายเคเบิลเสียบเข้ากับพอร์ต IEEE 1394 บนคอมพิวเตอร์ของคุณ การเชื่อมต่อแบบนี้ได้รับความนิยมมากกว่าวิธีที่สอง ซึ่งใช้ USB 2.0
ถ้าคุณมีกล้อง DV ที่สนับสนุนการรับส่งกระแสข้อมูลผ่าน USB (เรียกว่ากล้อง USB Video Class [UVC] ) คุณจะไม่สามารถเชื่อมต่อกล้องวิดีโอกับคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อ USB 2.0 เมื่อต้องการดูว่ากล้อง DV ของคุณสนับสนุนการรับส่งกระแสข้อมูล USB ผ่าน DV หรือไม่ ให้เลือก 'ตัวจัดการอุปกรณ์' ของ Windows แล้วดูว่ามีคำว่า " อุปกรณ์วิดีโอ USB" ปรากฏบนกล้องหรือไม่ หรือเลือกเอกสารประกอบที่มาพร้อมกับกล้อง DV ของคุณ หรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับชนิดการเชื่อมต่อที่ใช้ และวิธีการเชื่อมต่อกล้อง DV ของคุณ ให้ตรวจสอบจากเอกสารประกอบที่ให้มาพร้อมกับกล้อง หรือดูที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต
 
ดูเพิ่มเติม
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป
• การนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV
• การตั้งค่าการนำเข้าวิดีโอ: คำถามที่ถามบ่อย

 

 

 

 

 

 

การแก้ไขปัญหาการนำเข้าภาพวิดีโอ

ต่อไปนี้เป็นวิธีแก้ไขปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับการนำเข้าภาพวิดีโอจากกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV)

เหตุใดคอมพิวเตอร์จึงไม่พบกล้อง DV เมื่อเสียบกล้องเข้าไป
  ลักษณะดังกล่าวอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
  •   ไม่ได้เปิดกล้อง DV
  •   กล้อง DV เข้าสู่โหมดสแตนด์บาย กล้อง DV บางตัวจะเข้าสู่โหมดสแตนด์บายถ้ากล้อง DV อยู่ในโหมดบันทึก (กล้อง) โดยที่มีเทปอยู่ข้างใน และไม่มีการส่งวิดีโอหรือเสียงไปที่หรือมาจากกล้อง
ในการแก้ไขปัญหานี้ ให้ทำอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้แล้วลองอีกครั้ง
  •   ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ DV ได้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อ IEEE 1394 หรือ USB 2.0 อย่างถูกต้อง
  •   ตรวจสอบว่ากล้อง DV เปิดอยู่และอยู่ในโหมด VCR (เล่น)
  •   ปิดกล้อง DV แล้วจึงเปิดขึ้นใหม่ในโหมด VCR (เล่น)
 
เมื่อฉันลองนำเข้าภาพวิดีโอทั้งหมดบนวิดีโอเทป กลับได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดบอกว่าไม่มีเทปอยู่ในกล้อง DV ฉันควรทำอย่างไร
  ตรวจดูให้แน่ใจว่าใส่ม้วนวิดีโอเทปลงในกล้อง DV อย่างถูกต้องแล้ว จากนั้นให้ตรวจสอบว่าปิดช่องบรรจุเทปในกล้องเรียบร้อยดีหรือไม่ ลองนำเข้าภาพวิดีโออีกครั้ง
 
ฉันได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดว่าแฟ้มวิดีโอมีขนาดเกินกว่าขนาดจำกัด FAT32 4 กิกะไบต์ มีความหมายว่าอย่างไรและจะแก้ไขได้อย่างไร
  ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าคุณจับภาพวิดีโอที่มีการตั้งค่าคุณภาพในระดับสูงในไดรฟ์ข้อมูลหรือพาร์ติชันที่ใช้ระบบแฟ้ม FAT32 MS-DOS และระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่ทำงานบน Windows ใช้ระบบแฟ้มนี้เพื่อจัดระเบียบและจัดการแฟ้ม
ในการแก้ไขปัญหานี้ ให้ทำอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้
  •   ลดปริมาณภาพวิดีโอที่คุณเข้าโดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ'
  •   เลือกการตั้งค่าวิดีโอที่ต่ำลงให้กับภาพวิดีโอที่คุณนำเข้า
  •   หากฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์มีการแบ่งหลายพาร์ติชัน และมีหนึ่งพาร์ติชันที่ฟอร์แมตโดยใช้ระบบแฟ้ม NTFS ให้กลับไปที่ 'การนำเข้าวิดีโอ' และบันทึกภาพวิดีโอของคุณลงในพาร์ติชันนั้น
•   แปลงระบบแฟ้มของคุณเพื่อใช้ระบบแฟ้ม NTFS ซึ่งจะไม่มีการจำกัดขนาดแฟ้ม


  1.    ปิดโปรแกรมประยุกต์ใดๆ ที่เปิดอยู่
  2.    แปลงระบบแฟ้มของคุณไปใช้ระบบแฟ้ม NTFS เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ให้ดูที่ การแปลงฮาร์ดดิสก์หรือพาร์ติชันเป็นรูปแบบ NTFS.

ฉันมองไม่เห็นตัวเลือกใดที่ใช้นำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป แต่กลับมีภาพวิดีโอสดแสดงอยู่ใน 'การนำเข้าวิดีโอ' แทน จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร
  ให้สลับโหมดในกล้อง DV จากโหมดบันทึก (กล้อง) ไปเป็นโหมดเล่น (VCR) แล้วเริ่ม 'การนำเข้าวิดีโอ' ใหม่อีกครั้ง เมื่อคุณตรวจดู 'การนำเข้าวิดีโอ' ตอนนี้คุณควรจะมีตัวเลือกสำหรับให้นำเข้าภาพวิดีโอจากวิดีโอเทปแล้ว
 
ขณะที่ฉันกำลังนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV เมื่อผ่านไปสักครู่ภาพวิดีโอสดกลับหยุดการนำเข้า และฉันได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดแจ้งว่ากล้องถูกตัดการเชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์ จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร
  กล้อง DV อาจเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย กล้อง DV บางตัวจะเข้าสู่โหมดสแตนด์บายถ้ากล้อง DV อยู่ในโหมดบันทึก (กล้อง) โดยที่มีเทปอยู่ข้างใน และไม่มีการส่งวิดีโอหรือเสียงไปที่หรือมาจากกล้อง เมื่อจะนำเข้าภาพวิดีโอสดโดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ' ให้เอาวิดีโอเทปออกจากกล้องก่อนเริ่ม 'การนำเข้าวิดีโอ'
 
เมื่อฉันนำเข้าภาพวิดีโอโดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ' เฟรมวิดีโอกระตุกและขาดหายไปจากแฟ้มภาพวิดีโอที่นำเข้า จะป้องกันเฟรมกระตุกได้อย่างไร
  ในการป้องกันเฟรมกระตุก ให้ทำอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้
  •   จัดเรียงข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 'ตัวจัดเรียงข้อมูลบนดิสก์' ให้ดูที่ การเพิ่มประสิทธิภาพโดยการจัดเรียงข้อมูลฮาร์ดดิสก์ของคุณ .
  •   ปิดโปรแกรมอื่นที่กำลังทำงานอยู่ขณะที่คุณจับภาพวิดีโอ โปรแกรมที่จำเป็นต้องเข้าถึงฮาร์ดดิสก์อาจทำให้ดิสก์ทำงานช้าลง เมื่อนำเข้าภาพวิดีโอ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเฟรมวิดีโอกระตุก
  •   เลือกการตั้งค่าวิดีโอที่ต่ำลงใน 'การนำเข้าวิดีโอ' เมื่อทำการนำเข้าภาพวิดีโอจากกล้อง DV
  •   ถ้าเป็นไปได้ ควรปรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากการแก้ไขภาพวิดีโอนั้นระบบจะต้องทำงานอย่างหนักมาก การปรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณให้มีสิ่งต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง จะช่วยป้องกันเฟรมกระตุกเมื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้ ตัวประมวลผลที่เร็วขึ้น ฮาร์ดดิสก์ หรือหน่วยความจำเพิ่มมากขึ้น
 
เหตุใดฉันจึงไม่สามารถนำเข้าวิดีโอจากเว็บแคมหรือแหล่งวิดีโอแอนะล็อก
  'การนำเข้าวิดีโอ' ไม่สนับสนุนการนำเข้าวิดีโอจากเว็บแคมหรือแหล่งวิดีโอแอนะล็อก เช่น VCR เมื่อต้องการใช้ภาพวิดีโอจากเว็บแคมของคุณ คุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับตัวเว็บแคมเพื่อบันทึกวิดีโอลงในคอมพิวเตอร์ของคุณได้
 
ดูเพิ่มเติม
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป
• การนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV
• การตั้งค่าการนำเข้าวิดีโอ: คำถามที่ถามบ่อย
• กล้องวิดีโอแบบดิจิทัลและการเชื่อมต่อชนิดใดที่ฉันสามารถใช้เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


การนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV

คุณสามารถนำเข้าภาพวิดีโอสดจากกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล (DV) มาในคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยใช้ 'การนำเข้าวิดีโอ' เมื่อคุณนำภาพวิดีโอสดจากกล้อง DV เข้ามาในคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ภาพวิดีโอสดจะถูกเข้ารหัสเป็นแฟ้มวิดีโอและบันทึกลงบนฮาร์ดดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ หลังจากนำเข้าภาพวิดีโอสดแล้ว คุณสามารถแก้ไขแฟ้มวิดีโอที่ได้มาได้โดยใช้ซอฟต์แวร์การแก้ไขภาพวิดีโอ อย่างเช่น Windows Movie Maker เป็นต้น
1.   ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้อง DV ของคุณเชื่อมต่ออย่างเหมาะสมกับพอร์ต IEEE 1394 หรือ USB 2.0 จากนั้นตั้งค่าโหมดของกล้องให้บันทึกภาพวิดีโอสด (มักใช้ชื่อ Camera บนกล้อง DV)
2.   ในกล่องโต้ตอบ เล่นอัตโนมัติ ที่แสดงขึ้นมาเมื่อคุณเปิดกล้อง DV ให้คลิก นำเข้าวิดีโอ
3.   ในกล่อง ชื่อ ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มวิดีโอที่คุณต้องการสร้าง นำเข้า จากนั้นให้บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ
4.  เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการบันทึกแฟ้มของคุณจากรายการ นำเข้าไปยัง หรือคลิก เรียกดู เพื่อเลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่น
5.   ในรายการ จัดรูปแบบ ให้เลือกรูปแบบแฟ้มวิดีโอต่อไปนี้สำหรับใช้กับแฟ้มวิดีโอใหม่นี้ แล้วคลิก ถัดไป
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้มเดี่ยวโดยใช้ชนิดแฟ้มที่อุปกรณ์วิดีโอแบบดิจิทัลของคุณจะใช้ตามค่าเริ่มต้น เช่น แฟ้ม AVI หรือ DV-AVI ให้เลือก Audio Video Interleaved (แฟ้มเดี่ยว)
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม Windows Media Video (WMV) ซึ่งเป็นแฟ้มเดี่ยวที่เก็บข้อมูลทั้งหมดบนวิดีโอเทปไว้ ให้เลือก แฟ้ม Windows Media Video (แฟ้มเดี่ยว).
•   ถ้าคุณต้องการสร้างแฟ้ม WMV สำหรับทุกฉากบนวิดีโอเทป ให้เลือก Windows Media Video (หนึ่งแฟ้มต่อฉาก)
6.  คลิก เริ่มการนำเข้าวิดีโอ
7.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•   เมื่อเสร็จสิ้นการนำเข้าภาพวิดีโอสดที่คุณต้องการนำเข้าแล้ว ให้คลิก หยุดการนำเข้าวิดีโอ
•   ถ้าคุณได้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย หยุดการนำเข้าหลังจาก ไว้ ให้รอจนถึงเวลาที่กำหนดในการนำเข้าภาพวิดีโอสด
8.   ทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 และ 7 ถ้าต้องการนำเข้าภาพวิดีโอสดเพิ่มเติมในแฟ้มวิดีโอที่ระบุ
9.   คลิก เสร็จสิ้น

วิดีโอที่นำเข้าถูกบันทึกเป็นแฟ้มวิดีโอหนึ่งแฟ้มหรือมากกว่าบนคอมพิวเตอร์ของคุณและปรากฏใน Windows Photo Gallery

หมายเหตุ
• คุณยังสามารถเปิด 'การนำเข้าวิดีโอ' ได้โดยใช้ Windows Movie Maker โดยที่กล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณและเปิดโหมดกล้อง ใน Windows Movie Maker บนเมนู แฟ้ม คลิก นำเข้าจากกล้องวิดีโอแบบดิจิทัล
• คุณยังสามารถเปิดโปรแกรม Import Video ได้โดยใช้ Windows Photo Gallery โดยที่กล้อง DV ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณและเปิดในโหมดกล้อง ใน Windows Photo Gallery คลิก แฟ้ม คลิก นำเข้าจากกล้องหรือสแกนเนอร์ คลิกที่กล้อง DV ของคุณในรายการอุปกรณ์ แล้วคลิก นำเข้า
 
ดูเพิ่มเติม
• การนำเข้าวิดีโอจากวิดีโอเทป
• การตั้งค่าการนำเข้าวิดีโอ: คำถามที่ถามบ่อย
• กล้องวิดีโอแบบดิจิทัลและการเชื่อมต่อชนิดใดที่ฉันสามารถใช้เพื่อนำเข้าภาพวิดีโอได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การแก้ไขใน Windows Movie Maker: การเชื่อมโยงที่แนะนำ
ใน Windows Movie Maker คุณสามารถแก้ไขวิดีโอได้หลายทาง ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้วิดีโอเป็นแบบใด การแก้ไขวิดีโอจะทำให้คุณสามารถสร้างและเผยแพร่ภาพยนตร์ที่คุณแก้ไขด้วยตนเองได้
• การแก้ไขภาพยนตร์
• การเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษลงในรูปภาพและวิดีโอ
• การทำงานกับคลิป
• การสร้างภาพยนตร์อย่างรวดเร็ว (ภาพยนตร์อัตโนมัติ)
• การเผยแพร่ภาพยนตร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษลงในรูปภาพและวิดีโอใน Windows Movie Maker

ในบทความนี้
• ช่วงการเปลี่ยนภาพ
• ลักษณะพิเศษ
คุณสามารถปรับปรุงภาพยนตร์ของคุณได้โดยการเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพหรือลักษณะพิเศษ

ช่วงการเปลี่ยนภาพ
ช่วงการเปลี่ยนภาพจะควบคุมวิธีการเล่นภาพยนตร์ของคุณจากคลิปวิดีโอหรือรูปภาพหนึ่งไปยังรายการถัดไป คุณสามารถเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างรูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือชื่อเรื่องในสองรายการรวมกันได้บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา คุณสามารถเปลี่ยนระยะเวลาการเล่นของช่วงการเปลี่ยนภาพให้เท่ากับระยะเวลาที่สั้นกว่าของสองคลิปติดกันได้ ช่วงการเปลี่ยนภาพที่คุณสามารถเพิ่มได้แก่ การค่อยๆ ปรากฏจากหน้าจอสีดำ การเลื่อนคลิปออกไปจากหน้าจอเพื่อแสดงคลิปต่อไป หรือการทำให้คลิปแตกออกเพื่อแสดงคลิปถัดไป
ช่วงการเปลี่ยนภาพที่เพิ่มเข้าไปจะปรากฏอยู่บนแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพของเส้นเวลา หากต้องการดูแทร็กนี้ คุณต้องขยายแทร็กวิดีโอ ความยาวของช่วงการเปลี่ยนภาพจะกำหนดโดยระยะการเหลื่อมกันระหว่างสองคลิป รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนกระดานเรื่องราวที่มีช่วงการเปลี่ยนภาพ
 

ช่วงการเปลี่ยนภาพบนกระดานเรื่องราว
รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนเส้นเวลาที่มีช่วงการเปลี่ยนภาพ
 

ช่วงการเปลี่ยนภาพบนเส้นเวลา
เมื่อต้องการเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพ
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ให้คลิกวินาทีของคลิปวิดีโอ ชื่อเรื่อง หรือรูปภาพสองรายการที่ต้องการเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพคั่น
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ช่วงการเปลี่ยนภาพ
3.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้คลิกช่วงการเปลี่ยนภาพที่ต้องการเพิ่ม คุณสามารถคลิก เล่น ใต้จอภาพเพื่อดูการแสดงตัวอย่างของช่วงการเปลี่ยนภาพดังกล่าว
4.   คลิก คลิป แล้วคลิก เพิ่มไว้ที่เส้นเวลา หรือ เพิ่มไว้ที่กระดานเรื่องราว

หมายเหตุ
• คุณสามารถเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพได้โดยลากช่วงการเปลี่ยนภาพใส่ในเส้นเวลาและวางไว้ระหว่างคลิปสองรายการบนแทร็กวิดีโอ หรือหากคุณอยู่ในมุมมองกระดานเรื่องราว คุณสามารถลากช่วงการเปลี่ยนภาพมายังเซลล์ช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างคลิปวิดีโอหรือรูปภาพสองรายการนั้น
• หากคุณปรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณจาก Windows XP  เป็น Windows Vista ช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษใดๆ ที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้จะไม่สามารถใช้งานได้ใน Windows Movie Maker รุ่นปัจจุบัน

เมื่อต้องการเปลี่ยนระยะเวลาของช่วงการเปลี่ยนภาพ
•   บนแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพของเส้นเวลา ให้ลากจุดเริ่มต้นช่วงการเปลี่ยนภาพไปยังจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของเส้นเวลา ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ช่วงการเปลี่ยนภาพนั้นสั้นลงหรือยาวขึ้น
หมายเหตุ  เมื่อต้องการดูแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพของเส้นเวลา ให้ขยายแทร็กวิดีโอ

เมื่อต้องการเปลี่ยนระยะเวลาของช่วงการเปลี่ยนภาพเริ่มต้น
1.   คลิก เครื่องมือ คลิก ตัวเลือก แล้วคลิกแท็บ ขั้นสูง
2.   ระบุเวลา (เป็นวินาที) ที่คุณต้องการให้เล่นช่วงการเปลี่ยนภาพเป็นค่าเริ่มต้นหลังจากเพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพไว้ที่กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา

เมื่อต้องการเอาช่วงการเปลี่ยนภาพออก
1.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•   บนกระดานเรื่องราว ให้คลิกเซลล์ช่วงการเปลี่ยนภาพที่มีช่วงการเปลี่ยนภาพที่ต้องการเอาออก
•   บนเส้นเวลา ให้คลิกช่วงการเปลี่ยนภาพบนแทร็กช่วงการเปลี่ยนภาพที่ต้องการเอาออก
2.   คลิก แก้ไข แล้วคลิก เอาออก

ลักษณะพิเศษ
ลักษณะพิเศษช่วยให้คุณเพิ่มลักษณะพิเศษในภาพยนตร์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีวิดีโอที่นำเข้ามาและต้องการให้มีลักษณะและรู้สึกคลาสสิคเหมือนภาพยนตร์เก่า คุณสามารถเพิ่มลักษณะพิเศษฟิล์มเก่าลงในคลิปวิดีโอ รูปภาพหรือชื่อเรื่องเพื่อให้วิดีโอของคลิปนั้นดูเหมือนภาพยนตร์เก่า
รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนกระดานเรื่องราวพร้อมด้วยลักษณะพิเศษ
 

ลักษณะพิเศษบนกระดานเรื่องราว
รูปภาพต่อไปนี้แสดงโครงการบนเส้นเวลาพร้อมด้วยลักษณะพิเศษ
 

ลักษณะพิเศษบนเส้นเวลา

เมื่อต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษ
1.   บนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา ให้เลือกคลิปวิดีโอ รูปภาพ หรือชื่อเรื่องที่ต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษ
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ลักษณะพิเศษ
3.   ในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' ให้คลิกลักษณะพิเศษที่คุณต้องการเพิ่ม คุณสามารถคลิก เล่น ใต้หน้าจอแสดงตัวอย่างเพื่อดูตัวอย่างของลักษณะพิเศษ
4.   คลิก คลิป แล้วคลิก เพิ่มไว้ที่เส้นเวลา หรือ เพิ่มไว้ที่กระดานเรื่องราว
หมายเหตุ
• คุณยังสามารถเพิ่มลักษณะพิเศษโดยการลากลักษณะพิเศษจากบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' แล้ววางลงในรูปภาพหรือคลิปวิดีโอบนแทร็กวิดีโอของเส้นเวลา ลากไปยังเซลล์ลักษณะพิเศษของคลิปวิดีโอหรือรูปภาพบนกระดานเรื่องราว
• มุมมองรูปขนาดย่อในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา' จะแสดงตัวอย่างของลักษณะพิเศษแบบต่างๆ
• หากคุณปรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณจาก Windows XP เป็น Windows Vista ช่วงการเปลี่ยนภาพและลักษณะพิเศษใดๆ ที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้จะไม่สามารถใช้งานได้ใน Windows Movie Maker รุ่นปัจจุบัน

เมื่อต้องการเปลี่ยนลักษณะพิเศษ
1.   บนแทร็กวิดีโอของเส้นเวลาหรือบนกระดานเรื่องราว ให้คลิกที่คลิปวิดีโอ รูปภาพ หรือชื่อเรื่องที่ใช้ลักษณะพิเศษที่ต้องการเปลี่ยน
2.   คลิก คลิป ชี้ไปที่ วิดีโอ แล้วคลิก ลักษณะพิเศษ
3.   เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•   เมื่อต้องการเอาลักษณะพิเศษออก ในพื้นที่ ลักษณะพิเศษที่แสดง ให้คลิกลักษณะพิเศษ แล้วคลิก เอาออก ทำซ้ำตามความต้องการ
•   เมื่อต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษ ในพื้นที่ ลักษณะพิเศษที่สามารถใช้ได้ ให้คลิกลักษณะพิเศษที่ต้องการเพิ่ม แล้วคลิก เพิ่ม ทำซ้ำตามความต้องการ

เคล็ดลับ
• ถ้าคุณเพิ่มลักษณะพิเศษหลายรายการ คุณสามารถเปลี่ยนลำดับการแสดงลักษณะพิเศษได้ด้วยปุ่ม ย้ายขึ้น หรือ ย้ายลง
• หากต้องการเพิ่มลักษณะพิเศษอย่างรวดเร็ว คุณสามารถลากลักษณะพิเศษไปยังคลิปวิดีโอ รูปภาพ หรือชื่อเรื่องบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา
• ถ้าคุณเพิ่มลักษณะพิเศษเดียวกันลงในคลิปมากกว่าหนึ่งครั้ง ลักษณะพิเศษนั้นจะถูกใช้หลายครั้งตามที่คุณเพิ่ม ตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่มลักษณะพิเศษ 'เร่งความเร็วเป็นสองเท่า' สองครั้งในคลิปวิดีโอเดียวกัน คลิปนั้นจะเล่นด้วยความเร็วสี่เท่าของแฟ้มต้นฉบับ
• คุณสามารถเอาลักษณะพิเศษออกได้ โดยการเลือกเซลล์ลักษณะพิเศษในกระดานเรื่องราวที่มีลักษณะพิเศษที่ต้องการเอาออก แล้วกดแป้น DELETE
 
ดูเพิ่มเติม
• การแก้ไขภาพยนตร์
• การเพิ่มชื่อเรื่องภาพยนตร์และรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
• การทำงานกับคลิป
• การแสดงตัวอย่างวิดีโอ


การสร้างภาพยนตร์อย่างรวดเร็วใน Windows Movie Maker (ภาพยนตร์อัตโนมัติ)

'ภาพยนตร์อัตโนมัติ' จะช่วยให้คุณสร้างภาพยนตร์อย่างรวดเร็วโดยใช้วิดีโอ รูปภาพ และเสียงที่คุณเลือกโดยการรวบรวมทั้งหมดนี้ตามลักษณะการแก้ไขอัตโนมัติที่คุณเลือก
1.   เมื่อต้องการกำหนดเนื้อหาของภาพยนตร์อัตโนมัติของคุณ คลิกคอลเลกชันในบานหน้าต่าง 'คอลเลกชัน' หรือกดแป้น CTRL ค้าง แล้วคลิกคลิปหลายๆ คลิปในบานหน้าต่าง 'เนื้อหา'
     คอลเลกชันหรือกลุ่มแฟ้มจะต้องมีวิดีโอ เสียง รูปภาพ หรือสองรายการรวมกัน โดยมีระยะเวลารวมกันแล้วอย่างน้อย 30 วินาที Windows Movie Maker จะกำหนดให้แต่ละรูปภาพใช้เวลา 4 วินาที
2.   คลิก เครื่องมือ แล้วคลิก ภาพยนตร์อัตโนมัติ
3.   ในหน้า เลือกลักษณะการแก้ไขภาพยนตร์อัตโนมัติ เลือกลักษณะการแก้ไขภาพยนตร์อัตโนมัติ
4.   ภายใต้ ตัวเลือกอื่นๆ ให้คลิก ใส่ชื่อเรื่องสำหรับภาพยนตร์
5.   ในหน้า พิมพ์ข้อความสำหรับชื่อเรื่อง ให้พิมพ์ข้อความที่คุณต้องการให้ปรากฏเป็นชื่อเรื่อง
6.   ถ้าคุณต้องการเพิ่มเพลงลงในภาพยนตร์อัตโนมัติ ในส่วน ตัวเลือกอื่นๆ ให้คลิก เลือกเสียงหรือเพลงประกอบ
7.   ใน แฟ้มเสียงและเพลง ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
•   ขยายรายการ แล้วคลิกแฟ้มเสียงหรือเพลง
•   คลิก เรียกดู เพื่อนำเข้าแฟ้มเสียงหรือเพลงใน Windows Movie Maker เพื่อใช้ภาพยนตร์ของคุณ
8.   หากต้องการปรับการผสมแทร็กเสียง/เพลงและเสียงประกอบ ให้ทำดังต่อไปนี้
•   หากต้องการเพิ่มระดับเสียงของคลิปเสียงบนแทร็กเสียง/เพลง ให้ลากแถบเลื่อนไปยัง เสียง/เพลง
•   หากต้องการเพิ่มระดับเสียงของแทร็กเสียงที่เป็นส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอ ให้ลากแถบเลื่อนไปยัง เสียงจากวิดีโอ
9.   คลิก การสร้างภาพยนตรอัตโนมัติ แล้วรอให้คลิปในภาพยนตร์ของคุณเพิ่มลงไปในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลา

ระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างและเพิ่มภาพยนตร์อัตโนมัติลงในกระดานเรื่องราว/เส้นเวลาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและจำนวนของเสียง วิดีโอและรูปภาพที่อยู่ในคอลเลกชันหรือกลุ่มของแฟ้มที่คุณเลือกไว้
หลังจากที่สร้างภาพยนตร์อัตโนมัติ คุณสามารถเผยแพร่ภาพยนตร์อัตโนมัติได้ทันที หรือคุณสามารถแก้ไขเนื้อหาบนกระดานเรื่องราว/เส้นเวลาได้เพิ่มเติม เหมือนเช่นเมื่อคุณสร้างโครงการของตนเองใน Windows Movie Maker


  เมื่อต้องการแสดงเส้นเวลาที่มีรายละเอียดมากขึ้นเพื่อที่แต่ละคลิปจะปรากฏชัดเจนมากขึ้น ให้คลิกปุ่ม ขยายเส้นเวลา อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ปุ่มนี้จะปรากฏบนแถบเครื่องมือเส้นเวลาเป็นแว่นขยายที่มีเครื่องหมายบวก
 

ดูเพิ่มเติม
• การนำเข้าแฟ้มวิดีโอ รูปภาพ และเสียง
• การแก้ไขวิดีโอ เสียง และรูปภาพ
• การเผยแพร่ภาพยนตร์

 

สร้างโดย: 
วรรณพร เจริญแสนสวย

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 415 คน กำลังออนไลน์