ระบบแมนเนอร์
ระบอบแมนเนอร์
แมนเนอร์ (Manor) เป็นระบบการปกครองในฟิวดัลเจ้าหน้าที่ในเขตปกครอง “คฤหาสน์” เรียก “Lord of the Manor” ขุนนางมีสิทธิ์ครอบครองแมนเนอร์เป็นร้อยๆ ได้ ในแมนเนอร์มีการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก แม้แต่แมนเนอร์ที่เล็กที่สุดมีเนื้อที่ประมาณ 300 –
ชนชั้นในแมนเนอร์สามารถแบ่งได้ดังนี้
1.ชนชั้นขุนนางหรือเจ้าของแมนเนอร์ ซึ่งอาจรวมพระ หรือกษัตริย์ สำหรับแมนเนอร์ใหญ่ๆ จะแต่งตั้งผู้ดูแลกิจการไปทำการดูแล ถ้ามีแมนเนอร์ในครอบครองหลายแห่งก็จะแต่งตั้งผู้แทนของตนไปดูแล ในแมนเนอร์จะมีที่ดินส่วนหนึ่งเรียกว่า ดีมีนส์ (Demesne) เป็นไร่ที่ดินภายใน ซึ่งขุนนางเจ้าของที่ดินของแมนเนอร์เป็นผู้ครอบครอง
2.ชนชั้นไพร่ เป็นชนชั้นที่ทำงานให้แก่ชนชั้นขุนนาง ประกอบด้วย
ก.ชนชั้นวิเลนส์ (Villein) เป็นพลเมืองส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแมนเนอร์ และเป็นชนชั้นที่มีความสำคัญต่อแมนเนอร์มากกว่าชนชั้นอื่น เพราะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการเพาะปลูก ส่วนใหญ่ของแมนเนอร์ ซึ่งผลผลิตที่ได้ใช้เป็นอาหารสำหรับชนชั้นต่างๆ ในแมนเนอร์ ในทางกฎหมายชนชั้นวิเลนส์มีฐานะด้อยกว่าเสรีชนแต่สูงกว่าทาส ไม่ได้รับการคุ้มครองจากขุนนางนอกจากกรณีทำร้ายร่างกาย
ข. ชนชั้นคอททาร์ หรือบางทีเรียก บอร์ดาร์ (Bordars) หรือคอทเทเจอร์ส (Cottagers) ชนชั้นนี้มีจำนวนคนรองจากชนชั้นวิเลนส์และมีฐานะด้อยกว่าทั้งในทางสังคมและทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมีที่ดินในครอบครองน้อยกว่า จึงต้องพึ่งพาชนชั้นอื่นในการดำรงชีพ โดยเฉพาะการรับใช้ตอบแทนขุนนาง และทำหน้าที่เป็นแรงงานสำรองไว้ในเวลาจำเป็น ดังนั้นจึงมักใช้เวลาว่างไปรับจ้างขุนนางเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวและดำรงชีพของตน
ค. ชนชั้นทาส (Serf) เป็นพลเมืองส่วนน้อยที่อาศัยอยู่ในแมนเนอร์ มีพันธะที่จะต้องจ่ายให้เจ้านายของตนในรูปแรงงานและผลผลิต หรือเงินตรา เช่น Serf ต้องเสียภาษีรัชชูปการ ภาษีผลผลิตที่ผลิตได้ ต้องจ่ายค่าบริการให้กับเครื่องมือของ Lord จัดหาไว้ให้ใช้ร่วมกันในการทำการเกษตร เช่น โรงสี เครื่องคั้นน้ำองุ่น เตาต้มกลั่น ให้การต้อนรับเลี้ยงดูเจ้านายและบริวารที่ติดตามเข้ามาตรวจราชการในท้องที่ของตนปีละไม่เกินสามครั้ง ยอมให้เจ้านายเกณฑ์แรงงานไปสร้างเครื่องสาธารณูปโภค ขุดคู สร้างสะพานและเขื่อน เป็นต้น ต่อมาจำนวนทาสได้ ลดน้อยลงไปเนื่องจากได้รับอิสรภาพมากขึ้น ได้รับที่ดินทำการเพาะปลูกและเปลี่ยนสภาพมาเป็นชนชั้นคอททาร์ในเวลาต่อมา
3.ชนชั้นเสรีชน เป็นชนชั้นอิสระไม่ขึ้นอยู่กับขุนนาง เป็นเจ้าของที่ดินโดยเสรี ไม่ต้องมีภาระข้อผูกมัดกับชนชั้นอื่นๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเสรีชนกับชนชั้นขุนนาง หรือเจ้าของแมนเนอร์ มักอยู่ในรูปของสัญญา เช่น เสรีชนจะสละแรงงานช่วยเหลือขุนนางในการเพาะปลูกเป็นครั้งคราว แล้วขุนนางจะให้การคุ้มครองป้องกันความปลอดภัยในชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินของ เสรีชนเป็นการตอบแทน เสรีชนมีสิทธิที่จะโอนที่ดินของตนไปรับการคุ้มครองจากขุนนางแมนเนอร์คนหนึ่งคนใดโดยไม่ต้องผูกมัดกับขุนนางเดิม
ตรวจแล้ว