หนอนตายหยาก
ต้นหนอนตายหยาก ชื่อวิทยาศาสตร์ Stemona tuberose Lour
ราก เป็นรากที่มีลักษณะอวบใหญ่กว่าเถา มีหน้าที่เก็บสะสมอาหาร
เมล็ด ภายในผลมีหลายเมล็ด เมื่อแก่มีสีดำ ขนาดเล็ก
หนอนตายหยาก เป็นไม้ล้มลุกเจริญในฤดูฝน สิ้นฤดูฝนก็เหี่ยวแห้งไป ถึงฤดูฝนก็งอกงามขึ้นมาอีก เพราะมีหัวอยู่ใต้ดิน ชอบขึ้นตามป่า มีทั่วไปในประเทศไทย
1. หนอนตายหยาก พืชในวงศ์ Stemonaeae เป็นพืชที่นำส่วนของรากมาใช้ประโยชน์ พบได้ในป่าทั่ว ๆ ไปของประเทศจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย ลาว ไทย ฯลฯ สำหรับประเทศไทยพบหนอนตายหยากได้ทั่วไปทุกภาค และมีชื่อเรียกต่างกันตามท้องถิ่น เช่น พญาร้อยหัว กระเพียดหนู ต้นสามสิบกลีบ โป่งมดง่าม สลอดเชียงคำ ฯลฯ นอกจากนั้นหนอนตายหยากในประเทศไทยยังมีความหลากหลายในชนิด (Species) เช่น Stemona tuberose Lour, Stemona collinsae Craib, Stemona keri, Stemona berkill, Stemona stercochin ฯลฯ
สรรพคุณ
การขยายพันธุ์
2. ขอบชะนางแดงและขอบชะนางขาวซึ่งมักเลือกว่า หญ้าหนอนตาย หนอนตายหยากหนอนแดง หนอนขาว เป็นวงศ์ Urticaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pouzolzia pentandra Benn.
เป็นไม้ล้มลุกคล้ายหญ้าลำต้นขนาดเท่าก้านไม้ขีดใบเป็นใบเดี่ยว ทั้งนี้ขอบชะนางแดงมีใบสีม่วงอมแดงส่วนขอบชะนางขาวมีใบสีเขียวอ่อนพืชทั้งสองชนิดมีต้นเล็กน้อยบนต้นและแผ่นใบดอกมีขนาดเล็กออกเป็นกระจุกระหว่างซอกใบ
สรรพคุณ
การขยายพันธุ์
3. หนอนตายหยากใบผีเสื้อเป็นวงศ์ Leguminosae-Papilionoideae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Christia vespertilionisbakh. F. ใบมีลักษณะคลายใบชงโคหรือคล้ายปีกผีเสื้อท้องถิ่นนำมาหั่นเป็นชิ้นนำมาใส่ในไหปลาร้าทิ้งไว้สักพักทำให้หนอนตาย
การขยายพันธุ์
ประโยชน์ของหัวหนอนตายหยาก
หัวหนอนตายหยาก
1. หัวกลอย 2. หัวหนอนตายหยาก 3. ใบขี่เหล็ก 4. สะเดา (เมล็ด 3 กก. และใบ 2 กก.) 5. ตะไคร้หอม (ทั้งต้น) 6. เถาหางไหลแดง 7. กากน้ำตาล 8. หัวเชื้ออีเอ็ม/พด.1 |
5 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม 10 กิโกลรัม 2 กิโลกรัม |
วิธีทำ
สับส่วนประกอบท้ง 6 ชนิด ให้ละเอียดเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือบดให้ละเอียด นำไปบรรจุในถังพลาสติก ซึ่งมีฝาปิดมิดชิด ใส่กากน้ำตาล แลอีเอ็มคลุกเคล้าให้เข้ากันปิดฝาให้สนิท ควรบรรจุให้เกือบเต็ม คือ มีช่องว่างเหลือประมาณ 10% ของถัง ตั้งไว้ในที่ร่มประมาณ 7 วัน สามารถนำไปใช้ได้
วิธีการใช้
กรองน้ำที่ได้จากการหมัก 30 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 7 วัน การฉีดพ่นควรปฏิบัติในช่วงแดดอ่อนหรือในช่วงเช้าจะประสิทธิภาพสูง ส่วนกากที่เหลือจากการคั้นน้ำไปฝังกลบใต้ต้นส้มเพื่อเป็นปุ๋ยและสามารถขับไล่แมลงในดินได้
ข้อควรระวัง
น้ำสกัดชีวภาพหรือปุ๋ยหมักน้ำทุกชนิดที่ได้จากการหมักนั้นจะมีความเข้มข้นสูง การนำไปใช้ทุกครั้งต้องผสมน้ำให้เจือจางก่อน หากนำน้ำสกัดชีวภาพแบบเข้มข้นไปใช้โดยไม่ทำให้เจือจางก่อน อาจทำให้พืชผัก ผลไม้เสียหายได้ เนื่องจากน้ำสกัดชีวภาพเหล่านี้มีความเค็มสูง มีความเป็นกรดเป็นด่างต่ำเป็นอันตรายต่อพืช
1. มูลค้างคาว 2. หัวหนอนตายหยาก 3. ใบขี่เหล็ก 4. สะเดา (เมล็ด 3 กก. และใบ 2 กก.) 5. ตะไคร้หอม (ทั้งต้น) 6. เถาหางไหลแดง |
1 ส่วน 3 ส่วน 1 ส่วน 30 ซีซี/ 30 กรัม 30 ซีซี 10 ลิตร |
วิธีทำ
นำแกลบดำ มูลค้างคาว รำละเอียด ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำกากน้ำตาลอีเอ็ม หรือ พด.1 และน้ำผสมให้เข้ากันแล้วนำมาราด คลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยให้มีความชื้นประมาณ 50% ซึ่งวิธีตรวจสอบความชื้นว่าได้ 50% หรือไม่ให้ใช้มือกำส่วนผสมให้แน่นเป็นก้อนแล้วแบมือออก เมื่อใช้นิ้วสัมผัสส่วนผสมที่เป็นก้อนแล้วแตกออก แสดงว่ามีความชื้นประมาณ 50% แต่ถ้ากำแน่นแล้วพอแบมือออกส่วนผสมแตกไม่เป็นก้อนแสดงว่าความชื้นน้อยไป ให้ผสมกากน้ำตาล อีเอ็มและน้ำ รดหรือราดเพิ่มเติม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ในกรณีที่กำส่วนผสมให้แน่น พอแบมือออกแล้วใช้นิ้วสัมผัสส่วนผสมนั้นไม่แตกกระจาย แสดงว่าเปียกเกินไป ให้ใช้แกลบดำผสมเพิ่มขึ้นอีกจนกว่าจะได้ความชื้น 50% และเมื่อได้ความชื้นตามความต้องการแล้วนำไปกองกับพื้นปูน หรือบนพลาสติกให้มีความสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร แล้วใช้กระสอบป่านคลุมให้มิดชิดหมักไว้ 3 วัน สามารถนำไปใช้ได้ โดยมีวิธีการตรวจสอบ ดังนี้
1. ตรวจสอบอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมัก โดยใช้มือแหย่ลงไปในกอง ถ้าอุณหภูมิยังร้อนกว่าอุณหภูมิปกติรอบตัวเรา แสดงว่ายังใช้ไม่ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักเท่ากับอุณหภูมิปกติรอบตัวเราแสดงว่าใช้ได้
2. ดมกลิ่นปุ๋ยที่เราหมักไว้ จะมีกลิ่นหอมอมเปรี้ยวแสดงว่าใช้ได้ ต่ถ้ามีกลิ่นเหม็น ให้ใช้อีเอ็ม กากน้ำตาล น้ำ ผสมกันแล้วราดตามขั้นตอนแรก และหมักไว้อีกจนกว่าจะใช้ได้วิธีการใช้
1. ใช้โรยรอบทรงพุ่มสำหรับส้มโอ โดยใช้ดูอายุไม้ผลเป็นหลัก เช้น ส้มโอมีอายุ 1 ปี ใช้ 1 กิโลกรัม/ต้น
2. ใช้ผสมดินสำหรับรองก้นหลุมในการปลูกใหม่ โดยผสมปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพในอัตราส่วน 1 : 4 ของดินที่จะใส่ลงไปในหลุม
3. ใช้สำหรับโรยเพื่อหมักฟางข้าวในนา โดยโรยบนฟางข้าว ไร่ละ 100 กิโลกรัม และใช้อีเอ็มฉีดพ่นให้เปียกชุ่มแล้วหมักไว้ 15 วัน
ขนานที่ 1.6 หนอนตายหยาก รากยาหนอน อย่างละเท่า ๆ กัน และบอระเพ็ด |
|
ขนานที่ 1.7 หนอนตายหยาก นำหัวหนอนตายหยากมา 1 กำมือ ตำให้ละเอียด |
หนอนตายหยาก มี 2 ชนิด หนอนตายหยากตัวผู้(หัวเล็ก และหนอนตายหยากตัวเมีย(หัวใหญ่) สารออกฤทธิ์อยู่ที่แกนกลางของหัว หนอนตายหยากตัวเมียมีสารมากกว่าตัวผู้ … ใช้หนอนตายหยากบดป่นหรือสับเล็ก 1 กก. แช่น้ำ 20 ลิตร นาน 48 ชม. ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อ 50-100 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ศัตรูพืช เชื้อราสาเหตุโรคเน่าคอดิน หนอนกระทู้ หนอนต่างๆ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ แมลงศัตรูพืชในเงาะ/พริกไทย/ทุเรียน … โขลกละเอียดผสมน้ำปิดแผลสัตว์เลี้ยงป้องกันแมลงตอมวางไข่
::วัตถุดิบ::
1. รากหนอนตายหยากแห้ง 200กรัม
2. น้ำสะอาด 1 ลิตร
::วิธีทำ::
สับให้เป็นชิ้นเล็กๆหมักในน้ำ 1 ลิตรค้างคืนแล้วกรองเอากากทิ้ง พ่นฉีดในแปลงผักสามารถป้องกันหนอนหลอดหอมได้ดี