• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:5971194f4fe6ceca8fd75608cb9fa4ed' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p ALIGN=\"center\">\n<span STYLE=\"font-size: large\"><strong><span STYLE=\"font-size: medium; color: #800000\"><span STYLE=\"font-size: x-large\">อารยธรรมกรีกโบราณ</span></span></strong></span><strong> </strong>\n</p>\n<p ALIGN=\"center\">\n<strong><a HREF=\"http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m3-1/no29-33-39/picture/nakhonpratom.jpg&amp;imgrefurl=http://mpcha.wikispaces.com/3-2task2g3&amp;usg=__6DoRmyU9pdBhycURBPCH9as4yuo=&amp;h=327&amp;w=456&amp;sz=63&amp;hl=th&amp;start=4&amp;um=1&amp;tbnid=B7SYqdbJmKvQfM:&amp;tbnh=92&amp;tbnw=128&amp;prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2581%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DN\"><img WIDTH=\"128\" SRC=\"http://tbn0.google.com/images?q=tbn:B7SYqdbJmKvQfM:http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m3-1/no29-33-39/picture/nakhonpratom.jpg\" HEIGHT=\"92\" STYLE=\"width: 217px; height: 103px; border-top-color: #000000; border-left-color: #000000; border-right-color: #000000; border-bottom-color: #000000; border-top-width: 1px; border-left-width: 1px; border-right-width: 1px; border-bottom-width: 1px; border-top-style: solid; border-left-style: solid; border-right-style: solid; border-bottom-style: solid\" /></a></strong>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: medium\"><span STYLE=\"font-size: small\"><strong>1. อารยธรรมมิโนส (Minos: 1700-1400 ก่อนค.ศ.)</strong></span></span>\n</p>\n<p>\n      <span STYLE=\"font-size: x-small\"><span STYLE=\"font-size: small\">มิโนส เป็นกษัตริย์ของเกาะครีต เป็นลูกของพระเจ้าเซอุส (Zeus) และพระนางยุโรป (Europe) มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์เป็นรูปวัว ตามตำนานเล่าว่าพระองค์เป็นกษัตริย์ที่รักศิลปะ ในรัชสมัยของพระองค์มีศิลปินหลายคนที่สำคัญ คือ เดดาล (Dedale) ผู้แต่งเรื่อง &quot;ทางปริศนา&quot; (Labyrinthe) และเรื่อง &quot;วัวสัมริด&quot; อักษรที่ใช้จากที่พบในแผ่นดินเหนียว พบว่าเป็นตัวอักษรแบบที่ เรียกว่า lineaire A ประกอบด้วยอักษรประมาณ 90 ตัว ไม่ทราบที่มาเช่นเดียวกับตราดินเหนียวทรงกลมมีรูปและอักษรสลักอยู่ </span></span>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: x-small\"><span STYLE=\"font-size: small\">      อารยธรรมมิโนส รุ่งเรืองที่สุดที่เมืองคนอสโซส (Knossos) ผู้ครองเมืองดำรงฐานะเป็นพระ-กษัตริย์ มีการสร้าง พระราชวังแบบใหม่ ขนาดใหญ่และซับซ้อนคล้ายทางปริศนา ที่คนอสโซส ไฟโตส และอักเฮียเทรียดามีระบบบริหารทางการเมืองและเศรษฐกิจ เป็นแบบรวมอำนาจอยู่ที่ส่วนกลางดังเช่นในอียิปต์ ฐานะของสตรีสำคัญมากในสังคม ประมาณ 1600 ปีก่อนค.ศ. เกิดแผ่นดินไหว ทำลายพระราชวังที่คนอสโซสลงถึง 2 ครั้ง เเละเมื่อ 1500 ปีก่อนค.ศ. พวกเอเชียนมาจากฝั่งทวีปเข้ามาตั้งรกรากบนเกาะครีต (เกิดราชวงศ์เอเจียน) นำตัวอักษร lineaire B มาใช้ด้วย (คืออักษรกรีกในปัจจุบัน)</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: x-small\">  </span>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: medium\"><span STYLE=\"font-size: small\"><strong>2. อารยธรรมไมเซเนียน (Micaenean : 1400-1200 ปีก่อนค.ศ.)</strong></span></span>\n</p>\n<p>\n     <span STYLE=\"font-size: x-small\"><span STYLE=\"font-size: small\"> เมื่อตอนที่พวกเอเชียนเข้ามาอยู่ในกรีกราวประมาณ 2000 ปีก่อนค.ศ. นั้น พวกเขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับทะเลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ได้เรียนรู้ในภายหลังเมื่อ สมัยที่เข้าไปตั้งราชวงศ์อยู่ที่ครีตแล้ว และก็ได้มีเส้นทางเดินเรือเปิดความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์กับไมซีเนีย (Mycenae) บนเกาะเปโลโปนิซุส (Peloponnesus) เมื่อคนอสโซสถูกทำลายลงราว 1400 ปีก่อนค.ศ. ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของอารยธรรมมิโนส งานศิลปะ เสื่อมลงทีละน้อย ชาวครีตอพยพไปอยู่เกาะไซปรัสและทางเอเชียตะวันออก บางพวกไปอยู่อียิปต์ เมื่อพวกเอเชียนเข้ามาแทนที่ทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากบนเกาะครีตเพราะเอเชียนซึ่งมีเชื้อสายนักรบมักชอบอะไรที่แข็งแรงเพื่อให้เป็นเครื่องหมายของความเป็นใหญ่ จึงสร้างป้อมปราการใหม่ให้ดูใหญ่โตน่าเกรงขาม ผนังห้องมีภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพ ผู้หญิงแต่งตัวด้วยเครื่องประดับมากมาย ภาพการล่าสัตว์และภาพการออกรบ เหล่านี้เข้ามาแทนที่ภาพทิวทัศน์ที่เน้นดอกไม้ ความอ่อนโยนในศิลปะแบบครีตก็หายไป ความแข็งของลายเข้ามาแทนที่ลวดลายบนแจกัน จะนิยมลายเรขาคณิต เกิดลายสัตว์ 4 เท้า นก รูปนักรบไว้เครา แต่เส้นลายก็ยังแข็งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยนี้ (1200-1100 ก่อนค.ศ.) ส่วนศิลปะในการสลักหินอ่อน       การทำเครื่องเงินเครื่องทองกลับทำอย่างประณีตบรรจงยังคงเป็นงานที่ใช้เน้นเงินเน้นทองลงบนเหล็กตามวิธีของครีตที่มีมา อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วศิลปะไมเซเนียนก็เป็นศิลปะที่แพร่หลายอยู่ทั่วไป ค่อนข้างเป็นอุตสาหกรรมด้วยซ้ำ โรงผลิตงานศิลปะมีอยู่หลายแห่งในเมืองต่างๆ และรอบพระราชวัง เส้นทางคมนาคมมีทั่วกรีก การติดต่อทางทะเลมีมากขึ้น มีการผลิตและ ส่งแบบจำนวนมาก เพราะมีลูกค้าต้องการมาก คุณภาพทางศิลปะจึงลดลง อีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นลักษณะของนักรบ และการปกครองแบบเพศชายเป็นผู้นำของอารยธรรมพวกเอเชียน คือ ผู้หญิงจะไม่ออกจากฮาเร็มเลย เทพเจ้าเป็นเพศชายและมักเป็นนักเดินเรือ เจ้าแม่ลดความสำคัญลงไป เรื่องเล่าเกี่ยวกับวีรบุรุษที่ชนะสงครามตามที่ต่างๆ ขณะเดียวกับที่ด้านการศาสนาดั้งเดิมของเกาะครีตยังคงทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นกันในสมัยต่อมา ไม่ว่าจะเป็นพิธีทางศาสนาที่เกี่ยวกับสตรี และเรื่องเร้นลับของชาวครีต แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์ของชาวครีต สมัยอารยธรรมมิโนส ได้อันตรธานไปและการเขียนหนังสือก็ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ชนะได้ครองกรีกและเกาะใกล้เคียงแล้ว พวกเอเชียนที่อยู่ในถิ่นกันดารของเฮลลาด ก็เริ่มออกแสวงหาถิ่นทำกินที่ดีกว่าตามริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พวกนี้ไม่ได้ทำการค้าขายอย่างเดียวเหมือนพวกครีตพวกเขาพยายามตั้งหลักแหล่งทำการค้าและมีอำนาจทางการเมืองด้วย โดยเฉพาะมีอำนาจเหนือเกาะต่างๆ และมีอำนาจในเอเชีย พวกเอเชียนเริ่มด้วยการครองเกาะโรด เข้าไปสร้างเมือง ต่อไปเป็นเกาะไซปรัส ซึ่งเคยถูกพวกครีตครองอยู่บางส่วนแล้ว ที่นี่พวกเอเชียนนำภาษาของตนเข้ามาผสมกับภาษาอียิปต์และภาษาในซีเรีย มีการแลกเปลี่ยนทางการค้า มีผู้พบแจกันไมเซเนียนถึงนูเบียและคานาน ตลอดชายฝั่งซีเรียซึ่งเมื่อก่อนก็ได้รับอารยธรรมครีตอยู่แล้ว ตั้งแต่นั้นมา ศูนย์กลางการค้าขายเกิดขึ้นเต็มไปหมด เมืองอูการ์ทกลายเป็นอาณานิคมไมเซเนียน แต่ที่พวกเอเชียนชอบมาก คือ ที่ริมฝั่งทะเลของอนาโตเลีย (ตุรกี) พวกเขามาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่ ทำตัวเป็นโจรสลัดในทะเลเอเจียน แต่เป็นมิตรดีกับพลเมืองในผืนแผ่นดิน โดยเฉพาะกับพวกฮิตไท จึงพบร่องรอยทางวัตถุ เช่น ตราประทับสฟิงซ์ ที่ฮักเฮียเทรียดา (Haghia Triada) แผ่นจารึกที่พบบอกเราว่า รัฐของพวกเอเชียนนั้นยิ่งใหญ่เท่ากับอียิปต์ และยังกล่าวว่ากษัตริย์ของพวกเขาชื่อ Attarassias มีอำนาจทางทะเลมาก มีเรืออยู่ในครอบครองถึงหนึ่งร้อยลำ เป็นที่น่าแปลกที่พวกไมเซเนียนไม่สนใจที่จะไปแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก ดังเช่นชาวครีตเคยทำมา แต่กลับมีร่องรอยทางวัตถุของไมเซเนียนอยู่ตามเกาะตะวันตก คือ ตราประทับแบบเอเจียนที่เกาะซาร์ดิเนีย ที่หมู่เกาะบาเลอาร์มีพิธีทางศาสนาที่เกี่ยวกับวัวกระทิง มีขวานสองคมและเขาสัตว์ที่ใช้บูชาสิ่งเหล่านี้อาจผ่านตัวกลาง เช่น พ่อค้าต่างๆ อย่างไรก็ตามก็แสดงถึงอิทธิพลเอเชียนในถิ่นนี้ และบอกให้เราทราบว่าพวกกรีก สมัย 1000 ปีก่อนค.ศ. ลืมเส้นทางเดินเรือและการค้าแถบนี้จนกระทั่งถึงประมาณ 630 ปีก่อนค.ศ.</span></span><span STYLE=\"font-size: medium\"> </span>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: medium\">  </span>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: medium\"><span STYLE=\"font-size: small\"><strong>3. อารยธรรมโฮเมอร์ (Homer: ประมาณ 900 ปีก่อนค.ศ.)</strong></span></span>\n</p>\n<p>\n     <span STYLE=\"font-size: small\"> </span><span STYLE=\"font-size: x-small\"><span STYLE=\"font-size: small\">พวกดอเรียนเข้ามารุกรานจนถึงดินแดนกรีกโบราณประมาณ 800 ปีก่อนค.ศ. เป็นสมัยที่เราไม่ค่อยมีหลักฐาน เกี่ยวกับกรีกเป็นเวลานานถึง 4 ศตวรรษ นอกจากบทประพันธ์ของโฮเมอร์ (Homer) ซึ่งมี 2 เล่ม คือเอเลียดและโอดิสซี พูดถึง เรื่องราวและบุคคลต่างๆในสมัยไมเซเนียนปะปนไปกับเรื่องราวของสงครามเมืองทรอย และอารยธรรมของไอโอเนียน และเอโอลิค สมัย 900 ปีก่อนค.ศ. ซึ่งนับเป็นหลักฐานทางประวัติศาตร์ที่สำคัญแต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง โดยทั่วๆไป เรายอมรับว่าอารยธรรมนี้ อยู่ประมาณ 900 ปีก่อนค.ศ. ภาษาที่เขียนในบทประพันธ์โฮเมอร์คล้ายภาษาเอโอเลียน มีศัพท์บางตัวมาจากภาษาไอโอเนียน </span></span>\n</p>\n<p>\n<span STYLE=\"font-size: x-small\"><span STYLE=\"font-size: small\">      ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และเป็นไปในลักษณะลึกซึ้งมีขึ้นเมื่อพวกดอเรียน นักรบผู้ชำนาญในการใช้ม้าและอาวุธเหล็ก เข้ามารุกรานพวกเอเชียน พวกดอเรียนมีศิลปะในการรบเหนือกว่าพวกเอเชียนทั้งๆ ที่ดั้งเดิมมาจากเชื้อสายเดียวกัน คือ ชาวอินโด-ยูโรเปี้ยน แต่พวกเอเชียนมาได้รับอารยธรรมเอเจียนก่อนหลายศตวรรษ เครื่องนุ่งห่มของพวกดอเรียนทอด้วยขนสัตว์ เรียกว่า ชไลนา หรือ เปโปล มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา จับจีบติดด้วยเข็มกลัด นับว่าแตกต่างจากเครื่องนุ่งห่มของพวกที่ได้รับ อารยธรรมเอเจียนที่มีเสื้อผ้าหรูหรา เน้นรูปทรงที่เอว แม้แต่ทางสถาปัตยกรรมตกแต่งอันสวยงามแบบเอเจียนที่มีอยู่ต่อจากนี้ไป ก็ไม่มีใครสนใจ วัดกับวังจะแยกจากกันไม่อยู่ในบริเวณเดียวกันเหมือนแต่ก่อน การสร้างวังก็ไม่พิถีพิถัน สร้างแบบง่ายๆ เป็นห้องโถง ธรรมดาและมีห้องติดต่อกันอีก 2-3 ห้อง ผังของห้องโถงเป็นลักษณะห้องยาวมีทางเดินเข้า ใช้เป็นห้องประดิษฐานเทพเจ้าต่างๆ ผังเมืองสร้างคล้ายตาหมากรุก มีถนน 2 สายตัดกันเป็นมุมฉาก ที่ตรงทางแยกเป็นศูนย์กลางของเมืองทั้งทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางศาสนา</span></span>\n</p>\n', created = 1726824281, expire = 1726910681, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:5971194f4fe6ceca8fd75608cb9fa4ed' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

อารยธรรมกรีก

อารยธรรมกรีกโบราณ

1. อารยธรรมมิโนส (Minos: 1700-1400 ก่อนค.ศ.)

     มิโนส เป็นกษัตริย์ของเกาะครีต เป็นลูกของพระเจ้าเซอุส (Zeus) และพระนางยุโรป (Europe) มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์เป็นรูปวัว ตามตำนานเล่าว่าพระองค์เป็นกษัตริย์ที่รักศิลปะ ในรัชสมัยของพระองค์มีศิลปินหลายคนที่สำคัญ คือ เดดาล (Dedale) ผู้แต่งเรื่อง "ทางปริศนา" (Labyrinthe) และเรื่อง "วัวสัมริด" อักษรที่ใช้จากที่พบในแผ่นดินเหนียว พบว่าเป็นตัวอักษรแบบที่ เรียกว่า lineaire A ประกอบด้วยอักษรประมาณ 90 ตัว ไม่ทราบที่มาเช่นเดียวกับตราดินเหนียวทรงกลมมีรูปและอักษรสลักอยู่

     อารยธรรมมิโนส รุ่งเรืองที่สุดที่เมืองคนอสโซส (Knossos) ผู้ครองเมืองดำรงฐานะเป็นพระ-กษัตริย์ มีการสร้าง พระราชวังแบบใหม่ ขนาดใหญ่และซับซ้อนคล้ายทางปริศนา ที่คนอสโซส ไฟโตส และอักเฮียเทรียดามีระบบบริหารทางการเมืองและเศรษฐกิจ เป็นแบบรวมอำนาจอยู่ที่ส่วนกลางดังเช่นในอียิปต์ ฐานะของสตรีสำคัญมากในสังคม ประมาณ 1600 ปีก่อนค.ศ. เกิดแผ่นดินไหว ทำลายพระราชวังที่คนอสโซสลงถึง 2 ครั้ง เเละเมื่อ 1500 ปีก่อนค.ศ. พวกเอเชียนมาจากฝั่งทวีปเข้ามาตั้งรกรากบนเกาะครีต (เกิดราชวงศ์เอเจียน) นำตัวอักษร lineaire B มาใช้ด้วย (คืออักษรกรีกในปัจจุบัน)

 

2. อารยธรรมไมเซเนียน (Micaenean : 1400-1200 ปีก่อนค.ศ.)

     เมื่อตอนที่พวกเอเชียนเข้ามาอยู่ในกรีกราวประมาณ 2000 ปีก่อนค.ศ. นั้น พวกเขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับทะเลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ได้เรียนรู้ในภายหลังเมื่อ สมัยที่เข้าไปตั้งราชวงศ์อยู่ที่ครีตแล้ว และก็ได้มีเส้นทางเดินเรือเปิดความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์กับไมซีเนีย (Mycenae) บนเกาะเปโลโปนิซุส (Peloponnesus) เมื่อคนอสโซสถูกทำลายลงราว 1400 ปีก่อนค.ศ. ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของอารยธรรมมิโนส งานศิลปะ เสื่อมลงทีละน้อย ชาวครีตอพยพไปอยู่เกาะไซปรัสและทางเอเชียตะวันออก บางพวกไปอยู่อียิปต์ เมื่อพวกเอเชียนเข้ามาแทนที่ทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากบนเกาะครีตเพราะเอเชียนซึ่งมีเชื้อสายนักรบมักชอบอะไรที่แข็งแรงเพื่อให้เป็นเครื่องหมายของความเป็นใหญ่ จึงสร้างป้อมปราการใหม่ให้ดูใหญ่โตน่าเกรงขาม ผนังห้องมีภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพ ผู้หญิงแต่งตัวด้วยเครื่องประดับมากมาย ภาพการล่าสัตว์และภาพการออกรบ เหล่านี้เข้ามาแทนที่ภาพทิวทัศน์ที่เน้นดอกไม้ ความอ่อนโยนในศิลปะแบบครีตก็หายไป ความแข็งของลายเข้ามาแทนที่ลวดลายบนแจกัน จะนิยมลายเรขาคณิต เกิดลายสัตว์ 4 เท้า นก รูปนักรบไว้เครา แต่เส้นลายก็ยังแข็งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยนี้ (1200-1100 ก่อนค.ศ.) ส่วนศิลปะในการสลักหินอ่อน       การทำเครื่องเงินเครื่องทองกลับทำอย่างประณีตบรรจงยังคงเป็นงานที่ใช้เน้นเงินเน้นทองลงบนเหล็กตามวิธีของครีตที่มีมา อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วศิลปะไมเซเนียนก็เป็นศิลปะที่แพร่หลายอยู่ทั่วไป ค่อนข้างเป็นอุตสาหกรรมด้วยซ้ำ โรงผลิตงานศิลปะมีอยู่หลายแห่งในเมืองต่างๆ และรอบพระราชวัง เส้นทางคมนาคมมีทั่วกรีก การติดต่อทางทะเลมีมากขึ้น มีการผลิตและ ส่งแบบจำนวนมาก เพราะมีลูกค้าต้องการมาก คุณภาพทางศิลปะจึงลดลง อีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นลักษณะของนักรบ และการปกครองแบบเพศชายเป็นผู้นำของอารยธรรมพวกเอเชียน คือ ผู้หญิงจะไม่ออกจากฮาเร็มเลย เทพเจ้าเป็นเพศชายและมักเป็นนักเดินเรือ เจ้าแม่ลดความสำคัญลงไป เรื่องเล่าเกี่ยวกับวีรบุรุษที่ชนะสงครามตามที่ต่างๆ ขณะเดียวกับที่ด้านการศาสนาดั้งเดิมของเกาะครีตยังคงทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นกันในสมัยต่อมา ไม่ว่าจะเป็นพิธีทางศาสนาที่เกี่ยวกับสตรี และเรื่องเร้นลับของชาวครีต แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์ของชาวครีต สมัยอารยธรรมมิโนส ได้อันตรธานไปและการเขียนหนังสือก็ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ชนะได้ครองกรีกและเกาะใกล้เคียงแล้ว พวกเอเชียนที่อยู่ในถิ่นกันดารของเฮลลาด ก็เริ่มออกแสวงหาถิ่นทำกินที่ดีกว่าตามริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พวกนี้ไม่ได้ทำการค้าขายอย่างเดียวเหมือนพวกครีตพวกเขาพยายามตั้งหลักแหล่งทำการค้าและมีอำนาจทางการเมืองด้วย โดยเฉพาะมีอำนาจเหนือเกาะต่างๆ และมีอำนาจในเอเชีย พวกเอเชียนเริ่มด้วยการครองเกาะโรด เข้าไปสร้างเมือง ต่อไปเป็นเกาะไซปรัส ซึ่งเคยถูกพวกครีตครองอยู่บางส่วนแล้ว ที่นี่พวกเอเชียนนำภาษาของตนเข้ามาผสมกับภาษาอียิปต์และภาษาในซีเรีย มีการแลกเปลี่ยนทางการค้า มีผู้พบแจกันไมเซเนียนถึงนูเบียและคานาน ตลอดชายฝั่งซีเรียซึ่งเมื่อก่อนก็ได้รับอารยธรรมครีตอยู่แล้ว ตั้งแต่นั้นมา ศูนย์กลางการค้าขายเกิดขึ้นเต็มไปหมด เมืองอูการ์ทกลายเป็นอาณานิคมไมเซเนียน แต่ที่พวกเอเชียนชอบมาก คือ ที่ริมฝั่งทะเลของอนาโตเลีย (ตุรกี) พวกเขามาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่ ทำตัวเป็นโจรสลัดในทะเลเอเจียน แต่เป็นมิตรดีกับพลเมืองในผืนแผ่นดิน โดยเฉพาะกับพวกฮิตไท จึงพบร่องรอยทางวัตถุ เช่น ตราประทับสฟิงซ์ ที่ฮักเฮียเทรียดา (Haghia Triada) แผ่นจารึกที่พบบอกเราว่า รัฐของพวกเอเชียนนั้นยิ่งใหญ่เท่ากับอียิปต์ และยังกล่าวว่ากษัตริย์ของพวกเขาชื่อ Attarassias มีอำนาจทางทะเลมาก มีเรืออยู่ในครอบครองถึงหนึ่งร้อยลำ เป็นที่น่าแปลกที่พวกไมเซเนียนไม่สนใจที่จะไปแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก ดังเช่นชาวครีตเคยทำมา แต่กลับมีร่องรอยทางวัตถุของไมเซเนียนอยู่ตามเกาะตะวันตก คือ ตราประทับแบบเอเจียนที่เกาะซาร์ดิเนีย ที่หมู่เกาะบาเลอาร์มีพิธีทางศาสนาที่เกี่ยวกับวัวกระทิง มีขวานสองคมและเขาสัตว์ที่ใช้บูชาสิ่งเหล่านี้อาจผ่านตัวกลาง เช่น พ่อค้าต่างๆ อย่างไรก็ตามก็แสดงถึงอิทธิพลเอเชียนในถิ่นนี้ และบอกให้เราทราบว่าพวกกรีก สมัย 1000 ปีก่อนค.ศ. ลืมเส้นทางเดินเรือและการค้าแถบนี้จนกระทั่งถึงประมาณ 630 ปีก่อนค.ศ.

 

3. อารยธรรมโฮเมอร์ (Homer: ประมาณ 900 ปีก่อนค.ศ.)

     พวกดอเรียนเข้ามารุกรานจนถึงดินแดนกรีกโบราณประมาณ 800 ปีก่อนค.ศ. เป็นสมัยที่เราไม่ค่อยมีหลักฐาน เกี่ยวกับกรีกเป็นเวลานานถึง 4 ศตวรรษ นอกจากบทประพันธ์ของโฮเมอร์ (Homer) ซึ่งมี 2 เล่ม คือเอเลียดและโอดิสซี พูดถึง เรื่องราวและบุคคลต่างๆในสมัยไมเซเนียนปะปนไปกับเรื่องราวของสงครามเมืองทรอย และอารยธรรมของไอโอเนียน และเอโอลิค สมัย 900 ปีก่อนค.ศ. ซึ่งนับเป็นหลักฐานทางประวัติศาตร์ที่สำคัญแต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง โดยทั่วๆไป เรายอมรับว่าอารยธรรมนี้ อยู่ประมาณ 900 ปีก่อนค.ศ. ภาษาที่เขียนในบทประพันธ์โฮเมอร์คล้ายภาษาเอโอเลียน มีศัพท์บางตัวมาจากภาษาไอโอเนียน

     ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และเป็นไปในลักษณะลึกซึ้งมีขึ้นเมื่อพวกดอเรียน นักรบผู้ชำนาญในการใช้ม้าและอาวุธเหล็ก เข้ามารุกรานพวกเอเชียน พวกดอเรียนมีศิลปะในการรบเหนือกว่าพวกเอเชียนทั้งๆ ที่ดั้งเดิมมาจากเชื้อสายเดียวกัน คือ ชาวอินโด-ยูโรเปี้ยน แต่พวกเอเชียนมาได้รับอารยธรรมเอเจียนก่อนหลายศตวรรษ เครื่องนุ่งห่มของพวกดอเรียนทอด้วยขนสัตว์ เรียกว่า ชไลนา หรือ เปโปล มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา จับจีบติดด้วยเข็มกลัด นับว่าแตกต่างจากเครื่องนุ่งห่มของพวกที่ได้รับ อารยธรรมเอเจียนที่มีเสื้อผ้าหรูหรา เน้นรูปทรงที่เอว แม้แต่ทางสถาปัตยกรรมตกแต่งอันสวยงามแบบเอเจียนที่มีอยู่ต่อจากนี้ไป ก็ไม่มีใครสนใจ วัดกับวังจะแยกจากกันไม่อยู่ในบริเวณเดียวกันเหมือนแต่ก่อน การสร้างวังก็ไม่พิถีพิถัน สร้างแบบง่ายๆ เป็นห้องโถง ธรรมดาและมีห้องติดต่อกันอีก 2-3 ห้อง ผังของห้องโถงเป็นลักษณะห้องยาวมีทางเดินเข้า ใช้เป็นห้องประดิษฐานเทพเจ้าต่างๆ ผังเมืองสร้างคล้ายตาหมากรุก มีถนน 2 สายตัดกันเป็นมุมฉาก ที่ตรงทางแยกเป็นศูนย์กลางของเมืองทั้งทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางศาสนา

สร้างโดย: 
น.ส.เบญจมาศ เกิดศิริ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์
รูปภาพของ silavacharee

ตรวจแล้ว

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 552 คน กำลังออนไลน์