เมื่อคอมพิวเตอร์ของหนูไม่สบาย....ทำไงดี?
@ห้องปฐมพยาบาล@
สาเหตุที่ทำให้เครื่องพีซีเกิดความเสียหาย
ความร้อน
ความร้อนที่เป็นสาเหตุทำให้คอมพิวเตอร์มีปัญหา ส่วนใหญ่เกิดจากความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์เองวิธีแก้ปัญหา คือ จะต้องรีบระบายความร้อนที่เกิดจากอุปกรณืต่างๆ ออกไปให้เร็วที่สุด
วิธีแก้ปัญหา
• พัดลมระบายความร้อนทุกตัวในระบบ ต้องอยู่ในสภาพดี 100 เปอร์เซนต์ อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดควรจะอยู่ระหว่าง 60-70 องศาฟาเรนไฮต์
• ใช้เพาเวอร์ซัพพลาย ในขนาดที่ถูกต้อง
• ใช้งานเครื่องในย่านอุณหภูมิที่ปลอดภัย อย่าตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงเป็นเวลานานๆ
ฝุ่นผง
เป็นที่ทราบกันดีว่าในอากาศมีฝุ่นผงกระจัดกระจายอยู่ในทุกๆ ที่ ฝุ่นผงที่เกาะติดอยู่บนแผงวงจรของคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เสมือนฉนวนป้องกันความร้อน ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบ ไม่สามารถระบายออกสู่สภาพแวดล้อมภายนอก นอกจากนี้อาจไปอุดตันช่องระบายอากาศของเพาเวอร์ซัพพลายหรือฮาร์ดดิสค์ หรืออาจเข้าไปอยู่ระหว่างแผ่นดิสค์กับหัวอ่าน ทำให้แผ่นดิสค์หรือหัวอ่านเกิดความเสียหายได้
วิธีแก้ไข
• ควรทำความสะอาดภายในเครื่องทุก 6 เดือน หรือทุกครั้งที่ถอดฝาครอบ
• ตัวถัง หรือ ชิ้นส่วนภายนอกอาจใช้สเปรย์ทำความสะอาด
• วงจรภายในให้ใช้ลมเป่าและใช้แปรงขนอ่อนๆ ปัดฝุ่นออก
• อย่าสูบบุหรี่ใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์
สนามแม่เหล็ก
แม่เหล็กสามารถทำให้ข้อมูลในแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสก็สูญหายได้อย่างถาวร แหล่งที่ให้กำเนิดสนามแม่เหล็กในสำนักงานมีอยู่มากมาหลายประเภท อาทิเช่น
• แม่เหล็กติดกระดาาบันทึกบนตู้เก็บแฟ้ม
• คลิปแขวนกระดาษแบบแม่เหล็ก
• ไขควงหัวแม่เหล็ก
• ลำโพง
• มอเตอร์ในพรินเตอร์
• UPS
วิธีแก้ไข
• ควรโยกย้ายอุปกรณ์ที่มีกำลังแม่เหล็กมากๆ ให้ห่างจากระบบคอมพิวเตอร์
สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้า
สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้ามีหลายลักษณะ อาทิเช่น
• แรงดันเกิน
• แรงดันตก
• ทรานเชียนต์
• ไฟกระเพื่อม
แรงดันเกิน
ในกรณีที่เครื่องของท่านได้รับแรงดันไฟฟ้าเกินจากปกติ เป็นเวลานานกว่า วินาที จะมีผลทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องเกิดความเสียหายได้
แรงดันตก
ในกรณีที่มีการใช้ไฟฟ้ากันมากเกินความสามารถในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า จะมีผลทำให้เกิดเหตุการณืไฟตกได้ ไฟตกอาจทำให้การทำงานของเพาเวอร์ซัพพลายผิดพลาดได้ เนื่องจากเพาเวอร์ซัพพลายพยายามจ่ายพลังงานให้กับวงจรอย่างสม่ำเสมอ โดยไปเพิ่มกระแส แต่การเพิ่มกระแสทำให้ตัวนำ เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์ต่างๆ ร้อนขึ้น ซึ่งมีผลทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เกิดความเสียหายได้
ทรานเชียนต์
ทรานเชียนต์ หมายถึง การที่ไฟฟ้ามีแรงดันสุง (sags) หรือต่ำกว่าปกติ (surge) ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทรานเชียนต์ที่เกิดในบางครั้งจะมีความถี่สูงมาก จนกระทั่งสามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวเก็บประจุไฟฟ้าในเพาเวอร์ซัพพลาย เข้าไปทำความเสียหายให้แก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้
ไฟกระเพื่อม
ทุกครั้งที่ท่านเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า จะทำให้กำลังไฟเกิดการกระเพื่อม เครื่องใช้ไฟฟ้ที่ต้องการกระแสไฟฟ้ามากๆ ก็จะทำให้ความแรงของการกระเพื่อมมีค่ามากตามไปด้วย จากการศึกษาพบว่า การเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละครั้งจะทำให้เกิดการกระเพื่อม- ครั้ง ภายในเสี้ยววินาที การกระเพื่อมจะมีผลต่อทุกๆ ส่วนภายในตัวเครื่อง รวมทั้งหัวอ่านข้อมูลของฮาร์ดดิสค์ด้วย
วิธีแก้ไข
• ในกรณีไฟเกิน ไฟตก และทรานเชียนต์ แก้ไขได้โดยการใช้เครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้า หรือ ที่เรียกว่า Stabilizer
• ส่วนไปกระเพื่อม แก้ได้โดยการลดจำนวนครั้งในการปิดเปิดเครื่อง
ไฟฟ้าสถิตย์
ไฟฟ้าสถิตย์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล แต่ในสภาวะที่อากาศแห้ง จะส่งผลให้ความเป็นฉนวนไฟฟ้าสูง ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และหาทางวิ่งผ่านตัวนำไปยังบริเวณที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่า ดังนั้นเมื่อท่านไปจับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จากตัวท่านจะวิ่งไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น ทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายได้ แต่ในสภาวะที่มีความชื้นสูง ไฟฟ้าสถิตย์ที่เกิดขึ้นจะรั่วไหลหายไปในระยะเวลาอันสั้น
วิธีแก้ไข
• ควรทำการคายประจุไฟฟ้าสถิตย์ ด้วยการจับต้องโลหะอื่นที่ไม่ใช้ตัวถังเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
น้ำและสนิม
น้ำและสนิมเป็นศัตรูตัวร้ายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด สนิมที่พบในเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ มักจะเกิดจากการรั่วซึมของแบตเตอรี่บนเมนบอร์ด ซึ่งถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้น นั่นหมายความว่าท่านจะต้องควักกระเป๋าซื้อเมนบอร์ดตัวใหม่มาทดแทนตัวเก่าที่ต้องทิ้งลงถังขยะสถานเดียว
วิธีแก้ไข
• หลีกเลี่ยงการนำของเหลวทุกชนิดมาวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของท่าน
• กรณีการรั่วซึมของแบตเตอรี่ แก้ไขได้โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เมื่อเครื่องของท่านมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1-2 ปี เป็นต้นไป
การบำรุงรักษาตัวเครื่องทั่วๆไป
• เครื่องจ่ายไฟสำรอง (UPS) ถ้ามีงบประมาณเพียงพอควรติดตั้งร่วมกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยเพราะ UPS จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาทางไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดความเสียหายของข้อมูลและชิ้นส่วนอื่นๆ
• การติดตั้งตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ควรติดตั้งในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ หรือถ้ามีไม่มีเครืองปรับอากาศควรเลือกห้องที่ปลอดฝุ่นมากที่สุด และการติดตั้งตัวเครื่องควรจากผนังพอสมควรเพื่อการระบายความร้อนที่ดี
• การต่อสาย Cable ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ต่างๆเช่น Printer Modem Fax หรือส่วนอื่นๆจะต้องกระทำเมื่อ power off เท่านั้น
• อย่าปิด - เปิดเครื่องบ่อยๆ เกินความจำเป็น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่โปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่
• ไม่เคลื่อนย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะที่เครื่องทำงานอยู่ เพราะจะทำให้อุปกรณ์บางตัวเกิดความเสียหายได้
• อย่าเปิดฝาเครื่องขณะใช้งานอยู่ ถ้าต้องการเปิดต้อง power off และถอดปลั๊กไฟก่อน
• ควรศึกษาจากคู่มือก่อนหรือการอบรมการใช้งาน Software ก่อนการใช้งาน
• ตัวถังภายนอกของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบของเหล็กกับพลาสติกเมื่อใช้นานๆ จะมีฝุ่นและคราบรอยนิ้วมือมาติดทำให้ดูไม่สวยงามและถ้าปล่อยไว้นานๆ จะทำความสะอาดยาก จึงควรทำความสะอาดบ่อยๆอย่างน้อย 1-2 เดือนต่อครั้ง โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดที่ตัวเครื่อง หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ และที่สำคัญคือ ควรใช้ผ้าคลุมเครื่องให้เรียบร้อยหลังเลิกใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นผงต่างๆ
การบำรุงรักษา Hard Disk
ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุยืนมากยากจะบำรุงรักษาด้วยตัวเอง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายซึ่งควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
• การติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ควรติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์โดยให้ด้านหลังของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ห่างจากฝาผนังไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว เพื่อการระบายความร้อน 0 เป็นอย่างปกติไม่ทำให้เครื่องร้อนได้
• ควรเลือกใช้โตีะทำงานที่แข็งแรงป้องกันการโยกไปมาเพราะทำให้หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ถูกกระทบกระเทือนได้
• ควรมีการตรวจสอบสถานภาพของ Hard Disk ด้วยโปรแกรม Utility ต่างๆว่ายังสามารถใช้งานได้ครบ 100 % หรือมีส่วนใดของ Hard Disk ที่ใช้งานไม่ได้
การบำรุงรักษา Disk Drive
ช่องอ่านดิสก์เมื่อทำงานไปนานๆหัวอ่านแผ่นดิสก์อาจจะเสื่อมสภาพไปได้ หัวอ่านดิสก์เกิดความสกปรกเน่องจากมีฝุ่นละอองเข้าไปเกาะที่หัวอ่าน หรือเกิดจากความสกปรกของ แผ่นดิสก์ที่มีฝุ่น หรือคราบไขมันจากมือ ผลที่เกิดขึ้นทำให้การบันทึก หรืออ่านข้อมูลจากแผ่นดิสก์ไม่สามารถดำเนินการได้
การดูแลรักษา Disk Drive ควรปฏิบัติดังนี้
• เลือกใช้แผ่นดิสก์ที่สะอาดคือไม่มีคราบฝุ่น ไขมัน หรือรอยขูดขีดใดๆ
• ใช้น้ำยาล้างหัวอ่านดิสก์ทุกๆเดือน
• หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นดิสก์เก่าที่เก็บไว้นานๆ เพราะจะทำให้หัวอ่าน Disk Drive สกปรกได้ง่าย
ก่อนนำแผ่นดิสก์ออกจากช่องอ่าน Disk Dirve ควรจะให้ไฟสัญญาณที่ Disk Drive ดับก่อน เพื่อป้องกันหัวอ่านชำรุด
การบำรุงรักษา Floppy Disk
แผ่นดิสก์มีความละเอียดมาก จึงควรมีการดูแลรักษาอยู่เสมอ เพราะ ถ้าแผ่นดิสก์ชำรุด หรือมีความสกปรก จะส่งผลกระทบต่อข้อมูล ที่บันทึกไว้หรือกำลังจะบันทึกใหม และที่สำคัญคือ จะสร้างความเสียหายให้แก่หัวอ่านดิสก์ด้วยผู้ใช้คอมพิวเตอร์ จึงควรระมัดระวังดูแลเอาใจใส่ โดยควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
• ระมัดระวังอย่าให้มือไปถูกบริเวณที่เป็นแม่เหล็กของแผ่นดิสก์ เพราะไขมันบริเวณผิวหนังของเรา จะทำให้เกิดความสกปรกต่อบริเวณที่บันทึกข้อมูล
• อย่าใช้แรงกดปากกาเกินไป ขณะเขียนที่แผ่นป้ายชื่อของแผ่นดิสก์
• อย่าให้แผ่นดิสก์อยู่ใกล้ บริเวณที่มีคลื่นแม่เหล็กมากๆ เช่นเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นบน MONITO หรือเครื่องโทรศัพท์แบบหมุน
• อย่าบิดหรืองอแผ่นดิสก์เล่นเป็นอันขาด
• อย่าให้แผ่นดิสก์มีรอยขูดขีด หรือถูกของเหลวเช่นน้ำ ดังนั้นเมื่อใช้แผ่นดิสก์เสร็จแล้วพยายาม เก็บไว้ในซองบรรจุให้เรียบร้อย
• ควรเก็บแผ่นดิสก์ไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม อย่าทิ้งไว้หน้ารถให้ตากแดดนานๆ
การบำรุงรักษา Monitor
ในส่วนของจอภาพนั้นอาจเสียหายได้เช่น ภาพอาการเลื่อนไหลภาพล้ม ภาพเต้นหรือไม่มีภาพเลย ซึ่งความเสียหายดังกล่าวจะต้องให้ช่างเท่านั้นเป็นผู้แก้ไข ผู้ใช้คอมพิวเคอร์ควรระมัดระวัง โดยปฏิบัติดังนี้
• อย่าให้วัตถุหรือน้ำไปกระทบหน้าจอคอมพิวเตอร์
• ควรเปิดไฟที่จอก่อนที่สวิซไฟที่ CPU เพื่อ boot เครื่อง
• ไม่ควรปิดๆ เปิดๆ เครื่องติดๆกัน เมื่อปิดเครื่องแล้วทิ้งระยะไว้เล็กน้อยก่อนเปิดใหม่
• ควรปรับความสว่างของจอภาพให้เหมาะสมกับสภาพของห้องทำงาน เพราะถ้าสว่างมากเกินไปย่อมทำให้จอภาพอายุสั้นลง
• อย่าเปิดฝาหลัง Monitor ซ่อมเอง เพราะจะเป็นอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูง
• เมื่อมีการเปิดจอภาพทิ้งไว้นานๆ ควรจะมีการเรียกโปรแกมถนอมจอภาพ (Screen Sever) ขึ้นมาทำงานเพื่อยืดอายุการใช้งานของจอภาพ
การบำรุงรักษา Inkjet & Dotmatrix Printer
เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแสดงผล รายงาน ของข้อมูลต่างๆทางกระดาษ การที่จะใช้เครื่องพิมพ์ทำงานได้เป็นปกติผู้ใช้คอมพิวเตอร์ควรหมั่นดูแลรักษาดังนี้
• รักษาความสะอาด โดยดูดฝุ่น เศษกระดาษที่ติดอยู่ในเครื่องพิมพ์ทุกเดือนหรือใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นเศษกระดาษออกจากเครื่องพิมพ์อย่าใช้แปรงชนิดแข็งเพราะอาจทำให้เครื่องเป็นรอยได้
• ถ้าตัวเครื่องพิมพ์มีความสกปรกอาจ ใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำชุบน้ำยาทำความสะอาดเครื่องใช้สำนักงานเช็ดถูส่วนที่เปนพลาสติกแต่ต้องระมัดระวังอย่าใช้น้ำเข้าตัวเครื่องพิมพ์ได้ และควร หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหล่อลื่นทุกชนิด ในตัวเครื่องเพราะอาจทำให้ระบบกลไกเสียหายได้
• ก่อนพิมพ์ทุกครั้งควรปรับความแรง ของหัวเข็มให้พอเหมาะกับความหนาของกระดาษ
• ระหว่างพิมพ์ควรระวังหัวพิมพ์จะติดกระดาษ เช่น การพิมพ์ซองจดหมาย หรือกระดาษที่มีความหนาหรือบางเกินไป
• อย่าถอดหรือเสียบสาย Cable ในขณะที่เครื่องพิมพ์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่
• ไม่ควรพิมพ์กระดาษติดต่อกันนานเกินไปเพราะอาจทำให้หัวอ่านร้อนมากทำให้เครื่องชะงักหยุดพิมพ์กระดาษ
• เมื่อเลิกพิมพ์งานควรนำกระดาษออกจากถาดกระดาษ และช่องนำกระดาษ
• ไม่ควรใช้กระดาษไข (Stencil Paper) แบบธรรมดากับเครื่องพิมพ์ประเภทแบบกระแทก (Dotmatrix Printer) เนื่องจากเศษของกระดาษไขอาจจะไปอุดตันเข็มพิมพ์ อาจทำให้เข็มพิมพ์อาจหักได้ควรใช้กระดาษไขสำหรับเครื่องพิมพ์แทน เพื่อป้องกันการชำรุดของเฟืองที่ใช้หมุนกระดาษ
การบำรุงรักษา Laser Printer
Laser Printer เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถพิมพ์ภาพได้อย่างคมชัดมากมีความละเอียดสวยงาม แต่ราคาค่อนข้างสูงผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรระมัดระวังในการใช้งานแม้ว่าโอกาสจะเสียหายมีน้อยก็ตาม ข้อควรปฏิบัติดังนี้
• การเลือกใช้กระดาษไม่ควรใช้กระดาษ ที่หนาเกินไปจะทำให้กระดาษติดเครื่องพิมพ์ได้
• ควรกรีดกระดาษให้ด ี อย่าให้กระดาษติดกัน เพราะอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระดาษติดในตัวเครื่องพิมพ์ได้
• การใช้พิมพ์ Laser Printer พิมพ์ลงในแผ่นใส ก็ต้องเลือกใช้แผ่นใสที่ใช้ถ่ายเอกสารได้เท่านั้น หากใช่แผ่นใสแบบธรรดาซึ่งไม่สามารถทนความร้อนได้อาจจะหลอมละลายติดเครื่องพิมพ์ทำให้เกิดความเสียหาย
* กรณีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานกันอยู่ทุกวันเกิดวันหนึ่งไม่สามารถเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งานได้ ดังนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็คือ
ตรวจสอบดูว่า สายไฟหรือปลั๊กไฟ แน่น หรือไม่ สายไฟมีปัญหาหรือไม่ เมื่อทำการตรวจดูแล้วว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่เสียหรือไม่ชำรุด ก็แน่ใจได้เลยว่า คอมพิวเตอร์ของคุณมีปัญหาอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ต้องตรวจสอบอันดับแรกคือ พาวเวอร์ซัพพลาย ซึ่งการตรวจสอบคือ ดูที่พัดลมด้านหลังของเครื่องถ้าพัดลมไม่ทำงานก็ต้องยกเครื่องไปซ่อมที่ร้าน หรือไม่ก็ซื้อพาวเวอร์ซัพพลายใหม่ ส่วนอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงานคือ ฮาร์ดดิสค์์์ ซึ่งถ้าปัญหาดังกล่าวนี้เกิดขึ้นกับเครื่องของคุณสิ่งที่ต้องปฏิบัติอันดับแรกคือทำการแบ็กอัพข้อมูลทั้งหมด ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ค่ะ
อาการที่พบคือ ภาพสั่นหรือภาพแตกเป็นเส้น วิธีการแก้ไขคือ ให้ปิดจอภาพทิ้งไว้ ซักครู่ แล้วเปิดใหม่ ถ้าอาการดังกล่าวไม่หาย ให้ตรวจสอบดูว่า มีแหล่งกำเนิดสนามแม่เหล็กอยู่ข้างๆ ตัวเครื่องหรือเปล่า เนื่องจากสนามแม่เหล็กนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาพไหว
ปัญหาของ หน่วยความจำ เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้เครื่องคอมพ์ของเราไม่ทำงาน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากหน่วยความจำที่ไม่เพียงพอ วิธีการแก้ไขก็คือ ทำการปิดโปรแกรม TSR ออกไป (ซึ่งโปรแกรม ดังกล่าวนี้เป็นโปรแกรมที่ฝังตัวในหน่วยความจำ โดยจะมีการทำงานอยู่ตลอดเวลา) หรือ จะทำการซื้อหน่วยความจำมาติดตั้งในเครื่องเพิ่มก็ได้ค่ะ
การดูแลรักษาคีย์บอร์ด
การดูแลรักษา คีย์บอร์ดในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ น้ำหกใส่ในตัวคีย์บอร์ด โดยวิธีการแก้ไข คือ ขั้นตอนแรกต้องรีบทำการปิดเครื่องให้เร็วที่สุด จากนั้นคว่ำคีย์บอร์ดลง เพื่อให้น้ำไหลออกจากตัวคีย์บอร์ด แล้วเริ่มทำการแกะปุ่มต่างๆ ของคีย์บอร์ด โดยใช้ไขควงขนาดเล็กทำการแงะเอาแป้นพิมพ์แต่ละตัวออก จากนั้นใช้สำลีพันก้านไม้เช็ดคราบน้ำตามช่องต่างๆ ให้แห้ง แล้วใช้ก้านสำลีชุปแอลกอฮอล์เช็ดซ้ำอีกครั้ง เพื่อทำความสะอาดคราบสกปรกต่างๆ เพียงเท่านี้ก็สามารช่วยให้คีย์บอร์ดทำงานได้ตามปกติแล้วค่ะ
ส่วนอีกปัญหาหนึ่งที่มักจะพบกับการใช้งานคีย์บอร์ดคือ ปุ่มกดต่างๆ กดไม่ค่อยลง เวลาพิมพ์งานจะเกิดปัญหาพิมพ์ไม่ติด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดมาจากความสกปรกนั่นเองครับ วิธีแก้ไขก็คล้ายๆ กับกรณีคีย์บอร์ดถูกน้ำหกใส่ คือทำการแกะปุ่มต่างๆ ของคีย์บอร์ดออกให้หมด ยกเว้นปุ่ม Spacebar และปุ่ม Enter ซึ่งทั้งสองปุ่มนี้จะยากต่อการประกอบคืน สำหรับวิธีการแกะแป้นพิมพ์ก็สามารถทำได้โดยใช้ไขควงขนาดเล็กงัดแป้นพิมพ์แต่ละตัวออก จากนั้นใช้สำลีพันก้านไม้ชุปแอลกอฮอล์เช็ดคราบสกปรกต่างๆ ที่ตกค้างในคีย์บอร์ดออกให้หมด เมื่อเช็คเสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วทำการประกอบคีย์บอร์ดกลับเข้าที่เหมือนเดิม ด้วยการดูแลรักษาเพียงปฏิบัติง่ายๆ เท่านี้ เราก็สามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้ตามปกติ โดยไม่ต้องไปเสียเงินจ้างช่างมาซ่อม
การดูแลรักษาเมาส์์
จากการที่เราใช้งานเมาส์ ไปนานๆ มักจะพบปัญหากรณีที่ เมาส์ทำการเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียว หรือคลิกซ้าย
คลิกขวาไม่ได้ สาเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นจากความสกปรกของลูกกลิ้งสัมผัสนั่นเองครับ วิธีแก้ไขคือ ทำความสะอาดเมาส์ โดยมีวิธีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนแรกเปิดฝาครอบเมาส์ออก นำลูกกลิ้งมาทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ จากนั้นสังเกตแกนสัมผัสลูกกลิ้งที่อยู่ในช่องใส่ลูกกลิ้ง ถ้ามีคราบดำๆ พันอยู่รอบแกนให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง เสร็จแล้วทำการทดสอบด้วยการหมุนลูกกลิ้งไปมา ถ้ายังฝืดหรือกลิ้งไม่สะดวกก็ให้ทำความสะอาดซ้ำอีก
สำหรับกรณีที่เมาส์ไม่สามารถทำการคลิกซ้ายหรือขวาไม่ค่อยติดนั้น วิธีการแก้ไขก็คือทำความสะอาดเมาส์โดยหยดแอลกอฮอล์ลงไปตรงบริเวณปุ่มซ้าย-ขวา ของเมาส์ ปล่อยทิ้งไว้ซักครู่แล้วทำการหยดแอกอฮอล์ซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ถ้ามีน้ำยาล้างหัวเทปทั่วไปแทนการใช้แอกอฮอล์ทำความสะอาดก็ได้ค่ะ เท่านี้ก็สามารถช่วยให้เมาส์เคลื่อนที่หรือใช้งานได้ตามปกติ
ปัญหาของ เครื่องพิมพ์์์ สำหรับปัญหาที่เกี่ยวกับเครื่องพิมพ์นี้ที่พบบ่อยคือ ปัญหากรณีที่เครื่องพิมพ์ไม่สามารถพิมพ์งานได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้มีสาเหตุมาจากหลายกรณีด้วยกัน แต่ที่พบบ่อยคือ
สาเหตุเนื่องมาจากหัวของเครื่องพิมพ์อุดตัน
ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุคือ หมึกพิมพ์ ดังนั้นถ้าต้องการใช้เครื่องพิมพ์ พิมพ์งานบ่อยๆ ไม่ควรซื้อหมึกชนิดเติมมาใช้ เนื่องจากหมึกชนิดนี้เวลาที่เราเติมลงไปจะไปทับกับหมึกเก่าที่ตกค้างอยู่ในตลับหมึก ซึ่งจะเป็นสาเหตุในการทำให้หัวพิมพ์อุดตันได้ค่ะ หรือแม้แต่การใช้หมึกพิมพ์ชนิดเปลี่ยนตลับใหม่ก็ตาม ดังนั้นถ้าไม่ต้องการให้หัวพิมพ์อุดตันละก็ ต้องทำการเปิดเครื่องพิมพ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้จะช่วยให้การอุดตันของหมึกพิมพ์ลดน้อยลงไป ทั้งนี้เนื่องมาจากการเปิดเครื่องพิมพ์แต่ละครั้งระบบการทำงานของเครื่องจะทำการล้างหัวพิมพ์โดยอัตโนมัติ หมึกที่อยู่บริเวณหัวพิมพ์จะมีการถ่ายเทอยู่เสมอ จึงทำให้หมึกไม่แห้งและไปอุดตันหัวเครื่องพิมพ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามครับการปฏิบัติดังกล่าวนี้จะทำให้สูญเสียหมึกพิมพ์ไปกับการเปิดเครื่องครั้งละประมาณ 1% ของจำนวนน้ำหมึกที่อยู่ในตลับ
การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไม่ยากเลยใช่ไหม เราเองก็สามารถซ่อมด้วยตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตามอยากจะฝากซักนิดหนึ่งว่า อุปกรณ์ต่างๆในเครื่องคอมพิวเตอร์บางอย่างเราไม่สามารถตรวจสอบหรือแก้ไขได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าไม่มั่นใจในการตรวจสอบแก้ไขแล้วละก็ ทางที่ดีควรจะส่งซ่อมกับช่างที่ชำนาญจะดีกว่า ถ้าขืนซ่อมเองอาจจะทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวเกิดความเสียมากกว่าเดิม เดียวจะเป็นอย่างคำพังเพยที่ว่า "เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย" ก็ได้
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3
ดีดี...สดใสๆ