เคล็ดลับความอร่อย

ห้ามลบ ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.
หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล
ซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล


http://www.yenta4.com/webboard/upload_images/1078747_6315541.gifเคล็ดลับความอร่อย

กบ เตรียมกบอย่างไรไม่ให้คาว


เนื้อกบ ปรุงอาหารได้อร่อยไม่แพ้ชนิดอื่น โดยมีขั้นตอนที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อน นั่นคือ ให้ผ่าท้องกบ ควักไส้ออกให้หมด แล้วล้างด้วยน้ำ   ผสมน้ำส้มสายชู หรือน้ำปูนใส หรือน้ำผสมเกลือ เพื่อกำจัดเมือกและกลิ่นคาวออก จากนั้นเอาหนัง ปาก ตา และเล็บออก แล้วย่างพอสุกก่อนนำไปใช้ปรุงอาหาร เนื้อกบจะไม่คาว และสามารถสับกบได้

                                                  กระเจี๊ยบเขียว วิธีกำจัดเมือกกระเจี๊ยบเขียว


กระเจี๊ยบเขียวจะมีเมือกอยู่ วิธีกำจัดเมือกมี 2 วิธี คือ ให้คลุกกระเจี๊ยบเขียวกับเกลือป่นให้ทั่ว แล้วผึ่งบนตะแกรงนาน 1 ชั่วโมง ล้างเอาเกลือออก จึงนำไปปรุงอาหารได้ตามต้องการ หรืออีกวิธีหนึ่ง ให้ล้างกระเจี๊ยบเขียวด้วยน้ำสะอาด แล้วหั่นสำหรับปรุงอาหาร ผึ่งบนตะแกรง นาน 1 ชั่วโมง ถ้าจะนำกระเจี๊ยบเขียวไปแกง ให้ต้มน้ำแกงจนเดือดจัด  ปรุงรสเรียบร้อย  จึงใส่กระเจี๊ยบเขียวเป็นลำดับสุดท้ายโดยไม่ต้องคน

                                     

                                             กระทงทอง  กระทงทองทำแป้งให้บางเหลืองกรอบ


เคล็ดลับอยู่ที่การผสมแป้ง    ที่ต้องใส่น้ำปูนใสลงไปด้วยเพื่อให้ แป้งกรอบ หากแป้งจับตัวเป็นเม็ด ให้กรองด้วยกระชอนตาถี่ ใส่น้ำมันให้ เต็มกระทะ ตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อนจนน้ำมันร้อน จุ่มพิมพ์กระทงทอง    ในน้ำมันที่ร้อนจัดสักครู่ ยกพิมพ์วางบนกระดาษซับน้ำมัน แล้วจุ่มพิมพ์ลงในส่วนผสมแป้ง จุ่มแค่ถึงขอบด้านนอก อย่าให้แป้งเข้าไปอยู่ในพิมพ์ แล้วจุ่มพิมพ์ลงในกระทะจนน้ำมันท่วมพิมพ์ ทอดพอให้แป้งอยู่ตัวใช้ไม้แหลมเขี่ยยแป้งออกจากพิมพ์ ทอดต่อจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน

      กระทะ   กระทะเหล็กใบใหม่ผัดแล้วอาหารไม่ติดกระทะ


กระทะเหล็กใบใหม่เมื่อซื้อมาแล้วควรเตรียมกระทะให้พร้อมก่อนใช้ดังนี้ ล้างกระทะด้วยน้ำมันร้อนให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง  วางกระทะเหนือเปลวไฟ หมุนกระทะให้ได้รับความร้อนอย่างทั่วถึงจนควันขึ้น ทิ้งกระทะไว้ให้เย็น ใส่น้ำมันพืชในกระทะ ใช้กระดาษลูบให้น้ำมันติดกระทะจนทั่ว ถือกระทะเหนือเตาแก๊สที่จุดไฟต่ำไว้ (อย่าวางบนเตา) หมุนกระทะให้ได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง ด้านละ 30 วินาที ยกออกจากเตาปล่อยให้เย็นแล้วทำซ้ำแบบเดิมอีก 1-2 ครั้ง เป็นวิธีการสร้างแผ่นฟิล์มบางๆ เคลือบกระทะ เพื่อไม่ให้อาหารติดกระทะ

                    ปรุงอาหารไม่ให้ติดกระทะ   การเตรียมอาหารธรรมดาไม่ให้อาหารติดกระทะ

ทำได้โดยการทากระทะด้วยน้ำมันบางๆ และตั้งไฟจนร้อนจัด แล้วพักไว้จนเย็น ใช้ผ้าสะอาดเช็ดออกเบาๆ ส่วนการทำความสะอาดหลังการใช้ จะต้องรอให้กระทะเย็นก่อน แล้วใช้เกลือละเอียดถูเบาๆ เช็ดซ้ำด้วยผ้าหมาดๆ และห้ามขัดเป็นอันขาด เพราะกระทะจะเป็นรอยขรุขระได้

                    อาหารไหม้ติดกระทะล้างออกได้ง่ายๆ


กระทะที่ใช้ประกอบอาหารที่ไม่ใช่กระทะเคลือบเทฟลอน ถ้ามีอาหารไหม้ติดอยู่จะทำความสะอาดได้ยาก วิธีง่ายๆ คือ ให้ผสมโซดาไบคาร์บอนเนต (โซดาทำขนม) กับน้ำส้มสายชูพอมีลักษณะข้น  ทาให้ทั่วกระทะ หรืออีกวิธีคือโรยเกลือป่นให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ ขัดด้วยฝอยขัดชนิดละเอียด แล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด คว่ำหรือเช็ดให้แห้งก่อนเก็บ เท่านี้รอยไหม้และกลิ่นไหม้ก็จะหายไป

                    กระเทียม  กลิ่นและรสของกระเทียมขึ้นกับวิธีใช้


การใช้กระเทียมแต่ละแบบ จะใช้กลิ่นและรสที่แตกต่างกันไป เช่น กระเทียมที่รับประทานสด หากบดหรือทุบให้แหลกกลิ่นจะยิ่งแรง กระเทียมสับกลิ่นจะน้อยกว่า กระเทียมเป็นกลีบแทบจะไม่มีกลิ่นเลย กระหุงต้มกระเทียมให้สุก ยิ่งนานกลิ่นกระเทียมยิ่งอ่อน เพราะความร้อนจะทำลายกลิ่นให้จางหายไป


                                                             กระเทียม วิธีเจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบ


เลือกใช้กระเทียมไทยกลีบเล็ก แกะเปลือกแข็งออก เหลือแต่เปลือกบาง นำไปโขลกหรือสับให้ละเอียด หรือจะซอยบางๆ ตามขวางขนาดเท่าๆ กันก็ได้ การโขลกจะทำให้น้ำมันหอมระเหยในกระเทียมมามากกว่า จากนั้นนำไปเจียวโดยใช้น้ำมันหมูหรือน้ำมันพืช ถ้าเป็นน้ำมันหมูกลิ่นจะหอมกว่า เริ่มด้วยใส่น้ำมันกับกระเทียมลงพร้อมกันในกระทะขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อน ถ้าน้ำมันร้อนกระเทียมจะไหม้ เจียวด้วยไฟอ่อนหมั่นคนให้ทั่ว พอกระเทียมเริ่มเหลืองกรอบ ให้ตักขึ้นทันที ความร้อนที่เหลืออยู่จะทำให้กระเทียมที่เจียวค่อยๆ เหลืองพอดี สีไม่เข้มเกินไป ถ้ายังไม่ใช้กระเทียมเจียวในทันทีต้องเก็บใส่ถุงหรือภาชนะปิดฝาให้สนิท อย่าให้ถูกอากาศเพราะจะทำให้กระเทียมหายกรอบ

                        การทำกระเทียมเจียวกากหมู กระเทียมเจียวกากหมูใส่เพิ่มรสชาติให้ก๋วยเตี๋ยวอร่อยยิ่งขึ้น

เลือกมันหมูแข็ง สด สีขาว ไม่มีกลิ่น หั่นชิ้นบางแบบใช้สำหรับเจียว ใส่ลงในกระทะ เติมน้ำเล็กน้อย เพื่อให้เจียวได้เร็วและน้ำมันมีสีเหลืองใส เจียวด้วยไฟค่อนข้างอ่อน พอน้ำมันในเนื้อหมูออกมาหมั่นคนไปเรื่อยๆ จนมันหมูออกสีแหลืองอ่อนก็ใส่กระเทียมที่บดหยาบลงไปเจียวด้วย เจียวสักพักทั้งมันหมูและกระเทียมเจียวก็จะเป็นสีเหลือง ให้ตักขึ้น ความร้อนของน้ำมันที่ยังคงอยู่กระทำให้กระเทียมเจียวกากหมูสุกเหลืองสวยและกรอบพอดี

กระเพาะปลาเตรียมกระเพาะปลาอย่างไรดี


กระเพาะปลาแบบแห้ง ก็คือส่วนที่เป็นถุงลมของปลา ต้องเลือกกระเพาะปลาที่ทอดใหม่ๆ ไม่อมน้ำมัน แล้วนำมาแช่น้ำชาจนกว่าตัวกระเพาะปลาจะนิ่ม จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นโต ลวกในน้ำเดือด คอยคนกระเพาะปลาตลอดเวลา เพื่อให้น้ำเดือดร้อนๆ ขับคราบน้ำมันในกระเพาะปลาออกมา แล้วเทใส่กระชอน ล้างด้วยน้ำมากๆ จนกว่าจะหมดค่าน้ำมันและไม่มีกลิ่นหืน พักกระเพาะปลาไว้สะเด็ดน้ำ แล้วจึงนำไปทำกระเพาะปลา

กล้วย  วิธีขจัดยางกล้วยน้ำว้าดิบ


 การปลอกกล้วยน้ำว้าดิบ จะมียางกล้วยสีขาวเหนียวเหนอะหนะไหลออกมาด้วย เราสามารถขจัดยางกล้วยได้ โดยใช้น้ำมันพืชทามือทั้งสองข้างก่อนปอกกล้วย ยางกล้วยก็จะไม่เลอะติดมือ แล้วให้แช่กล้วยในน้ำปูนใส กล้วยจะสดและไม่มียางไหลออกมาอีก

 

                                                          เชื่อมกล้วยน้ำว้าให้มีสีแดงสวย


การเชื่อมกล้วยน้ำว้าให้น้ำเชื่อมซึมผ่านถึงด้านในของชิ้นกล้วยนั้น ต้องเริ่มเชื่อมโดยใช้น้ำเชื่อมเจือจางก่อน ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำเชื่อมข้น และกล้วยมีสีแดงขึ้น ถ้าต้องการให้กล้วยมีสีแดงสวยก็ใส่น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย จะได้กล้วยน้ำว้าเชื่อมสีแดงสวย น่ารับประทาน

 

 

                                                          ทำกล้วยบวชชีไม่ให้กะทิแยกชั้น


 กล้วยบวชชีเป็นขนมหวานที่ทำง่ายมาก แต่กระนั้นก็ยังมีเคล็ดลับไม่ให้กะทิในกล้วยบวชชีแยกออกจากกันเป็น 2 ชั้น นั่นคือให้คั้นกะทิเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหัวและส่วนหาง ขั้นแรก ต้มกล้วยกับหางกะทิก่อน พอกล้วยสุกใส่น้ำตาล คนพอน้ำตาลละลายจึงใส่หัวกะทิ พอร้อนทั่วยกลง วิธีนี้หัวกะทิจะไม่แตกมัน น้ำกะทิจะข้นเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกเป็น 2 ชั้นอย่างแน่นอน

                                                              กะทิเคล็ดลับการคั้นกะทิ


การคั้นกะทิ เราทำเองได้ไม่ยาก โดยใช้มะพร้าวที่แก่จัด สังเกตเนื้อมะพร้าวขูดมีน้ำกะทิเป็นมัน น้ำกะทิที่คั้นได้จะมีรสหวานมันและกลิ่นหอม การคั้นกะทิในครั้งแรกไม่ต้องใส่น้ำ คั้นโดยการบีบแล้วกรองจะได้หัวกะทิข้นๆ ในการคั้นครั้งต่อไปจึงใส่น้ำอุ่นทีละน้อย แล้วค่อยๆ คั้นน้ำกะทิออกมาหมด ถ้าใส่น้ำครั้งละมากๆ จะทำให้กะทิที่คั้นมีลักษณะใสและไม่มัน

                                                     กะเพราวิธีทอดใบกระเพราให้กรอบ


ต้องเลือกใบกระเพราแก่เป็นสำคัญ ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางให้ร้อนจัดจนมีควันเล็กน้อย ใส่ใบกระเพราลงทอด ใช้ตะหลิวคนพอทั่วสักครู่ให้รีบตักขึ้น แล้วแกว่งตะหลิวไปมา ใบกระเพราทอดเมื่อถูกอากาศจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวใสทั้งใบและกรอบขึ้น หากทอดนานเกินไป ใบกระเพราจะมีสีน้ำตาลไหม้และมีรสขม

                                                               เรื่องน่ารู้ของใบกระเพรา


ใบกระเพรานิใช้ทำผัดกระเพราและผัดเผ็ดต่างๆ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้วิธีเด็ดใบกระเพราที่ถูกต้อง เคล็ดลับคือ การเด็ดใบกระเพรานั้นต้องเด็ดให้ชิดใบที่สุด ไม่มีก้านใบติดอยู่เลย เวลาปรุงอาหารให้ใส่ใบกระเพราหลังสุดเมื่อทุกอย่างสุกแล้ว ใบกระเพรานั้นสุกง่ายและต้องปรุงให้สุกจึงจะมีกลิ่นหอมและมีรสของใบกระเพราสด
 

กุ้ง  เตรียมกุ้งก่อนปรุงอาหาร


ถ้าใช้กุ้งแบบแกะเปลือก ให้ล้างน้ำทั้งเปลือก ตัดหนวด ตัดส่วนที่รับประทานไม่ได้ทิ้ง ดึงหัวกุ้งออก แล้วแกะเปลือกเหลือส่วนหางไว้ ใช้มีดผ่าหลังกุ้งออก แต่ถ้าใช้แบบทั้งตัวไม่แกะเปลือก ให้ดึงเอาเส้นดำออกทางหัวแทน
ทำอย่างไรให้กุ้งเนื้อเหนียวกรอบ เมื่อนำกุ้งมาทำอาหาร เนื้อกุ้งมักจะอ่อนนิ่ม รับประทานแล้วไม่อร่อย ถ้าอยากให้เนื้อกุ้งแน่นกรอบดี ต้องล้างกุ้งก่อนจึงแกะเปลือก เนื้อกุ้งจะไม่แฉะน้ำ ถ้าต้องการให้เนื้อกุ้งกรอบ ทำได้โดยเคล้ากุ้งกับแป้งมันผสมเกลือป่นเล็กน้อยในอ่างผสม จากนั้นเปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่านตัวกุ้งเพื่อล้างเอาแป้งมันออก ใส่กุ้งในตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำหรือใช้ผ้าขนหนูซับน้ำให้แห้ง จึงนำไปทำอาหาร

 

                                                                       กุ้งย่าง กุ้งเผา

 กุ้งย่าง กุ้งเผา อาหารจานโอชะของคนหลายๆ คน นิยมใช้กุ้งตัวใหญ่มาย่างทั้งเปลือก เพื่อให้เนื้อกุ้งไม่แห้ง และควรใช้ไฟค่อนข้างแรง เพื่อให้ย่างไม่นานเพราะกุ้งสุกง่าย ก่อนย่างให้ผ่าหลังกุ้งดึงเส้นดำออก ใส่ไขมัน เช่น มาร์การีนหรือเนยลงไปเล็กน้อยแล้วจึงย่าง จะช่วยให้เนื้อกุ้งนุ่มอร่อยขึ้น

                                                             กุ้งแห้งโขลกกุ้งแห้งให้เนื้อฟู


 หากอาหารที่คุณแม่บ้านจะทำ มีส่วนผสมของกุ้งแห้งโขลกด้วย ควรเลือกกุ้งแห้งตัวโต เพราะเมื่อโขลกแล้วเนื้อกุ้งจะฟูดี ทำให้ได้ปริมาณกุ้งมากขึ้น วิธีการคือ โขลกกุ้งพอแหลก แล้วหมุนสากไปมาจนเนื้อกุ้งแห้งละเอียดและฟูดี ถ้าโขลกแบบไม่หมุนสากเนื้อกุ้งจะแบนและไม่ขึ้นฟู

 

                                               กุยช่ายผัดกุยช่ายให้มีสีเขียวสดน่ารับประทาน


กุยช่ายมีทั้งกุยช่ายขาวและกุยช่ายเขียว สำหรับกุยช่ายเขียวนั้น เมื่อถูกความร้อนไม่ว่าจะนึ่งหรือผัด มักมีสีซีดจาง ไม่เขียวสด เวลาจะปรุงอาหารจึงต้องใช้เบกกิ้งโซดาไปด้วยเล็กน้อย ผักจะมีสีเขียวสดน่ารับประทาน

                                                        เก๊กฮวยน้ำเก๊กฮวยสีเหลืองสดสวย


 ดอกเก๊กฮวยที่เราซื้อมาต้ม ไม่ว่าจะใส่ดอกมากแค่ไหน น้ำดอกเก๊กฮวยที่ต้มได้ก็เป็นเพียงสีเหลืองจางๆ เคล็ดลับอยู่ที่การใส่ฝักก๊กฟาจี่หรือฝักเก๊กฮวยตากแห้งลงต้มรวมกับดอกเก๊กฮวยด้วย เพื่อให้ได้น้ำเก๊กฮวยที่มีสีเหลืองสดสวย เป็นสีธรรมชาติที่ไม่มีอันตราย

                                                       เกล็ดขนมปังเก็บเกลือป่นไม่ให้ชื้น


อาหารประเภทชุบแป้งทอดส่วนใหญ่ มักคลุกด้วยเกล็ดขนมปังเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนลงทอดในกระทะ ซึ่งการคลุกเกล็ดขนมปังนั้น ต้องคลุกเนื้อหรือผักกับแป้งสาลีจนทั่วก่อน แล้วชุบกับไข่ที่ตีพอเข้ากัน (ใช้ไข่ใหม่เป็นไข่แดงมากกว่าไข่ขาว จะทำให้เกล็ดขนมปังติดดี) ต้องให้ไข่เคลือบจนทั่ว แล้วจึงคลุกกับเกล็ดขนมปังจึงจะติดมาก


        เกลือเก็บเกลือป่นไม่ให้ชื้น


 เกลือป่นในขวด เก็บไว้นานๆ มักจะเกาะกันเป็นเม็ดใหญ่เพราะมีความชื้นอยู่ในขวดเกลือป่นมาก วิธีแก้คือ ให้ใส่ข้าวสารลงไปในขวดลงไปเล็กน้อย ข้าวสารจะช่วยดูดความชื้นของเกลือไว้ เกลือป่นจะเป็นผงละเอียดอยู่เสมอ และไม่จับตัวกันเป็นก้อน

                                                            เกลือช่วยขจัดกลิ่นหอมแดงติดมือ


เมื่อปอกหอมแดงมักจะมีกลิ่นเหม็นติดมิ ล้างเท่าไหร่ก็ล้างไม่ออกสักที วิธีทำให้มือหมดกลิ่นเหม็นคือ ใช้เกลือถือมือไปมาให้ทั่ว แล้วล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้ง มือจะไร้กลิ่นหอมแดงให้รำคาญใจ

                                                         แกงจืดกลิ่นหอมชวนรับประทาน


 เมื่อสับหมูแล้วให้คลุกหมูกับน้ำปลาและพริกไทยเล็กน้อย หมักทิ้งไว้สักครู่ โขลกราผักชี พริกไทย และกระเทียม ให้ละเอียด แล้วจึงผัดเครื่องที่โขลกกับน้ำมันเล็กน้อยพอหอมในหม้อที่จะใช้ทำแกงเลย ใส่หมูสับลงผัดไฟกลางให้หมูตึงตัว พอจวนสุกใส่น้ำสต๊อก เร่งไฟพอเดือดจึงใส่ผัก ให้ผักสุกนุ่ม ใส่น้ำปลาขณะที่น้ำแกงเดือดจะได้หอม วิธีนี้จะช่วยให้หมูมีกลิ่นหอมจากเครื่องที่โขลกต่างๆ แกงจืดจึงหอมชวนรับประทานด้วย

                                                         เทคนิคการทำแกงเผ็ด แกงกะทิ


 ในการทำแกงเผ็ดนั้น ถ้าเป็นแกงเผ็ดไก่ ควรรวนเนื้อไก่ให้แห้งก่อน แต่ถ้าเป็นแกงเผ็ดหมูหรือเนื้อต้องเคี่ยวหมูด้วยหางกะทิให้นุ่มก่อน เพื่อไม่ให้น้ำแกงใสและมีกลิ่นหอม ไม่คาว แกงกะทิที่ต้องผัดน้ำพริกแกง ควรเคี่ยวให้หัวกะทิแตกมันมากๆ ก่อน โดยใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนคนกะทิอยู่เสมอไม่ให้กะทิจับตัวเป็นก้อน แล้วจึงใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้หอม ใส่น้ำปลาลงผดด้วยให้หอมยิ่งขึ้น เมื่อเครื่องแกงมีสีเข้มข้นค่อยใส่เนื้อสัตว์ ปรุงรส ใส่หางกะทิ แล้วค่อยใส่ผักทีหลังสุด ให้ใส่ผักที่สุกยากลงก่อน

                                                               แกงส้มปลาถ้วยอร่อย


น้ำที่ใส่ต้องใส่ให้เหมาะสมกับปริมาณผัก เพราะในผักมีน้ำอยู่แล้ว การใส่น้ำพริกแกงลงในหม้อ น้ำแกงต้องเดือดก่อน ถ้าใส่ตอนที่น้ำแกงยังไม่เดือดจะไม้หอม จากนั้นใส่ผักก่อน แต่ถ้าเป็นผักกระเฉด ให้ใส่ปลาและปรุงรสให้เรียบร้อยก่อนใส่ผักกระเฉดทีหลัง แล้วยกลงทันทีเพื่อให้ผักกระเฉดกรอบ เมื่อผักทุกอย่างสุกนุ่มแล้วจึงใส่ปลา วิธีแก้ความคาวของปลาคือ หั่นปลาเป็นชิ้นใหญ่ตามต้องการ ลวกปลาในน้ำเดือดก่อนแล้วจึงใส่ลงต้ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียกที่ข้นๆ และน้ำตาลปี๊บ เพราะถ้าใช้น้ำตาลทรายจะได้รสหวานแหลมมากเกินไป ถ้าอยากให้แกงส้มมีรสเข้มข้นขึ้น ปรุงด้วยรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาวเล็กน้อย

                                                    แกงหมูเทโพอย่างไรให้หมูนุ่มและอร่อย


ก่อนอื่นต้องต้มหมูสามชั้นทั้งชิ้นใหญ่ให้สุกก่อน หั่นชิ้นตามต้องการ แล้วจึงนำไปแกง การต้มหมูจะช่วยให้น้ำเลือดในหมูไม่ไหลออกขณะแกง เนื้อหมูจึงหวานนุ่ม ผักบุ้งที่ใช้แกงต้องเป็นผักบุ้งน้ำ ไม่ใช้ผักบุ้งจีน ผักบุ้งตรงส่วนก้านต้องบุบให้แตกด้วยมีดหรือบีบให้แตกก่อน ผักจะนุ่มและน้ำแกงจะซึมเข้าไปในผัก ทำให้ผักอร่อย แกงหมูเทโพต้องใส่น้ำมะกรูดด้วย ให้ล้างมะกรูดแล้วผ่าครึ่งลูก บีบน้ำใส่ในแกง 1 ซีก แล้วเอาอีกซีกใส่ลงไป จะได้กลิ่นหอมจากน้ำมันผิวมะกรูด

                                                          แกงเลียงให้อร่อยทุกๆ ถ้วย


แกงเลียงอุดมไปด้วยผักนานาชนิดที่ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานบ่อยๆ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดียิ่งขึ้น การทำแกงเลียงให้อร่อยนั้น ต้องทำน้ำแงแยกไว้และลวกผักแยกต่างหาก เมื่อรับประทานค่อยอุ่นน้ำแกงแล้วจึงใส่ผัก จะได้แกงเลียงที่น่ารับประทาน คือ ผักไม่เละ และแกงทุกๆถ้วยจะมีลักษณะและรสชาติเหมือนกับถ้วยแรก

                                                       วิธีแก้แกงที่มีรสเปรี้ยวและเค็มเกินไป


คุณแม่บ้านที่ทำแกงต่างๆ แล้วมีรสเปรี้ยวจี๊ดหรือเค็มจัดจนเกินไป วิธีแก้คือ ปอกมันฝรั่งแล้วใส่ลงไปสัก 2 หัว มันฝรั่งจะช่วยดูดความเค็มและรสเปรี้ยวของน้ำแกงเอาไว้ ต้มต่อไปสักครู่ จึงตักมันฝรั่งออก แกงจะมีรสกลมกล่อมขึ้น หรือจะตักเฉพาะมันฝรั่งใส่ชามเสิร์ฟก็ได้ ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ

                                                       ทำแกงมัสมั่นไก่และให้เนื้อมีรสชาติดี
แกงมัสมั่นไก่ ควรหั่นไก่เป็นชิ้นใหญ่ทั้งกระดูก (เมื่อเคี่ยวจะได้ไม่หดตัวมาก) ทอดในน้ำมันเล็กน้อยก่อน เพื่อให้ไก่แห้ง (ทอดพอเหลืองเล็กน้อย) น้ำแกงจะได้ไม่ใสและบูดง่าย ส่วนมัสมั่นเนื้อ ต้องเคี่ยวเนื้อกับหางกะทิโดยใช้ไฟอ่อนๆ ควรใช้ภาชนะที่กว้างและสูง เมื่อใส่เนื้อและน้ำแล้วต้องมีที่ว่างเหลือ 1/3 ของภาชนะ กะทิจะได้ไม่ล้น ต้องใส่น้ำให้ท่วมเนื้อ ใช้ไฟอ่อนๆ ให้เดือดปุดๆ เคี่ยวจนเนื้อนุ่ม น้ำพริกต้องผัดให้หอมและแตกมันก่อนที่จะตักใส่หม้อแกง แล้วแกงตามตามตำรับ

                                                             แกงเขียวหวานสีไม่เขียวสด


แกงเขียวหวานสีสวยได้มาจากน้ำพริกแกงที่มีสีเขียวสด แต่ถ้าน้ำพริกแกงเขียวหวานที่โขลกเองหรือซื้อมามีสีไม่เขียวสด ให้ใช้น้ำที่คั้นจากใบพริกที่ใช้โขลกน้ำพริกแกงมาคั้นกะทิแทนน้ำธรรมดา จะได้น้ำกะทิสีเขียวอ่อนๆ แล้วผสมน้ำกะทินั้นลงไปในขณะแกงด้วย แกงเขียวหวานจะมีสีเขียวสวย น่ารับประทานยิ่งขึ้น

 

ไก่ต้ม  ให้ไก่หนังไม่แตก


 หลายคนมักมีปัญหาว่า ต้มไก่แล้วหนังจะหลุดออกจากเนื้อ เคล็ดลับง่ายๆ คือ ให้ทาแป้งมันให้ทั่วตัวไก่ แขวนไว้จนหนังไก่แห้ง ล้างให้สะอาด แป้งมันจะช่วยให้หนังไก่เหนียวไม่ปริแตกเวลาต้ม จากนั้นต้มน้ำให้เดือด นำไก่ที่จะต้มลงลวกในน้ำเดือดนั้นตักขึ้นทันที แช่ในน้ำเย็น แล้วนำลงต้มด้วยไฟอ่อน ต้มจนเนื้อไก่สุก ลองใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มดู ถ้าไม่มีน้ำเลือดไหลออกมาแสดงว่าไก่สุกแล้ว

                                                               ตุ๋นไก่ให้หอมและไม่คาว


 สับไก่เป็นชิ้นใหญ่ แล้วหมักด้วยเกลือ พริกไทย และรากผักชี โขลกละเอียด ใส่หม้อตั้งไฟโดยไม่ต้องใส่น้ำและน้ำมัน ผัดจนไก่เหลือง น้ำมันไก่จะออกมาเอง ตักไก่ที่เหลืองแล้วใส่หม้ออีกใบ ใส่น้ำ ตามด้วยเครื่องปรุง ตั้งไฟอ่อนๆ จะได้ไก่ตุ๋นที่มีกลิ่นหอมและน้ำแกงไม่มีน้ำหนักมาก

                                                        ทอดไก่ให้หนังกรอบ สุกถึงข้างใน


ล้างไก่ให้สะอาด ซับให้แห้ง หมักด้วยเกลือ พริกไทยป่น และกระเทียม ประมาณ 30 นาที แล้วนำไปนึ่งในชั้นลังถึงบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรง นึ่งพอสุกปล่อยให้เย็นและแห้ง การนึ่งจะช่วยให้เนื้อไก่สุกครึ่งหนึ่งแล้ว จากนั้นคลุกไก่ด้วยแป้งสาลีที่ใช้ทำขนมปัง จุ่มลงในไข่ที่ตีเข้ากัน คลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่ว ทอดในน้ำมันร้อนๆ ด้วยไฟกลาง น้ำมันที่ทอดไก่เลือกใช้น้ำมันปาล์ม จะทำให้ไก่กรอบทนนาน พอเหลืองตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ถ้าต้องการให้แป้งกรอบ ให้ใช้แป้งข้าวเจ้า 1 ส่วน แป้งสาลี 2 ส่วน ผสมกับน้ำเย็นให้ข้น พอจุ่มไก่แล้วจึงทอด ไก่จะกรอบนอก ข้างในสุกนุ่มทั้งชิ้น (หรือใช้แป้งทำแพนเค้กชุบไก่แทนที่จะใช้แป้งธรรมดา เท่านี้ไก่ทอดก็จะหนังกรอบอร่อย เป็นสีน้ำตาลเหลืองอร่าม)

 

 

 

 

 

 

สร้างโดย: 
ครูสุพัตทกานต์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 627 คน กำลังออนไลน์