80 วิธีหยุดโลกร้อน ด้วยชีวิตพอเพียง
80 วิธีหยุดโลกร้อน ด้วยชีวิตพอเพียง ...
71. สนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน รัฐบาลควรหามาตรการที่ชัดเจนในการสนับสนุนอุตสาหกรรมหมุนเวียนซึ่งเป็นพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เพื่อให้สามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมพลังงานอื่น ๆ ที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นสาเหตุหลักของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ
72. มีนโยบายทางการเมืองที่ชัดเจน
ในการสนับสนุนการ “หยุดภาวะโลกร้อน” เสนอต่อประชาชน
73. สนับสนุนโครงสร้างทางกายภาพ
เมื่อประชาชนตระหนักและต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น จัดการให้มีโครงข่ายทางจักรยานที่ปลอดภัยให้กับประชาชนในเมืองสามารถขับขี่จักรยานยนต์ ลดการใช้รถยนต์
74. ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนถนนในกรุงเทพมหานครอย่างจริงจัง
ด้วยการสนับสนุนระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีใครอยากจ่ายค่าน้ำมันแพง ขับรถมาติดนานนับชั่วโมงเพื่อเข้ามาทำงานในเมืองทุกเช้าและเย็น หากมีทางเลือกที่ดีกว่า การเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนเพื่อเข้าเมืองกับพื้นที่จอดรถยนต์ส่วนบุคคลตามชานเมืองเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว
75. ส่งเสริมเครือข่ายการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกรทางเลือก
เกษตรกรจำนวนมากเป็นตัวอย่างที่ดีของการลดปัญหาโลกร้อน เมื่อลดและเลิกการใช้สารเคมี เช่น ปุ๋ย และยาปราบศัตรูพืชที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์สู่บรรยากาศโลก การส่งเสริมการตลาดสีเขียวด้วยการสร้างเครือข่ายการตลาดที่กระจายศูนย์ไปสู่กลุ่มจังหวัดหรือภูมิภาค จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการขนส่งผลผลิตไปยังตลาดไกล ๆ อีกด้วย
76. ริเริ่มอย่างกล้าหาญกับระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์
เพื่อลงทุนกับทางเลือกและทางรอดในระยะยาว
77. พิจารณาใช้กฎหมายการเก็บภาษี
เป็นเครื่องมือในการควบคุมปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น การเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) สำหรับภาคอุตสาหกรรม
78. เปลี่ยนแปลงระบบการจัดเก็บภาษี
เป็นก้าวแรกของนักการเมืองและรัฐบาลที่จะเริ่มต้นพูด “ความจริงของตลาด” กับประชาชน นั่นคือการสร้างระบบการจัดเก็บภาษี ที่สามารถสะท้อนให้เห็นต้นทุนทางอ้อมจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้สังคมต้องแบกรับภาระนั้นอย่างชัดเจน เช่น ภาษีที่เรียกเก็บจากถ่านหิน ก็จะต้องรวมถึงต้นทุนในการดูแลรักษาสุขภาพที่จะต้องเพิ่มขึ้นจากปัญหามลพิษ และต้นทุนความเสียหายจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
79. ปฏิรูปภาษีสิ่งแวดล้อม
เป็นก้าวท้าทายต่อไปของนักการเมืองและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างใหญ่หลวงในการปรับเปลี่ยนและสร้างจิตสำนึกใหม่ให้สังคม แต่นี่ก็เรื่องจำเป็นที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดเก็บภาษีโดยการเรียกเก็บภาษีรายได้ให้น้อยลงหรือลดภาษีเงินได้ ในขณะที่เพิ่มการจัดเก็บภาษีสำหรับกิจกรรมที่มีผลทำลายสภาพแวดล้อมให้สูงขึ้นเป็นการชดเชย ที่จริงแล้วก็คือการเก็บภาษีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น กิจกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอน ภาษีจากกองขยะ ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ หลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปตะวันตกนำแนวคิดนี้ไปใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ปัจจุบันนี้ประเทศใหญ่ ๆ ในสหภาพยุโรปก็ร่วมดำเนินการด้วย และพบว่าการปรับเปลี่ยนระบบการจัดเก็บภาษีดังกล่าวไม่มีผลต่อการปรับเปลี่ยนระดับการจัดเก็บภาษี หากแต่มีผลกับต่อโครงสร้างของระบบภาษีเท่านั้น
80. กำหนดทิศทางประเทศให้มุ่งสู่แนวทางของการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงที่สามารถยืนหยัดอยู่รอดอย่างเข้มแข็งในสังคมโลก
เริ่มต้นด้วยการใส่ประโยคที่ว่า ประเทศไทยจะต้องยึดหลักเศรษฐกิจตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแกนหลักของการพัฒนาประเทศไว้ในรัฐธรรมนูญได้หรือไม่
ที่มา : หนังสือ 80 วิธีหยุดโลกร้อน ด้วยชีวิตพอเพียง ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, 2550