อารยธรรมตะวันตกสมัยโบราณ
1. อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
1.1 ปัจจัยทางภูมิศาสตร์กับการตั้งถิ่นฐาน
เมโสโปเตเมีย เป็นแหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของโลกในสมัยโบราณ ซึ่งกำเนิดขึ้นในบริเวณลุ่มแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำไทกริส และแม่น้ำยูเฟรติส ซึ่งเป็นบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำที่มีความอุดมสมบรูณ์ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นทะเลทรายและภูเขา บริเวณนี้แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า ชินาร์( Shina ) เกิดจากการทับถมของดินที่ไม่น้ำพัดพามาเนื่องจากในแม่น้ำไทกริส ( Tigris ) มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาซากรอสในประเทศอิหร่าน และแม่น้ำ ยูเฟรติส ( Euphrates ) มีต้นกำเนิดจากเขตภูเขาในบริเวณที่ราบสูงอาร์เมเนียในประเทศตุรกี และแม่น้ำทั้งสองนี้ไหลลงสู่ทะเลที่อ่าวเปอร์เซีย และในฤดูร้อนหิมะบนภูเขาในอาร์เมเนียละลายไหลป่าลงมาทางใต้และได้พัดพาเอาโคลนตมมาทับถมไว้ในบริเวณปากแม่น้ำทำให้พื้นดินตรงปากแม่น้ำงอกออกไปทุกปี ซึ่งทุก ๆ ศตวรรษโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 ไมล์ครึ่ง นอกจากนี้การเอ่อท่วมของน้ำนั้นไม่มีกำหนดแน่นอน จึงทำให้เกิดความเสียหายให้แก่บ้านเรือนไร่นาของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้
อาณาเขตของดินแดนเมโสโปเตเมีย
ทิศเหนือ จด ทะเลดำ และทะเลสาบแคสเปียน
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จด คาบสมุทรอาระเบีย และทะเลแดง
ทิศตะวันตก จด ที่ราบซีเรีย และ ปาเลสไตน์
ทิศตะวันออก จด ที่ราบสูงอิหร่าน
ลักษณะภูมิประเทศ
ดินแดนเมโสโปเตเมีย เป็นดินแดนที่ล้อมรอบด้วยทะเลทราย ที่มีอากาศร้อนและกันดารฝน น้ำที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นน้ำที่ได้จากแม่น้ำไทกรีส และยูเฟรติส ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะในเทือกเขาในอาร์เมเนีย ซึ่งไหลบ่าพัดพาเอาโคลนตมมาทับถมชายฝั่งทั้งสอง ทำให้บริเวณนี้มาความอุดมสมบรูณ์ แต่บางครั้งก็ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนเรือกสวนไร่นา ตลอดจนทรัพย์สินและชีวิตของผู้คน ดังนั้นการที่จะทำการเกษตรให้ได้ผลดีนั้นจะต้องมีระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ แต่จากความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มแม่น้ำนี้ทำให้มีผู้คนเข้ามาอาศัยทำมาหากินอยู่ในบริเวณนี้
ดินแดนเมโสโปเตเมียแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตอนล่างที่ติดกับอ่าวเปอร์เซีย เรียกว่า บาบิโลเนีย( Babylonia ) หรือมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ซินาร์ ( Shina ) ส่วนบริเวณตนบนเป็นดินแดนที่มีความแห้งแล้งเรียกว่า อัสซีเรีย ( Assyria ) ดินแดนบาบิโลเนียเป็นดินแดนที่มี ความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มแม่น้ำเป็นเครื่องดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาทำมาหากินในบริเวณนี้ แต่ความร้อนของอากาศก็เป็นเครื่องบั่นทอนกำลังของผู้คนที่อาศัยอยู่ทำให้คนเหล่านั้นขาดความกระตือรือร้น เมื่อมีพวกอื่นเข้ารุกรานจึงต้องหลีกทางให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ ซึ่งเมื่ออยู่ไปนาน ๆ เข้าก็ประสบภาวะเดียวกันต้องหลีกให้ผู้อื่นต่อไป พวกที่เข้ามารุกรานส่วนใหญ่มักจะมาจากบริเวณหุบเขาที่ราบสูงทางภาคเหนือ และตะวันออกซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขาหินปูนไม่อุดมสมบูรณ์เท่าเขตลุ่มแม่น้ำ และยังมีพวกที่มาจากทะเลทรายซีเรียและอารเบีย เรื่องราวของดินแดนแห่งนี้จึงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอารยธรรมของคนกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่มมิได้เป็นเรื่องราวของอารยธรรมที่สืบต่อกันเป็นเวลายาวนานดังเช่นอารยธรรมอียิปต์