กิจกรรมในการประกอบธุรกิจ(Business Functions)
กิจกรรมในการประกอบธุรกิจ (Business Functions)
กิจกรรมในการประกอบธุรกิจ สามารถจัดแบ่งได้เป็น 3 หมวดใหญ่ ๆ คือ กิจกรรมในการแลกเปลียน
กิจกรรมในการจัดจำหน่ายกิจกรรมในการอำนวยการความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งแต่ละกิจกรรมที่รายละเอียดรวม 8 ประการ ดังนี้
กิจกรรมในการแลกเปลี่ยน
1.การซื้อ (Buying) เป็นการเสาะแสวงหาสินค้าที่เป็นวัตถุดิบ อุปกรณ์ อะไหล่ ฯลฯ ตลอดจนแรงงานจากแหล่งซื้อที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงคุณภาพ ชนิด ขนาด รูปร่าง ปริมาณราคาของสินค้าหรือวัตถุดิบเหล่านี้ ตลอดจนระยะเวลาที่จะซื้อต้องตรงกับระยะเวลาที่ต้องการนำมาขายหรือนำมาผลิต เงื่อนไขในการซื้อขายที่เหมาะสมกับ การผลิต การขาย และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา
2. การขาย (Selling) เป็นหน้าที่ที่สำคัญทางการตลาด เมื่อได้ศึกษาถึงความต้องการความอยากได้และดีมานด์ในตลาดแล้ว ขั้นตอนการขายเริ่มตั้งแต่การสร้างความต้องการในสินค้าด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ แล้วเลือกวิธีการขายโดยใช้พนักงานขาย การขายผ่านพ่อค้าคนกลาง ไปรษณีย์ การตั้งเคาน์เตอร์ขายของบริษัทในห้างสรรพสินค้า การขายด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือใช้วิธีการขายหลาย ๆ แบบรวมกัน
กิจกรรมในการจัดจำหน่าย
3.การขนส่ง (Transportation) เป็นกิจกรรมการเคลื่อนย้ายสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง โดยใช้พาหนะต่าง ๆ ในการขนส่ง เช่น รถบรรทุก รถไฟ เรือ เครื่องบิน ส่งทางท่อ หรือการใช้คนส่งของขี่จักรยานยนต์ไปส่ง
ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสินค้าและตลาดรวมทั้งระยะทางและปริมาณสินค้า
4.การเก็บรักษาสินค้า (Atorage) เป็นการดูแลรักษาสินค้าที่ผลิตไว้เพื่อรอการจำหน่าย ซึ่งต้องอาศัยคลังสินค้าไว้ขายตามฤดูกาล หรือเก็บสินค้าตามจุดต่าง ๆ เพื่อความสะดวกต่อการส่ง
ให้ร้านค้าที่อยู่ห่างไกลจากโรงงาน ทั้งนี้ จะรวมถึงการบริหารสินค้าคงคลังด้วย เพื่อให้มีสินค้าในปริมาณพอเหมาะกับความต้องการของลูกค้า
กิจกรรมในการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
5. การจัดเกรดและมาตรฐานของสินค้า(Standardization and Grading) เป็นการจัดกลุ่มสินค้าให้มีขนาดและคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการซื้อขาย การกำหนดราคา และการส่งมอบสินค้าตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้ทันที
6.การเงิน(Financing) เป็นการจัดหาแหล่งเงินสด เครดิต สินเชื่อ เพื่อให้เพียงพอกับการดำเนินกิจกรรมการตลาดทั้งหมด ตั้งแต่การผลิต การซื้อวัตถุดิบ การจ้างแรงงาน การขนส่ง การเก็บรักษาสินค้า การส่งเสริมการตลาด รวมทั้งการคำนวณระยะเวลาของรายรับ-รายจ่าย ให้สมดุลย์สอดคล้องกัน การจัดการเรื่องระบบบัญชี ระบบภาษี เป็นต้น
7.การเสี่ยงภัย(Risk Taking) เป็นการรับภาระที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด ค่านิยมแฟชั่นที่เปลี่ยนไป สินค้าเสียหาย เสื่อมสภาพ ชำรุด ถูกขโมย ความเสี่ยงภัยจากการดำเนินงาน หนี้สูญ การรับประกันซ่อมแซม รับคืน เปลี่ยนสินค้า และการขาดทุนจากการดำเนินงาน ตลอดจนภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น
8.การวิจัยและหาข้อมูลทางการตลาด(Market Research or Market Information) เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการผลิต การพัฒนาสินค้า การตลาด การดำเนินงานและการควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ให้ถูกต้องตรงกับภาวะการตลาด และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปหรือเพื่อป้องกันการรุกตลาดของคู่แข่งขัน ตลอดจนแนวโน้มของตลาด