โรคฮิคิโคโมริ โรคสุดฮิตของญี่ปุ่น

โรคฮิคิโคโมริ โรคสุดฮิตของญี่ปุ่น

 

โรคฮิคิโคโมริ หมายถึงเด็กที่แยกตัวออกจากสังคม เก็บตัวอยู่เฉพาะในห้องส่วนตัว หรือในบ้านเป็นแรมเดือนหรือหลายปี
                จิตแพทย์และนักจิตวิทยาญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งให้ความเห็นว่า ฮิคิโคโมริเกิดขึ้นได้เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น เป็นปรากฏการณ์  ทางสังคม และมิใช่โรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิใช่โรคทางจิตเวช 
               

 

หากฮิคิโคโมริเกิดขึ้นได้เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีคำถามตามมาว่าญี่ปุ่นมีอะไรที่ชาติอื่นไม่มี 


                คำตอบคือ  ญี่ปุ่นมีระบบการศึกษาที่เคี่ยวเข็ญเด็กอย่างเอาเป็นเอาตาย อย่างที่เราทราบกันว่าการแข่งขันของเด็กญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาล ญี่ปุ่นมีระบบการจ้างงานตลอดชีวิต มีวัฒนธรรมการทำงานที่เรียกร้องให้คนทำงานหนักกว่า และหนักที่สุด ญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีการสื่อสารเลิศที่สุดในโลกที่สำคัญคือญี่ปุ่นผ่านความบอบช้ำอย่างรุนแรงหลังสงครามโลกครั้งที่๒
               

ทั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระบบการศึกษาแบบญี่ปุ่น และวัฒนธรรมการทำงานแบบญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและมีอยู่ในสังคมญี่ปุ่นมานานครึ่งศตวรรษแล้ว ซึ่งนักสังคมวิทยาเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นการบ่มเพาะปรากฏการณ์ฮิคิโคโมริที่สำคัญก่อนที่จะถูกกระตุ้นให้แสดงออกอย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารในช่วง๑๐ปีหลัง
               

 เหล่านี้คือสิ่งที่ชาติอื่นไม่มีและแม้ว่าระบบการศึกษาและวัฒนธรรมการทำงานอาจเป็นเรื่องที่เลียนแบบกันได้แต่ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่๒แบบที่ญี่ปุ่นเผชิญเป็นเรื่องพิเศษเฉพาะตัว
               

ครอบครัวของเด็กที่มีอาการฮิคิโคโมริมักจะอับอายที่มีเด็กเช่นนี้อยู่ในบ้าน เมื่ออับอายก็ซ่อน เมื่อซ่อนก็เท่ากับหมักหมมปัญหา ทำให้อาการของเด็กรุนแรงมากขึ้นและยากต่อการเข้าช่วยเหลือ ยิ่งไปกว่านั้นนักจิตวิทยาจำนวนหนึ่งยังเชื่อว่า สาเหตุไม่ใช่เพียงเพราะครอบครัวอับอาย แต่ที่แท้แล้วเด็กฮิคิโคโมริเกิดขึ้นได้ก็เพราะครอบครัวของเด็กเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ สนับสนุนให้เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยก็ในตอนเริ่มต้น คุณแม่จำนวนมากเริ่มต้นเรื่องนี้เพราะต้องการปกป้องลูกของตนจากการถูกรังแกที่โรงเรียน ทั้งยังเห็นว่าการที่ลูกขังตัวเองอยู่ในห้องในบ้านในสายตาก็ยังดีกว่าหายตัวไปข้างนอก
               

 ปัจจัยสำคัญอีกข้อที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ โลกปัจจุบันรวมทั้งสังคมญี่ปุ่น ไม่เว้นแม้แต่          สังคมไทย มาถึงจุดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนคนหนึ่งสามารถขังตัวเองได้อย่างสมบูรณ์

 

เด็กที่มีอาการฮิคิโคโมริมักเป็นเด็กผู้ชายและมักเป็นลูกคนโต เด็กเหล่านี้จะไม่ไปโรงเรียน ใช้ชีวิตในห้องส่วนตัวตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะนอนตอนกลางวันและตื่นตอนกลางคืน อาจจะออกจากห้องไปที่ครัวในกลางดึกบ้างเพื่อหาอาหารกิน หรือมีบ้างที่จะออกจากบ้านกลางดึกเพื่อไปซื้อเสบียงจากร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง กิจกรรมที่พวกเขาทำขณะตื่นกลางดึกนั้นคือดูทีวีไปเรื่อยๆ เซิร์ฟไปตามเน็ต เล่นเกม และอ่านการ์ตูน

               

 นอกจากนี้ เค้ายังพูดถึงกลุ่มคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับฮิคิโคโมริ นั่นคือ "โอตากุ" 


               หลายคนรู้จักคำโอตากุในความหมายของคนที่หลงใหลในการ์ตูน,เกมคอมพิวเตอร์, แฟชั่น ฯลฯ แต่ในที่นี้เค้าพยายามโยงให้เห็นว่า โอตากุถึงแม้จะมีความสนใจเฉพาะด้านแบบหยั่งลึก จนคนที่ไม่เข้าใจอาจจะไม่คบด้วย (เพราะเธอมันหมกมุ่นเหลือเกิน) แต่เหล่าโอตากุยังมีการปฏิสัมพันธ์กับคนที่คลั่งไคล้ในสิ่งที่ชอบเหมือนกัน ในขณะที่ฮิคิโคโมริจะเป็นพวกจงใจตัดตัวเองจากสังคมอย่างแท้จริง เค้ามีตัวอย่างว่า บางคนอยู่ในห้องนานถึง 6 ปี 15 ปี ก็มี

               

                แล้วคุณล่ะเป็น ฮิคิโคโมริหรือเปล่า !?

 

 

 

สร้างโดย   น.ส. กัญญามาศ เฮงษฎีกุล   โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย  

ขอขอบคุณ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ http://www.sarakadee.com/modules.php?name=Sections&op=printpage&artid=604

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 432 คน กำลังออนไลน์