• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:a5c4491dff08d7576e145d960e15c5ac' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong><img border=\"0\" width=\"80\" src=\"/files/u2454/heart7.gif\" height=\"100\" style=\"width: 28px; height: 36px\" /> <span style=\"font-size: small\">ระบบหมุนเวียนเลือด</span> <img border=\"0\" width=\"80\" src=\"/files/u2454/heart7.gif\" height=\"100\" style=\"width: 28px; height: 36px\" /></strong></span>\n</p>\n<p>\n          ระบบหมุนเวียนเลือดของคน ประกอบไปด้วย  หัวใจ ( Heart ) หลอดเลือด ( Blood  Vessel ) เลือด ( Blood ) <br />\n                1. หัวใจ ( Heart )  หัวใจของคนตั้งอยู่ในบริเวณทรวงอก ระหว่างปอดทั้งสองข้าง ค่อนไปทางซ้าย ภายในมีลักษณะ เป็นโพรงแบ่งออกเป็น 4 ห้อง  โดยแบ่งเป็นห้องบน 2  ห้อง  เรียกว่า เอเตรียม ( Atrium ) ห้องล่าง 2 ห้อง เรียกว่า เวนตริเคิล ( Ventricle )  หัวใจห้องบนซ้ายและห้องล่างซ้ายมีลิ้นไบคัสปิด ( Bicuspid ) คั่นอยู่  ส่วนห้องบนขวาและล่างขวามีลิ้นไตรคัสปิด ( Tricuspid) คั่นอยู่ ซึ่งลิ้นทั้ง 2 ทำหน้าที่คอยเปิด-ปิด เพื่อไม่ให้ ้เลือด ไหลย้อนกลับ  หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดโดยการบีบตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจเป็นจังหวะ  ทำให้เลือดไหลไปตามหลอดเลือดต่าง ๆเราสามารถตรวจสอบการทำงานของหัวใจ  โดยการจับชีพจร  อัตราการเต้นของชีพจรของคนในสภาพปกติอยู่ระหว่าง 60-80 ครั้งต่อนาที\n</p>\n<p>\n                2.  หลอดเลือด ( Blood  Vessel )  การหมุนเวียนของเลือดจากหัวใจไปและกลับจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นต้อง อาศัยหลอดเลือด ซึ่งมีอยู่ ทั่วร่างกาย  หลอดเลือดในร่างกายคนเราแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ <br />\n                     2.1  หลอดเลือดอาร์เทอรี ( Arteries )  เป็นหลอดเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดนี้เป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนมาก ยกเว้นเลือดที่ส่งไปยังปอด ซึ่งเป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มาก หลอดเลือดอาร์เทอรีมีผนังหนาไม่มีลิ้นกั้น มีความแข็งแรง  เพื่อให้มีความทนทานต่อแรงดันเลือดที่ถูกฉีดออกจากหัวใจ <br />\n                     2.2  หลอดเลือดเวน ( Vein ) เป็นหลอดเลือดที่นำเลือดจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจ เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดนี้เป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูง ยกเว้นเลือดที่นำจากปอดมายังหัวใจ จะเป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง ภายในหลอดเลือดนี้จะมีลิ้นป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ    <br />\n                     2.3  หลอดเลือดฝอย ( Capillaries ) เป็นหลอดเลือดที่มีขนาดเล็กละเอียดเป็นฝอยติดต่ออยู่ระหว่างแขนงเล็ก ๆ ของหลอดเลือดอาร์เทอรีและหลอดเลือดเวน หลอดเลือดฝอยมีผนังบางมาก เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนสารอาหาร แก๊ส และสิ่งต่าง ๆ ระหว่างเลือดกับเซลล์ของร่างกาย\n</p>\n<p>\n              3.  เลือด ( Blood ) ในร่างกายคนเรามีเลือดอยู่ประมาณร้อยละ 9-10 ของน้ำหนักตัว เลือดมีส่วนประกอบ  ที่สำคัญ 2 ส่วน คือ <br />\n                   3.1  ส่วนที่เป็นของเหลว ซึ่งเรียกว่า น้ำเลือด หรือพลาสมา ( Plasma ) มีอยู่ประมาณร้อยละ55 ของปริมาณเลือดที่ไหลอยู่ในร่างกาย  ในน้ำเลือดประกอบด้วยน้ำ ร้อยละ 91 นอกนั้นเป็นสารอื่น ๆ ได้แก่ สารอาหารต่าง ๆ  เอนไซม์  ฮอร์โมน และแก๊ส รวมทั้งของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ เช่น ยูเรีย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์  เป็นต้น น้ำเลือดทำหน้าที่ลำเลียงสารอาหาร  เอนไซม์ ฮอร์โมน และแก๊สกลับไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย และลำเลียงของเสียต่าง ๆ มายังปอดเพื่อขับออกจากร่างกาย </p>\n<p>                  3.2  ส่วนที่เป็นของแข็ง ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือด และเกล็ดเลือด ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 45 ของปริมาณเลือดทั้งหมด </p>\n<p>                         3.2.1  เซลล์เม็ดเลือดมีอยู่ 2 ชนิด คือ <br />\n                                  1) เซลล์เม็ดเลือดแดง ( Red Blood Cell ) มีรูปร่างค่อนข้างกลมแบน ตรงกลางบุ๋มเข้าหากัน เมื่อโตเต็มที่ไม่มีนิวเคลียส ส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นสารประเภทโปรตีนที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน ซึ่งมีเหล็กเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ   ฮีโมโกลบิน มีสมบัต ิในการรวมตัว กับแก๊ส ออกซิเจน ได้ดีมาก  เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ลำเลียงแก๊สออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และลำเลียงแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กลับไปสู่ปอดเพื่อทำการแลกเปลี่ยนแก๊ส  เซลล์เม็ดเลือดแดงสร้างที่ไขกระดูก และเซลล์เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 110-120 วัน หลังจากนั้นจะถูกส่งไปทำลายที่ตับและม้าม<br />\n                                  2)  เซลล์เม็ดเลือดขาว ( White Blood cell ) มีรูปร่างกลม ขนาดใหญ่กว่าเซลล์เม็ดเลือดแดง ไม่มีนิวเคลียส   เซลล์เม็ดเลือดขาว ในร่างกาย มีอยู่หลายชนิด ทำหน้าที่ต่อต้านและทำลาย เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ที่เข้าสู่ร่างกาย   แหล่งที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวได้แก่ ม้าม ไขกระดูก และต่อมน้ำเหลือง  เซลล์เม็ดเลือดขาวมีอายุประมาณ 7-14 วัน ก็จะถูกทำลาย <br />\n                         3.2.2  เกล็ดเลือด ( Blood Platelet ) เป็นส่วนประกอบของเลือดที่ไม่ใช่เซลล์ มีขนาดเล็กมาก ไม่มีสี ไม่มีนิวเคลียส ทำหน้าที่ช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเมื่อเลือดออกสู้ภายนอกร่างกาย และช่วยห้ามเลือดในกรณีที่เกิดบาดแผล โดยจับรวมตัวกันเป็นกระจุกร่างแหอุดรูของหลอดเลือดฝอยทำให้เลือดหยุดไหล แหล่งที่สร้างเก,ดเลือดได้แก่ ไขกระดูก เกล็ดเลือดมีอายุ 4 วันเท่านั้นก็จะถูกทำลาย\n</p>\n<p>\n   <br />\n  รูปภาพแสดง น้ำเลือด   เซลล์เม็ดเลือดแดง  เซลล์เม็ดเลือดขาว\n</p>\n<p>\n      \n</p>\n<p>\n        วัคซีน  เป็นเชื้อโรคที่ตายหรืออ่อนฤทธิ์ ฉีดเข้าร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้านเชื้อโรคนั้น ๆ <br />\n        เซรุ่ม คือ  แอนติบอดีที่ได้จากคนหรืสัตว์ซึ่งการให้เซรุ่มจะให้กับร่างกายในกรณีที่โรคนั้นแสดงอาการอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไม่ทันและหรือไม่มีภูมิคุ้มกันมาก่อน\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<strong><span style=\"color: #ff0000\">การหมุนเวียนเลือดในร่างกาย</span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"80\" src=\"/files/u2454/heart7.gif\" height=\"100\" />\n</p>\n', created = 1726805382, expire = 1726891782, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:a5c4491dff08d7576e145d960e15c5ac' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e28880473a5fb8c390cbeb8dd11a8a65' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nอาหารที่ย่อยมีโมเลกุล เล็กๆ แล้วจะมีการนำไปสู่เซลล์ต่างๆๆ โดย\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1726805382, expire = 1726891782, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e28880473a5fb8c390cbeb8dd11a8a65' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ระบบหมุนเวียนเลือดและก๊าซ

รูปภาพของ anuradee14

 ระบบหมุนเวียนเลือด

          ระบบหมุนเวียนเลือดของคน ประกอบไปด้วย  หัวใจ ( Heart ) หลอดเลือด ( Blood  Vessel ) เลือด ( Blood )
                1. หัวใจ ( Heart )  หัวใจของคนตั้งอยู่ในบริเวณทรวงอก ระหว่างปอดทั้งสองข้าง ค่อนไปทางซ้าย ภายในมีลักษณะ เป็นโพรงแบ่งออกเป็น 4 ห้อง  โดยแบ่งเป็นห้องบน 2  ห้อง  เรียกว่า เอเตรียม ( Atrium ) ห้องล่าง 2 ห้อง เรียกว่า เวนตริเคิล ( Ventricle )  หัวใจห้องบนซ้ายและห้องล่างซ้ายมีลิ้นไบคัสปิด ( Bicuspid ) คั่นอยู่  ส่วนห้องบนขวาและล่างขวามีลิ้นไตรคัสปิด ( Tricuspid) คั่นอยู่ ซึ่งลิ้นทั้ง 2 ทำหน้าที่คอยเปิด-ปิด เพื่อไม่ให้ ้เลือด ไหลย้อนกลับ  หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดโดยการบีบตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจเป็นจังหวะ  ทำให้เลือดไหลไปตามหลอดเลือดต่าง ๆเราสามารถตรวจสอบการทำงานของหัวใจ  โดยการจับชีพจร  อัตราการเต้นของชีพจรของคนในสภาพปกติอยู่ระหว่าง 60-80 ครั้งต่อนาที

                2.  หลอดเลือด ( Blood  Vessel )  การหมุนเวียนของเลือดจากหัวใจไปและกลับจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นต้อง อาศัยหลอดเลือด ซึ่งมีอยู่ ทั่วร่างกาย  หลอดเลือดในร่างกายคนเราแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
                     2.1  หลอดเลือดอาร์เทอรี ( Arteries )  เป็นหลอดเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดนี้เป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนมาก ยกเว้นเลือดที่ส่งไปยังปอด ซึ่งเป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มาก หลอดเลือดอาร์เทอรีมีผนังหนาไม่มีลิ้นกั้น มีความแข็งแรง  เพื่อให้มีความทนทานต่อแรงดันเลือดที่ถูกฉีดออกจากหัวใจ
                     2.2  หลอดเลือดเวน ( Vein ) เป็นหลอดเลือดที่นำเลือดจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจ เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดนี้เป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูง ยกเว้นเลือดที่นำจากปอดมายังหัวใจ จะเป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง ภายในหลอดเลือดนี้จะมีลิ้นป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ   
                     2.3  หลอดเลือดฝอย ( Capillaries ) เป็นหลอดเลือดที่มีขนาดเล็กละเอียดเป็นฝอยติดต่ออยู่ระหว่างแขนงเล็ก ๆ ของหลอดเลือดอาร์เทอรีและหลอดเลือดเวน หลอดเลือดฝอยมีผนังบางมาก เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนสารอาหาร แก๊ส และสิ่งต่าง ๆ ระหว่างเลือดกับเซลล์ของร่างกาย

              3.  เลือด ( Blood ) ในร่างกายคนเรามีเลือดอยู่ประมาณร้อยละ 9-10 ของน้ำหนักตัว เลือดมีส่วนประกอบ  ที่สำคัญ 2 ส่วน คือ
                   3.1  ส่วนที่เป็นของเหลว ซึ่งเรียกว่า น้ำเลือด หรือพลาสมา ( Plasma ) มีอยู่ประมาณร้อยละ55 ของปริมาณเลือดที่ไหลอยู่ในร่างกาย  ในน้ำเลือดประกอบด้วยน้ำ ร้อยละ 91 นอกนั้นเป็นสารอื่น ๆ ได้แก่ สารอาหารต่าง ๆ  เอนไซม์  ฮอร์โมน และแก๊ส รวมทั้งของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ เช่น ยูเรีย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์  เป็นต้น น้ำเลือดทำหน้าที่ลำเลียงสารอาหาร  เอนไซม์ ฮอร์โมน และแก๊สกลับไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย และลำเลียงของเสียต่าง ๆ มายังปอดเพื่อขับออกจากร่างกาย 

                  3.2  ส่วนที่เป็นของแข็ง ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือด และเกล็ดเลือด ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 45 ของปริมาณเลือดทั้งหมด

                         3.2.1  เซลล์เม็ดเลือดมีอยู่ 2 ชนิด คือ
                                  1) เซลล์เม็ดเลือดแดง ( Red Blood Cell ) มีรูปร่างค่อนข้างกลมแบน ตรงกลางบุ๋มเข้าหากัน เมื่อโตเต็มที่ไม่มีนิวเคลียส ส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นสารประเภทโปรตีนที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน ซึ่งมีเหล็กเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ   ฮีโมโกลบิน มีสมบัต ิในการรวมตัว กับแก๊ส ออกซิเจน ได้ดีมาก  เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ลำเลียงแก๊สออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และลำเลียงแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กลับไปสู่ปอดเพื่อทำการแลกเปลี่ยนแก๊ส  เซลล์เม็ดเลือดแดงสร้างที่ไขกระดูก และเซลล์เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 110-120 วัน หลังจากนั้นจะถูกส่งไปทำลายที่ตับและม้าม
                                  2)  เซลล์เม็ดเลือดขาว ( White Blood cell ) มีรูปร่างกลม ขนาดใหญ่กว่าเซลล์เม็ดเลือดแดง ไม่มีนิวเคลียส   เซลล์เม็ดเลือดขาว ในร่างกาย มีอยู่หลายชนิด ทำหน้าที่ต่อต้านและทำลาย เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ที่เข้าสู่ร่างกาย   แหล่งที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวได้แก่ ม้าม ไขกระดูก และต่อมน้ำเหลือง  เซลล์เม็ดเลือดขาวมีอายุประมาณ 7-14 วัน ก็จะถูกทำลาย
                         3.2.2  เกล็ดเลือด ( Blood Platelet ) เป็นส่วนประกอบของเลือดที่ไม่ใช่เซลล์ มีขนาดเล็กมาก ไม่มีสี ไม่มีนิวเคลียส ทำหน้าที่ช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเมื่อเลือดออกสู้ภายนอกร่างกาย และช่วยห้ามเลือดในกรณีที่เกิดบาดแผล โดยจับรวมตัวกันเป็นกระจุกร่างแหอุดรูของหลอดเลือดฝอยทำให้เลือดหยุดไหล แหล่งที่สร้างเก,ดเลือดได้แก่ ไขกระดูก เกล็ดเลือดมีอายุ 4 วันเท่านั้นก็จะถูกทำลาย

  
  รูปภาพแสดง น้ำเลือด   เซลล์เม็ดเลือดแดง  เซลล์เม็ดเลือดขาว

      

        วัคซีน  เป็นเชื้อโรคที่ตายหรืออ่อนฤทธิ์ ฉีดเข้าร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้านเชื้อโรคนั้น ๆ
        เซรุ่ม คือ  แอนติบอดีที่ได้จากคนหรืสัตว์ซึ่งการให้เซรุ่มจะให้กับร่างกายในกรณีที่โรคนั้นแสดงอาการอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไม่ทันและหรือไม่มีภูมิคุ้มกันมาก่อน


การหมุนเวียนเลือดในร่างกาย

สร้างโดย: 
นางอารีย์ จันทร โรงเรียนปิยะบุตร์

อาหารที่ย่อยมีโมเลกุล เล็กๆ แล้วจะมีการนำไปสู่เซลล์ต่างๆๆ โดย

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 514 คน กำลังออนไลน์