• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:80e17c98d812fe92ee070f8f22ef53b1' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><strong>ประวัติพระสมณวัตรวิมล</strong></p>\n<p class=\"MsoNormal\" style=\"text-align: center;\" align=\"center\"><img src=\"https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/v/t34/1551620_638824769518604_2070282612_n.jpg?oh=fe94a0f9f3664e22d13cf15a74525455&amp;oe=52E3B6A8&amp;__gda__=1390663271_4301a29b002657555fe5d93c8ca98aca\" alt=\"\" width=\"342\" height=\"608\" />&nbsp;&nbsp;</p>\n<p class=\"MsoNormal\" style=\"text-align: center;\" align=\"center\"><strong>ผู้ก่อตั้งโรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล”</strong></p>\n<p class=\"MsoNormal\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; หลวงพ่อ แทนนามจริงของท่าน ชาติภูมิเดิม นามเดิมของหลวงพ่อ คือ “คำ” นามสกุล “นิลพันธ์” ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี แรม 9 ค่ำ เดือน 11 &nbsp;ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม &nbsp;&nbsp;2446&nbsp;&nbsp; &nbsp;บิดาของท่านชื่อ “เหมือน” เป็นคนมีรกรากดั้งเดิมจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมแม่ชื่อ “ขลิบ” เป็นคนเสาไห้นี่เอง&nbsp; อาชีพเดิมของโยมบิดา-มารดา คือ ทำนา มีบ้านอยู่ที่บ้านไผ่ล้อมน้อย</p>\n<p class=\"MsoNormal\"><strong>การศึกษาเบื้องต้น </strong></p>\n<p class=\"MsoNormal\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ในวัยเด็กท่านก็ช่วยเหลือพี่ทำงานที่บ้านเล็กน้อยพออายุ 10 ขวบ ท่านก็ไปอยู่วัดไก้จ้นโดยไปเรียนหนังสืออยู่กับหลวงลุงของท่าน คือ พระอาจารย์กลุ่ม (พี่โยมบิดาของหลวงพ่อ)ซี่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดนี้และสอนหนังอยู่กับให้แก่เด็กอีกด้ว หลวงพ่อเรียนภาษาไทยอยู่ 2 ปี ก็จบมูลบทบรรพกิงและปฐม ก.กา แล้วก็กลับมาอยู่บ้านตามเดิม</p>\n<p class=\"MsoNormal\"><strong>ชีวิตในวัยหนุ่ม </strong></p>\n<p class=\"MsoNormal\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; เมื่อเรียนจบจากโรงเรียนประถม หลวงพ่อก็ออกมาช่วยโยมพี่ทำนา หลวงพ่อเล่าว่าตัวท่านตอนนั้นไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำงานหนักไม่ค่อยไหว ไถนาบางทีเหวี่ยงหางไถ่ก็ล้มตัวท่านเองไม่ชอบเที่ยว ประการหนึ่งทั้งโยมพ่อโยมแม่คอยห้ามเสมอ ด้วยเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อนแก่ตัวเองและครอบครัว</p>\n<p class=\"MsoNormal\"><strong>การศึกษา</strong></p>\n<p class=\"MsoNormal\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พระภิกษุคำ มาคโธ หรือหลวงพ่อของเราเมื่อบวชแล้วพรรษาแรกท่านก็เรียนนักธรรมตรีที่วัดนี้โดยมีพระครูสุประดิษฐ์ศิลคุณ (ลี) เป็นผู้สอนและท่านก็สอบนักธรรมตรีได้ในพรรษานี้ ในพรรษาที่ 2 (พ.ศ.2467) หลวงพ่อก็ได้เรียนนักธรรมชั้นโท โดยมีพระครูสังฆวิชิต (ทองคำ) เป็นผู้สอน และในพรรษานั้นท่านก็สอบนักธรรมโทได้ ในพรรษาที่ 3 (พ.ศ. 2468) หลวงพ่อเรียนหนังธรรมชั้นเอก โดยมีพระครูสุประดิษฐ์ศิลคุณเป็นผู้สอน ในพรรษานั้นหลวงพ่อก็มิได้เรียนนักธรรมเอกอย่างเดียวแต่ยังเรียนวิชาช่างด้วย คือ ช่างไม้ &nbsp;ช่างปูน&nbsp; ช่างเหล็ก&nbsp; โดยท่านเจ้าคุณโตเป็นผู้สอนนอกจากนั้น หลวงพ่อยังเรียนบาลีอยู่เป็นเวลา 5 ปี โดยมีพระมหามณี&nbsp; สุวโจ (พระธรรมรัตนกร เจ้าคณะจังหวักสระบุรีปัจจุบัน) และพระมหาแดง (พระครูเกษมสุนันทคุณ) เป็นครูสอน หลวงพ่อเคยสอบบาลี 1 ครั้ง โดยสอบที่วัดเสนาสน์ จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะสมัยนั้นสนามสอบสอบบาลีอยู่ที่นั่น แต่หลวงพ่อก็สอบไม่ได้ เลยไม่ได้เป็น “พระมหา” กับเขามาจนบัดนี้ หลวงพ่อเรียนอยู่วัดสมุหประดิษฐารามเป็นเวลา 11 พรรษา (2466-2476) แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวนดอกไม้ เพราะในขณะนั้นพระอาจารย์ตุ่นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกไม้ได้ลาสิกขาไปประกอบด้วยระยะนั้นวัดสวนดอกไม้กำลังสร้างกุฏิค้างอยู่ 2 หลัง ชาวบ้านสวนดอกไม้จึงนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2477 เมื่อหลวงพ่อไปอยู่วัดสวนดอกไม้ ก็เริ่มก่อสร้างกุฏิต่อจากที่ค้างไว้จนเสร็จทั้ง 2 หลัง สิ้นเงินค่าก่อสร้างประมาณ 32,000 บาท โดยมีคุณหญิงเปี่ยม (ภรรยาหลวงอดุลย์ เดชจรัส อดีตอธิบดีกรมตำรวจ) &nbsp;&nbsp;&nbsp;เป็นผู้สนับสนุนการก่อสร้าง</p>\n<p>&nbsp;</p>\n', created = 1728246295, expire = 1728332695, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:80e17c98d812fe92ee070f8f22ef53b1' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ประวัติพระสมณวัตรวิมล

รูปภาพของ Sujittra Promnang

 

ประวัติพระสมณวัตรวิมล

  

ผู้ก่อตั้งโรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล”

                 หลวงพ่อ แทนนามจริงของท่าน ชาติภูมิเดิม นามเดิมของหลวงพ่อ คือ “คำ” นามสกุล “นิลพันธ์” ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี แรม 9 ค่ำ เดือน 11  ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม   2446    บิดาของท่านชื่อ “เหมือน” เป็นคนมีรกรากดั้งเดิมจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมแม่ชื่อ “ขลิบ” เป็นคนเสาไห้นี่เอง  อาชีพเดิมของโยมบิดา-มารดา คือ ทำนา มีบ้านอยู่ที่บ้านไผ่ล้อมน้อย

การศึกษาเบื้องต้น

              ในวัยเด็กท่านก็ช่วยเหลือพี่ทำงานที่บ้านเล็กน้อยพออายุ 10 ขวบ ท่านก็ไปอยู่วัดไก้จ้นโดยไปเรียนหนังสืออยู่กับหลวงลุงของท่าน คือ พระอาจารย์กลุ่ม (พี่โยมบิดาของหลวงพ่อ)ซี่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดนี้และสอนหนังอยู่กับให้แก่เด็กอีกด้ว หลวงพ่อเรียนภาษาไทยอยู่ 2 ปี ก็จบมูลบทบรรพกิงและปฐม ก.กา แล้วก็กลับมาอยู่บ้านตามเดิม

ชีวิตในวัยหนุ่ม

               เมื่อเรียนจบจากโรงเรียนประถม หลวงพ่อก็ออกมาช่วยโยมพี่ทำนา หลวงพ่อเล่าว่าตัวท่านตอนนั้นไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำงานหนักไม่ค่อยไหว ไถนาบางทีเหวี่ยงหางไถ่ก็ล้มตัวท่านเองไม่ชอบเที่ยว ประการหนึ่งทั้งโยมพ่อโยมแม่คอยห้ามเสมอ ด้วยเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อนแก่ตัวเองและครอบครัว

การศึกษา

                 พระภิกษุคำ มาคโธ หรือหลวงพ่อของเราเมื่อบวชแล้วพรรษาแรกท่านก็เรียนนักธรรมตรีที่วัดนี้โดยมีพระครูสุประดิษฐ์ศิลคุณ (ลี) เป็นผู้สอนและท่านก็สอบนักธรรมตรีได้ในพรรษานี้ ในพรรษาที่ 2 (พ.ศ.2467) หลวงพ่อก็ได้เรียนนักธรรมชั้นโท โดยมีพระครูสังฆวิชิต (ทองคำ) เป็นผู้สอน และในพรรษานั้นท่านก็สอบนักธรรมโทได้ ในพรรษาที่ 3 (พ.ศ. 2468) หลวงพ่อเรียนหนังธรรมชั้นเอก โดยมีพระครูสุประดิษฐ์ศิลคุณเป็นผู้สอน ในพรรษานั้นหลวงพ่อก็มิได้เรียนนักธรรมเอกอย่างเดียวแต่ยังเรียนวิชาช่างด้วย คือ ช่างไม้  ช่างปูน  ช่างเหล็ก  โดยท่านเจ้าคุณโตเป็นผู้สอนนอกจากนั้น หลวงพ่อยังเรียนบาลีอยู่เป็นเวลา 5 ปี โดยมีพระมหามณี  สุวโจ (พระธรรมรัตนกร เจ้าคณะจังหวักสระบุรีปัจจุบัน) และพระมหาแดง (พระครูเกษมสุนันทคุณ) เป็นครูสอน หลวงพ่อเคยสอบบาลี 1 ครั้ง โดยสอบที่วัดเสนาสน์ จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะสมัยนั้นสนามสอบสอบบาลีอยู่ที่นั่น แต่หลวงพ่อก็สอบไม่ได้ เลยไม่ได้เป็น “พระมหา” กับเขามาจนบัดนี้ หลวงพ่อเรียนอยู่วัดสมุหประดิษฐารามเป็นเวลา 11 พรรษา (2466-2476) แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวนดอกไม้ เพราะในขณะนั้นพระอาจารย์ตุ่นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกไม้ได้ลาสิกขาไปประกอบด้วยระยะนั้นวัดสวนดอกไม้กำลังสร้างกุฏิค้างอยู่ 2 หลัง ชาวบ้านสวนดอกไม้จึงนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2477 เมื่อหลวงพ่อไปอยู่วัดสวนดอกไม้ ก็เริ่มก่อสร้างกุฏิต่อจากที่ค้างไว้จนเสร็จทั้ง 2 หลัง สิ้นเงินค่าก่อสร้างประมาณ 32,000 บาท โดยมีคุณหญิงเปี่ยม (ภรรยาหลวงอดุลย์ เดชจรัส อดีตอธิบดีกรมตำรวจ)    เป็นผู้สนับสนุนการก่อสร้าง

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 405 คน กำลังออนไลน์