• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:2aa9df98a6539111fd938bc07c263a2e' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p style=\"text-align: center;\">&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;<img src=\"/files/u100208/1175.gif\" alt=\"\" width=\"600\" height=\"109\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100208/uu.jpg\" alt=\"\" width=\"474\" height=\"279\" /></p>\n<h2 style=\"text-align: center;\">&nbsp;</h2>\n<h2 style=\"text-align: center;\"><strong style=\"text-align: left;\"><strong><img src=\"/files/u100208/hh.jpg\" alt=\"\" width=\"105\" height=\"79\" />&nbsp;&nbsp;</strong><img title=\"Cool\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cool.gif\" alt=\"Cool\" border=\"0\" /><span style=\"color: #008000;\">ต้นดอกแก้ว</span><img title=\"Cool\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cool.gif\" alt=\"Cool\" border=\"0\" />&nbsp;&nbsp;<img src=\"/files/u100208/hh.jpg\" alt=\"\" width=\"104\" height=\"78\" /></strong><a style=\"font-family: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: 12px; font-weight: normal;\" href=\"http://www.thaigoodview.com/node/162687\"><br /></a></h2>\n<h2 style=\"text-align: center;\">&nbsp;</h2>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp; ต้นดอกแก้วในโรงเรียนผดุงนารี อยู่ที่หน้าอาคาร 4 วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของดอกแก้ว การดูและรักษา ซึ่งดอกแก้วมีกลิ่นหอม ถ้าเราปลูกรอบบ้านก็จะมีกลิ่นหอมลอยมาตามลม เช่นกัน ช่วยให้โรงเรียนร่มรื่นขึ้นเยอะเลย<img style=\"color: #000000; font-family: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: 12px; font-weight: normal;\" title=\"Tongue Out\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-tongue-out.gif\" alt=\"Tongue Out\" border=\"0\" /><img style=\"color: #000000; font-family: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: 12px; font-weight: normal;\" title=\"Cool\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cool.gif\" alt=\"Cool\" border=\"0\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100208/g1_0.jpg\" alt=\"\" width=\"384\" height=\"288\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp; <span style=\"color: #33cccc;\">&nbsp; &nbsp;ที่มา :&nbsp;http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/101623.jpg</span></p>\n<h6 style=\"text-align: left;\">&nbsp; <img src=\"/files/u100208/hd.jpg\" alt=\"\" width=\"79\" height=\"92\" />&nbsp;<span style=\"color: #ff6600;\"> ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ &nbsp;&nbsp;<img src=\"/files/u100208/hd.jpg\" alt=\"\" width=\"82\" height=\"88\" /></span></h6>\n<p><strong>ชื่อวงศ์:</strong> &nbsp;RUTACEAE</p>\n<p><strong>ชื่อสามัญ</strong>: &nbsp;Orang Jessamine, China Box Tree, Andaman Satinwood, Chinese Box-woodชื่อพื้นเมืองอื่น: กะมูนิง (มลายู ปัตตานี) แก้วขาว (กลาง) แก้วขี้ไก่ (ยะลา) แก้วพริก (เหนือ) แก้วลาย (สระบุรี) จ๊าพริก (ลำปาง) และ ตะไหลแก้ว (เหนือ)ถิ่นกำเนิด: &nbsp;จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย และภูมิภาคอินโดจีน</p>\n<p><strong>แหล่งที่พบ</strong>: &nbsp;ทุกภูมิภาคลักษณะทั่วไป:</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; ต้น &nbsp;ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ สีเขียวเข้ม เปลือกต้น สีขาว</p>\n<p>เทา แตกเป็นร่องตามยาว</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; ใบ &nbsp;ประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ มีใบย่อย 5-9 ใบ เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่ สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบย่อยที่ปลายก้านใบรูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนแหลมหรือสอบ ขอบเป็นคลื่นหรือหยักมนตื้นๆ โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ใบมีต่อมน้ำมัน</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; ดอก &nbsp;ช่อดอกสั้น ออกตามง่ามใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม &nbsp; กลีบเลี้ยง 5 กลีบ &nbsp; กลีบเลี้ยง ขนาดเล็ก ปลายมน กลีบดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาวประมาณ1.2 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานรองดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้แบน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยาวประมาณ 0.7 ซม. ยอดเกสรรูปโล่ห์ ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; ฝัก/ผล &nbsp;รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 5-8 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ผลแก่สีแดงอมส้ม ต่อมน้ำมันเห็นได้ชัด</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; เมล็ด &nbsp;รูปไข่ มีขนหนาและเหนียวหุ้มโดยรอบเมล็ด</p>\n<p>ฤดูกาลออกดอก: &nbsp;ตลอดปี โดยเฉพาะฤดูฝนวิธีการปลูก สำหรับการปลูกในแปลง เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 &nbsp;ผสมดินปลูก การปลูกแบบนี้สามารถปลูกเป็นกลุ่มหรือเป็นแถวได้ และสามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ตามความต้องการส่วนการปลูกในกระถาง เพื่อประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12 - 16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก แนะควรเปลี่ยนกระถาง 1 - 2 ปี/ ครั้ง หรือตามความเหมาะสมของการเจริญเติบโตของทรงพุ่ม เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไปการดูแลรักษา &nbsp;ต้นแก้วต้องการแสงแดดจัด และควรรดน้ำอย่างน้อย 3 - 5 วัน/ครั้ง ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 - 2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 - 6 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร 15-15-15 &nbsp;อัตรา 200- 300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 - 6 ครั้ง</p>\n<p>การใช้ประโยชน์:</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; - &nbsp; &nbsp;ไม้ประดับ</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; - &nbsp; &nbsp;สมุนไพร</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; - &nbsp; &nbsp;เนื้อไม้มีลายมันสวยงาม มีน้ำมันในเนื้อไม้ นิยมใช้ทำเครื่องตกแต่งในบ้าน ด้ามเครื่องมือ ด้ามปากกา เครื่องดนตรี ได้แก่ ซอด้วง ซออู้</p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100208/51_2.gif\" alt=\"\" width=\"403\" height=\"82\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">\n</p>', created = 1715810830, expire = 1715897230, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:2aa9df98a6539111fd938bc07c263a2e' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ต้นดอกแก้ววววววว

รูปภาพของ pdn32711

           

 

 

  Coolต้นดอกแก้วCool  

 

  ต้นดอกแก้วในโรงเรียนผดุงนารี อยู่ที่หน้าอาคาร 4 วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของดอกแก้ว การดูและรักษา ซึ่งดอกแก้วมีกลิ่นหอม ถ้าเราปลูกรอบบ้านก็จะมีกลิ่นหอมลอยมาตามลม เช่นกัน ช่วยให้โรงเรียนร่มรื่นขึ้นเยอะเลยTongue OutCool

 

 

     ที่มา : http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/101623.jpg

    ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์   

ชื่อวงศ์:  RUTACEAE

ชื่อสามัญ:  Orang Jessamine, China Box Tree, Andaman Satinwood, Chinese Box-woodชื่อพื้นเมืองอื่น: กะมูนิง (มลายู ปัตตานี) แก้วขาว (กลาง) แก้วขี้ไก่ (ยะลา) แก้วพริก (เหนือ) แก้วลาย (สระบุรี) จ๊าพริก (ลำปาง) และ ตะไหลแก้ว (เหนือ)ถิ่นกำเนิด:  จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย และภูมิภาคอินโดจีน

แหล่งที่พบ:  ทุกภูมิภาคลักษณะทั่วไป:

    ต้น  ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ สีเขียวเข้ม เปลือกต้น สีขาว

เทา แตกเป็นร่องตามยาว

    ใบ  ประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ มีใบย่อย 5-9 ใบ เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่ สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบย่อยที่ปลายก้านใบรูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนแหลมหรือสอบ ขอบเป็นคลื่นหรือหยักมนตื้นๆ โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ใบมีต่อมน้ำมัน

    ดอก  ช่อดอกสั้น ออกตามง่ามใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม   กลีบเลี้ยง 5 กลีบ   กลีบเลี้ยง ขนาดเล็ก ปลายมน กลีบดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาวประมาณ1.2 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานรองดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้แบน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยาวประมาณ 0.7 ซม. ยอดเกสรรูปโล่ห์ ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร

    ฝัก/ผล  รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 5-8 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ผลแก่สีแดงอมส้ม ต่อมน้ำมันเห็นได้ชัด

    เมล็ด  รูปไข่ มีขนหนาและเหนียวหุ้มโดยรอบเมล็ด

ฤดูกาลออกดอก:  ตลอดปี โดยเฉพาะฤดูฝนวิธีการปลูก สำหรับการปลูกในแปลง เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2  ผสมดินปลูก การปลูกแบบนี้สามารถปลูกเป็นกลุ่มหรือเป็นแถวได้ และสามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ตามความต้องการส่วนการปลูกในกระถาง เพื่อประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12 - 16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก แนะควรเปลี่ยนกระถาง 1 - 2 ปี/ ครั้ง หรือตามความเหมาะสมของการเจริญเติบโตของทรงพุ่ม เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไปการดูแลรักษา  ต้นแก้วต้องการแสงแดดจัด และควรรดน้ำอย่างน้อย 3 - 5 วัน/ครั้ง ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 - 2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 - 6 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร 15-15-15  อัตรา 200- 300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 - 6 ครั้ง

การใช้ประโยชน์:

    -    ไม้ประดับ

    -    สมุนไพร

    -    เนื้อไม้มีลายมันสวยงาม มีน้ำมันในเนื้อไม้ นิยมใช้ทำเครื่องตกแต่งในบ้าน ด้ามเครื่องมือ ด้ามปากกา เครื่องดนตรี ได้แก่ ซอด้วง ซออู้

 

 

รูปภาพของ ssspoonsak

เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทำการคัดลอกมาแล้วไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล

กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ชัดเจนด้วย ดูรูปแบบการทำเอกสารอ้างอิงได้ที่ http://www.thaigoodview.com/node/99177

มิฉะนั้นทางเว็บ thaigoodview.com จำเป็นต้องลบข้อมูลทั้งหมดออก

ขอขอบคุณ

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล

ผู้ดูแลเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิว

 


ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่าคัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

รูปภาพของ ssspoonsak

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 187 คน กำลังออนไลน์