• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:dd573041375386fec98ebdee362cd575' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>หน่วยประมวลผลกลาง&nbsp;(อังกฤษ:&nbsp;central processing unit) หรือย่อว่า&nbsp;ซีพียู&nbsp;(CPU) เป็นวงจรอิเลคทรอนิกส์ที่ทำงาน หรือประมวลผล ตามชุดของคำสั่งเครื่องจากซอฟต์แวร์&nbsp;คำนี้เริ่มใช้ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ต้นศตวรรษ 1960s</p>\n<p>หน่วยประมวลผลเปรียบเสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ในการทำหน้าที่ตัดสินใจหรือคำนวณ จากคำสั่งที่ได้รับมา เช่น การเปรียบเทียบ การกระทำการทางคณิตศาสตร์ ฯลฯ</p>\n<p>โดยมีกระบวนการพื้นฐานคือ</p>\n<ul>\n<li>อ่านชุดคำสั่ง (fetch)</li>\n<li>ตีความชุดคำสั่ง (decode)</li>\n<li>ประมวลผลชุดคำสั่ง (execute)</li>\n<li>อ่านข้อมูลจากหน่วยความจำ (memory)</li>\n<li>เขียนข้อมูล/ส่งผลการประมวลกลับ (write back)</li>\n</ul>\n<p>สถาปัตยกรรมของหน่วยประมวลผลกลาง ประกอบไปด้วย&nbsp;ส่วนควบคุมการประมวลผล&nbsp;(control unit) และ&nbsp;ส่วนประมวลผล&nbsp;(execution unit) และจะเก็บข้อมูลระหว่างการคำนวณ ไว้ในระบบเรจิสเตอร์</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<h2>การทำงานของหน่วยประมวลผลกลาง</h2>\n<div>\n<div><img src=\"http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/2c/Nopipeline.png/300px-Nopipeline.png\" alt=\"\" width=\"300\" height=\"54\" />\n<p>&nbsp;</p>\n<div>\n<div><img src=\"http://bits.wikimedia.org/static-1.21wmf8/skins/common/images/magnify-clip.png\" alt=\"\" width=\"15\" height=\"11\" /></div>\n<p>การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบบพื้นฐาน</p>\n</div>\n</div>\n</div>\n<p>การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกตามหน้าที่ได้เป็นห้ากลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ โดยทำงานทีละคำสั่ง จากคำสั่งที่เรียงลำดับกันไว้ตอนที่เขียนโปรแกรม</p>\n<ul>\n<li>Fetch – การอ่านชุดคำสั่งขึ้นมา 1 คำสั่งจากโปรแกรม ในรูปของระหัสเลขฐานสอง (Binary Code from on-off of BIT)</li>\n<li>Decode – การตีความ 1 คำสั่งนั้นด้วยวงจรถอดรหัส (Decoder circuit) ตามจำนวนหลัก (BIT) ว่ารหัสนี้จะให้วงจรอื่นใดทำงานด้วยข้อมูลที่ใด</li>\n<li>Execute – การทำงานตาม 1 คำสั่งนั้น คือ วงจรใดในไมโครโปรเซสเซอร์ทำงาน เช่น วงจรบวก วงจรลบ วงจรเปรียบเทียบ วงจรย้ายข้อมูล ฯลฯ</li>\n<li>Memory – การติดต่อกับหน่วยความจำ การใช้ข้อมูที่อยู่ในหน่วยจำชั่วคราว (RAM, Register) มาใช้ในคำสั่งนั้นโดยอ้างที่อยู่ (Address)</li>\n<li>Write Back – การเขียนข้อมูลกลับ โดยมีหน่วยจำ Register ช่วยเก็บที่อยู่ของคำสั่งต่อไป ภายหลังมีคำสั่งกระโดดบวกลบที่อยู่</li>\n</ul>\n<h3>[แก้]การทำงานแบบขนานในระดับคำสั่ง (ILP)</h3>\n<div>\n<div><img src=\"http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/21/Fivestagespipeline.png/300px-Fivestagespipeline.png\" alt=\"\" width=\"300\" height=\"87\" />\n<p>&nbsp;</p>\n<div>\n<div><img src=\"http://bits.wikimedia.org/static-1.21wmf8/skins/common/images/magnify-clip.png\" alt=\"\" width=\"15\" height=\"11\" /></div>\n<p>การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบบมี pipeline</p>\n</div>\n</div>\n</div>\n<p>โดยการทำงานเหล่านี้ถ้าเป็นแบบพื้นฐานก็จะทำงานกันเป็นขั้นตอนเรียงตัวไปเรื่อยๆ แต่ในหลักความเป็นไปได้คือการทำงานในแต่ละส่วนนั้นค่อนข้างจะเป็นอิสระออกจากกัน จึงได้มีการจับแยกกันให้ทำงานขนานกันของแต่ละส่วนไปได้ หลักการนี้เรียกว่า pipeline เป็นการทำการประมวลผลแบบขนานในระดับการไหลของแต่ละคำสั่ง (ILP: Instruction Level Parallelism) โดยข้อมูลที่เป็นผลจากการคำนวณของชุดก่อนหน้าจะถูกส่งกลับไปให้ชุดคำสั่งที่ตามมาในช่องทางพิเศษภายในหน่วยประมวลผลเอง</p>\n<div>\n<div><img src=\"http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/ce/Superscalarpipeline.png/300px-Superscalarpipeline.png\" alt=\"\" width=\"300\" height=\"173\" />\n<p>&nbsp;</p>\n<div>\n<div><img src=\"http://bits.wikimedia.org/static-1.21wmf8/skins/common/images/magnify-clip.png\" alt=\"\" width=\"15\" height=\"11\" /></div>\n<p>การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบบมี pipeline และเป็น superscalar</p>\n</div>\n</div>\n</div>\n<p>การทำงานแบบขนานนี้สามารถทำให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกคือเพิ่มการทำงานแต่ละส่วนออกเป็นส่วนที่เหมือนกันในทุกกลุ่มแต่ให้ทำงานคนละสายชุดคำสั่งกัน วิธีการนี้เรียกว่าการทำหน่วยประมวลผลให้เป็น superscalar วิธีการนี้ทำให้มีหลายๆ ชุดคำสั่งทำงานได้ในขณะเดียวกัน โดยงานหนักของ superscalar อยู่ที่ส่วนดึงชุดคำสั่งออกมา (Dispatcher) เพราะส่วนนี้ต้องตัดสินใจได้ว่าชุดคำสั่งอันไหนสามารถทำการประมวลผลแบบขนานได้ หลักการนี้ก็เป็นการทำการประมวลผลแบบขนานในระดับการไหลของแต่ละคำสั่ง (ILP: Instruction Level Parallelism) เช่นกัน</p>\n<h3>การทำงานแบบขนานในระดับกลุ่มชุดคำสั่ง (TLP)</h3>\n<p>การทำงานของโปรแกรมคอมพิวเตอร์แต่ละโปรแกรมสามารถแบ่งตัวออกได้เป็นระดับกลุ่มชุดคำสั่ง (Thread) โดยในแต่ละกลุ่มสามารถทำงานขนานกันได้ (TLP: Thread Level Parallelism) ในระดับ2</p>\n<h2>สถาปัตยกรรมของหน่วยประมวลผลกลางที่เป็นที่รู้จัก</h2>\n<h3>คอมพิวเตอร์แบบฝังตัว</h3>\n<ul>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;PowerPC 440&nbsp;ของไอบีเอ็ม</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;8051&nbsp;ของอินเทล</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;6800&nbsp;ของโมโตโรลา\n<ul>\n<li>ใช้ในหน่วยควบคุม 68HC11 ซึ่งเป็นที่แพร่หลายอย่างมาก</li>\n</ul>\n</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;ARM&nbsp;ของ ARM (เคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Acorn Computers)\n<ul>\n<li>ใช้ใน เครื่องเล่นเพลง&nbsp;ไอพ็อด, เครื่องเล่นเกม เกมบอยแอดวานซ์, และ&nbsp;พีดีเอ&nbsp;จำนวนมาก 0</li>\n<li>หน่วยประมวลผล XScale และ StrongARM ของอินเทลนั้น ใช้สถาปัตยกรรม ARM</li>\n</ul>\n</li>\n</ul>\n<h3>เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล</h3>\n<ul>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;x86&nbsp;ของอินเทล</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;6800,&nbsp;6809, และ&nbsp;68000&nbsp;ของโมโตโรลา</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;6502&nbsp;ของ MOS Technology</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;Z80&nbsp;ของ&nbsp;Zilog</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;PowerPC&nbsp;ของไอบีเอ็ม&nbsp;(ในภายหลังคือพันธมิตร&nbsp;AIM alliance)</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;AMD64&nbsp;(หรือ x86-64) ของเอเอ็มดี\n<ul>\n<li>เข้ากันได้กับสถาปัตยกรรมแบบ x86 ของอินเทล</li>\n</ul>\n</li>\n</ul>\n<h3>คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ และเวิร์คสเตชัน</h3>\n<ul>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;SPARC&nbsp;ของ SPARC International, Inc. (มีสมาชิกเช่น&nbsp;ซัน ไมโครซิสเต็มส์,&nbsp;ฟูจิตสึ,&nbsp;โตชิบา,&nbsp;เท็กซัสอินสทรูเมนส์) หน่วยประมวลผล LEON2 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลแบบเปิดเผยรหัส ใช้สถาปัตยกรรม SPARC</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;POWER&nbsp;ของไอบีเอ็ม</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;MIPS&nbsp;ของ MIPS Computer Systems Inc.&nbsp;ชุดของคำสั่งเครื่องของ MIPS เป็นเครื่องมือหลักในการสอนสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ในหนังสือ&nbsp;Computer Organization and Design&nbsp;เขียนโดย&nbsp;เดวิด เอ. แพตเทอร์สัน&nbsp;และ&nbsp;จอห์น แอล. เฮนเนสซี&nbsp;ISBN 1-55860-428-6&nbsp;1998&nbsp;(2nd. edition)</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;PA-RISC&nbsp;ของเอชพี</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;Alpha&nbsp;ของ&nbsp;DEC</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;ARM&nbsp;ของ ARM (เคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Acorn Computers)</li>\n</ul>\n<h3>มินิคอมพิวเตอร์จนถึงเมนเฟรม</h3>\n<ul>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;PDP-11&nbsp;ของ&nbsp;DEC, และสถาปัตยกรรม&nbsp;VAX&nbsp;ที่ถูกพัฒนาต่อมา</li>\n<li>สถาปัตยกรรม&nbsp;SuperH&nbsp;ของฮิตาชิ</li>\n<li>สถาปัตยกรรมของคอมพิวเตอร์รุ่น&nbsp;UNIVAC 1100/2200&nbsp;(ปัจจุบันสนับสนุนโดย&nbsp;Unisys&nbsp;ClearPath IX computers)</li>\n<li>1750A&nbsp;- คอมพิวเตอร์มาตรฐานของกองทัพสหรัฐ</li>\n<li>AP-101&nbsp;- คอมพิวเตอร์ของกระสวยอวกาศ</li>\n<li>ถ้าเปรียบCPU นั้นก็เหมือนสมองของมนุษย์นั้นเอง</li>\n</ul>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;</p>\n', created = 1719962478, expire = 1720048878, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:dd573041375386fec98ebdee362cd575' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

CPU (ยศกร ศรีทับทิม)

หน่วยประมวลผลกลาง (อังกฤษ: central processing unit) หรือย่อว่า ซีพียู (CPU) เป็นวงจรอิเลคทรอนิกส์ที่ทำงาน หรือประมวลผล ตามชุดของคำสั่งเครื่องจากซอฟต์แวร์ คำนี้เริ่มใช้ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ต้นศตวรรษ 1960s

หน่วยประมวลผลเปรียบเสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ในการทำหน้าที่ตัดสินใจหรือคำนวณ จากคำสั่งที่ได้รับมา เช่น การเปรียบเทียบ การกระทำการทางคณิตศาสตร์ ฯลฯ

โดยมีกระบวนการพื้นฐานคือ

  • อ่านชุดคำสั่ง (fetch)
  • ตีความชุดคำสั่ง (decode)
  • ประมวลผลชุดคำสั่ง (execute)
  • อ่านข้อมูลจากหน่วยความจำ (memory)
  • เขียนข้อมูล/ส่งผลการประมวลกลับ (write back)

สถาปัตยกรรมของหน่วยประมวลผลกลาง ประกอบไปด้วย ส่วนควบคุมการประมวลผล (control unit) และ ส่วนประมวลผล (execution unit) และจะเก็บข้อมูลระหว่างการคำนวณ ไว้ในระบบเรจิสเตอร์

 

การทำงานของหน่วยประมวลผลกลาง

 

การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบบพื้นฐาน

การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกตามหน้าที่ได้เป็นห้ากลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ โดยทำงานทีละคำสั่ง จากคำสั่งที่เรียงลำดับกันไว้ตอนที่เขียนโปรแกรม

  • Fetch – การอ่านชุดคำสั่งขึ้นมา 1 คำสั่งจากโปรแกรม ในรูปของระหัสเลขฐานสอง (Binary Code from on-off of BIT)
  • Decode – การตีความ 1 คำสั่งนั้นด้วยวงจรถอดรหัส (Decoder circuit) ตามจำนวนหลัก (BIT) ว่ารหัสนี้จะให้วงจรอื่นใดทำงานด้วยข้อมูลที่ใด
  • Execute – การทำงานตาม 1 คำสั่งนั้น คือ วงจรใดในไมโครโปรเซสเซอร์ทำงาน เช่น วงจรบวก วงจรลบ วงจรเปรียบเทียบ วงจรย้ายข้อมูล ฯลฯ
  • Memory – การติดต่อกับหน่วยความจำ การใช้ข้อมูที่อยู่ในหน่วยจำชั่วคราว (RAM, Register) มาใช้ในคำสั่งนั้นโดยอ้างที่อยู่ (Address)
  • Write Back – การเขียนข้อมูลกลับ โดยมีหน่วยจำ Register ช่วยเก็บที่อยู่ของคำสั่งต่อไป ภายหลังมีคำสั่งกระโดดบวกลบที่อยู่

[แก้]การทำงานแบบขนานในระดับคำสั่ง (ILP)

 

การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบบมี pipeline

โดยการทำงานเหล่านี้ถ้าเป็นแบบพื้นฐานก็จะทำงานกันเป็นขั้นตอนเรียงตัวไปเรื่อยๆ แต่ในหลักความเป็นไปได้คือการทำงานในแต่ละส่วนนั้นค่อนข้างจะเป็นอิสระออกจากกัน จึงได้มีการจับแยกกันให้ทำงานขนานกันของแต่ละส่วนไปได้ หลักการนี้เรียกว่า pipeline เป็นการทำการประมวลผลแบบขนานในระดับการไหลของแต่ละคำสั่ง (ILP: Instruction Level Parallelism) โดยข้อมูลที่เป็นผลจากการคำนวณของชุดก่อนหน้าจะถูกส่งกลับไปให้ชุดคำสั่งที่ตามมาในช่องทางพิเศษภายในหน่วยประมวลผลเอง

 

การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางแบบมี pipeline และเป็น superscalar

การทำงานแบบขนานนี้สามารถทำให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกคือเพิ่มการทำงานแต่ละส่วนออกเป็นส่วนที่เหมือนกันในทุกกลุ่มแต่ให้ทำงานคนละสายชุดคำสั่งกัน วิธีการนี้เรียกว่าการทำหน่วยประมวลผลให้เป็น superscalar วิธีการนี้ทำให้มีหลายๆ ชุดคำสั่งทำงานได้ในขณะเดียวกัน โดยงานหนักของ superscalar อยู่ที่ส่วนดึงชุดคำสั่งออกมา (Dispatcher) เพราะส่วนนี้ต้องตัดสินใจได้ว่าชุดคำสั่งอันไหนสามารถทำการประมวลผลแบบขนานได้ หลักการนี้ก็เป็นการทำการประมวลผลแบบขนานในระดับการไหลของแต่ละคำสั่ง (ILP: Instruction Level Parallelism) เช่นกัน

การทำงานแบบขนานในระดับกลุ่มชุดคำสั่ง (TLP)

การทำงานของโปรแกรมคอมพิวเตอร์แต่ละโปรแกรมสามารถแบ่งตัวออกได้เป็นระดับกลุ่มชุดคำสั่ง (Thread) โดยในแต่ละกลุ่มสามารถทำงานขนานกันได้ (TLP: Thread Level Parallelism) ในระดับ2

สถาปัตยกรรมของหน่วยประมวลผลกลางที่เป็นที่รู้จัก

คอมพิวเตอร์แบบฝังตัว

  • สถาปัตยกรรม PowerPC 440 ของไอบีเอ็ม
  • สถาปัตยกรรม 8051 ของอินเทล
  • สถาปัตยกรรม 6800 ของโมโตโรลา
    • ใช้ในหน่วยควบคุม 68HC11 ซึ่งเป็นที่แพร่หลายอย่างมาก
  • สถาปัตยกรรม ARM ของ ARM (เคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Acorn Computers)
    • ใช้ใน เครื่องเล่นเพลง ไอพ็อด, เครื่องเล่นเกม เกมบอยแอดวานซ์, และ พีดีเอ จำนวนมาก 0
    • หน่วยประมวลผล XScale และ StrongARM ของอินเทลนั้น ใช้สถาปัตยกรรม ARM

เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

  • สถาปัตยกรรม x86 ของอินเทล
  • สถาปัตยกรรม 6800, 6809, และ 68000 ของโมโตโรลา
  • สถาปัตยกรรม 6502 ของ MOS Technology
  • สถาปัตยกรรม Z80 ของ Zilog
  • สถาปัตยกรรม PowerPC ของไอบีเอ็ม (ในภายหลังคือพันธมิตร AIM alliance)
  • สถาปัตยกรรม AMD64 (หรือ x86-64) ของเอเอ็มดี
    • เข้ากันได้กับสถาปัตยกรรมแบบ x86 ของอินเทล

คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ และเวิร์คสเตชัน

  • สถาปัตยกรรม SPARC ของ SPARC International, Inc. (มีสมาชิกเช่น ซัน ไมโครซิสเต็มส์, ฟูจิตสึ, โตชิบา, เท็กซัสอินสทรูเมนส์) หน่วยประมวลผล LEON2 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลแบบเปิดเผยรหัส ใช้สถาปัตยกรรม SPARC
  • สถาปัตยกรรม POWER ของไอบีเอ็ม
  • สถาปัตยกรรม MIPS ของ MIPS Computer Systems Inc. ชุดของคำสั่งเครื่องของ MIPS เป็นเครื่องมือหลักในการสอนสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ในหนังสือ Computer Organization and Design เขียนโดย เดวิด เอ. แพตเทอร์สัน และ จอห์น แอล. เฮนเนสซี ISBN 1-55860-428-6 1998 (2nd. edition)
  • สถาปัตยกรรม PA-RISC ของเอชพี
  • สถาปัตยกรรม Alpha ของ DEC
  • สถาปัตยกรรม ARM ของ ARM (เคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Acorn Computers)

มินิคอมพิวเตอร์จนถึงเมนเฟรม

  • สถาปัตยกรรม PDP-11 ของ DEC, และสถาปัตยกรรม VAX ที่ถูกพัฒนาต่อมา
  • สถาปัตยกรรม SuperH ของฮิตาชิ
  • สถาปัตยกรรมของคอมพิวเตอร์รุ่น UNIVAC 1100/2200 (ปัจจุบันสนับสนุนโดย Unisys ClearPath IX computers)
  • 1750A - คอมพิวเตอร์มาตรฐานของกองทัพสหรัฐ
  • AP-101 - คอมพิวเตอร์ของกระสวยอวกาศ
  • ถ้าเปรียบCPU นั้นก็เหมือนสมองของมนุษย์นั้นเอง

 

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 439 คน กำลังออนไลน์