• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:cff02934731ec6b1eeae8b76eb87a29b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ความจริงแล้วเป็นคนไม่ค่อยชอบเขียนหรอก แต่ where where is a where where แล้ว ก็ลองดูซักตั้งนึง วันนี้ได้ไปร่วมงาน Free Talk&nbsp;<strong>Social Media Marketing</strong> ที่ House of Commons ตามที่บอสอยากให้ไป (แล้วสรุปมาด้วยนะ อ่ะจ๊าก!!!) เรื่องในหัวข้อนี้ค่อนข้างมีความรู้อยู่พอสมควรแล้ว เพราะเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิวเป็นเว็บที่ใช้เปิดตัว Adsense ประเทศไทย ทำให้เคยหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำ Marketing บนเว็บไซต์ รวมทั้งเครืองมือเก็บข้อมูลทางสถิติต่างๆ บนเว็บไซต์อย่างเช่น Truehits, Google Analytic มาตั้งแต่ปี 2008 (อยากแนะนำ Google dfp ด้วย เพราะสะดวกมากในเรื่องการจัดการโฆษณาบนเว็บ)</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; งานเริ่ม 14.00 น. ออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่บ่ายครึ่ง ขึ้นเรือข้ามฟากไปจากท่าสาทร-ท่าตากสิน (ท่าเป๊ปซี่) แล้วก็เดินๆ ไป ร้านอยู่ระหว่าง ซ.เจริญนคร 20-22 &nbsp;ฝั่งตรงข้ามปั้มเชลล์ ถึงตรงเวลาเริ่มงานเป๊ะ (แอบซื้อชาเขียวที่ชั้นล่างเล็กน้อย) งานจัดที่ชั้นสองของร้าน บรรยากาศชิวๆ สบายๆ ดูเป็นกันเองตามภาษาคนรุ่นใหม่ไม่ชอบอะไรเป็นทางการนัก มีจุดลงทะเบียน ซึ่งเตรียมแผ่นรองเขียนกับกระดาษไว้จดให้ รวมทั้งมีใบประเมินและโบชัวร์ร้านติดมาด้วย</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; <strong>เริ่มต้นแนะนำเรื่องโดยคุณเมย์ จากเว็บสวย360<sup>o</sup>ดอทคอม&nbsp;ตามด้วยคุณหมู และคุณคิว</strong>&nbsp;ทั้งสามเล่าถึงการทำ Social Media Marketing ว่า<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; - ใช้ <strong>Google Adwords</strong> ซึ่งมีข้อดี คือ ควบคุม budget ได้ ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉลี่ยมีค่าใช้จ่ายประมาณคลิกละ 10 บาท (ขั้นต่ำที่ต้องจ่ายให้ Google ต่อวัน คือ 30 บาท ถ้าต่ำกว่านั้นแนะนำให้ไปยืนแจกใบปลิวเถอะ)<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; การใช้วิธีการนี้ ควรหา <strong>keywords</strong> ของสินค้าให้ได้ก่อน ต้องใช้<strong>คำที่สัมพันธ์กับสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย</strong> (ให้คนคลิกเข้ามาแล้วขายของได้ เช่น ของขวัญ กับของขวัญรับปริญญา คำหลังจะระบุกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนกว่า มีคู่แข่งน้อยกว่าคำแรก) <strong>จำนวนคนที่ค้น keywords นั้นๆ</strong> ถ้ามีคนนค้นคำนั้นๆ เยอะก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายมาก เพื่อให้เว็บของเราขึ้นมาแสดงบ่อยๆ เป็นอันดับแรกๆ ในการค้น<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; - ใช้ <strong>Google Display Network</strong> เป็นการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ที่เป็นเครือข่าย/พันธมิตรกับกูเกิล (ลิงค์ที่ลูกค้าเคยคลิกเข้าไปดูจะตามไปหลอกหลอนในเว็บเครือข่าย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเข้าไปซื้อ/ใชับริการ)<br /> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้ <strong>Trueview in-Stream Ads</strong> เป็น ads ที่แทรกอยู่ตาม youtube<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้การทำ <strong>SEO</strong> แต่เนื้อหาของเว็บจะต้องมีคุณค่าพอสำหรับผู้ใช้ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนขึ้นไปที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้ <strong>Google Analytic</strong> เก็บข้อมูลสถิติผู้ใช้เว็บไซต์<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้ <strong>โฆษณา ผ่าน Facebook</strong> (ปัจจุบันจะอยู่ในส่วนด้านขวาของหน้าเว็บ) ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 300 บาท/วัน อีกรูปแบบหนึ่งคือ การ<strong>โปรโมทโพสต์</strong>ที่อยู่ใน Fanpage (ปัจจุบันจะอยู่ในส่วนที่แสดงในฟีดข่าวของผู้ใช้) รูปแบบนี้ค่าใช้จ่ายจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวน friend of fanpage<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้ <strong>FanPage</strong> บน Facebook วิธีการนี้&nbsp;80% ควรใช้สำหรับรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า (Keep connections) และสร้างความสำคัญของสินค้า ส่วนอีก&nbsp;20% จึงใช้เป็นช้องทางขายสินค้า<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;หมั่นพยายามตอบคำถามลูกค้าอย่างทันที และพร้อม support ลูกค้าเสมอ<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;เข้าใจ Personal (ลักษะเฉพาะตัว/จริต/รสนิยม) ในโลกออนไลน์ของลูกค้า<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ภาพ+content เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้า (เช่นของที่ดาราเป็นพรีเซนเตอร์คงจะดูน่าซื้อมากกว่าไม่รู้เอาป้าคนไหนมาเป็นพรีเซนเตอร์)<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;นอกจากนั้นถ้าเป็นแบรนด์ที่มีงบประมาณมากก็สามารถใช้ application จัดกิจกรรมดึงดูดลูกค้าได้<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้ การ<strong>ซื้อ Fanpage</strong> เท่าที่ทราบ เพจที่มี 100,000 likes จะขายในราคา 50,000 บาท (ผิดกฎของ facebook)<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;- ใช้ <strong>Pinterest</strong> (พินเทอเรสต์) ใช้ <strong>Instagram</strong>&nbsp;ใช้การ<strong>จ้าง Blogger</strong></p>\n<p><strong>การใช้ Fanpage</strong>&nbsp;เหมาะกับการขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม (ทำให้เสียค่าโฆษณาน้อย) และต้องเป็นสินค้าที่ให้กำไรมาก</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ...ถึงคนจะกดไลค์ให้เพจนั้นเยอะแต่ไม่มีคนซื้อของเลย ก็ไม่มีประโยชน์อะไร...<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ...ถึงของจะดีแค่ไหนแต่ไม่ตรงกลุ่มลูกค้าก็ fail อยู่ดี...</p>\n<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 1. ต้องระบุให้ได้ก่อนว่าลูกค้าเป็นใคร อยู่ที่ไหน (อยู่ในสังคมออนไลน์ในกลุ่มไหน เว็บไหน) เพราะคนในโลกออนไลน์ชอบอยู่กันเป็น Community<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 2. ของอะไรที่เหมาะกับ Personal (ลักษะเฉพาะตัว/จริต/รสนิยม) ของลูกค้า&nbsp;<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 3. ลองตลาด จุดนี้โดยส่วนตัวไม่ชอบวิธีการคิดที่เอาเปรียบผู้บริโภคเลย (ขาดจรรยาบรรณในการเป็นพ่อค้า/แม่ค้าที่ดี) คือ ถึงของไม่มีก็บอกว่ามี พร้อมส่ง (แต่พอดีหมด ต้องรอล๊อตหน้า) เพื่อจะได้ไม่ต้องลงทุนก่อน (การลงทุนเป็น 0) เน้นยอดขายให้มากอย่างเดียว เรื่องรูปภาพสินค้าก็ได้รับคำแนะนำว่าให้คัดลอกมาเลย หุหุ<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 4. เลือกเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ (ช่วงเวลาที่คนดู/คนอ่านเยอะ) เช่น ก่อนทำงาน พักเที่ยง หลังเลิกงาน</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><strong>Memo:</strong></p>\n<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;- ควรตั้งชื่อ fanpage เพื่อให้ดูสวยงามเวลาไปแนะนำไว้ที่เว็บต่างๆ (ตั้งได้เมื่อมี 25 likes ขึ้นไป)<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;- โพสต์ขายสินค้า overclockzone.com<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;- ใช้เปิดร้านค้าออนไลน์ lnwshop.com (เทพชอปดอทคอม)<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;- เว็บที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย alibaba.com (นำไปใช้เป็นแนวทางเลือกสินค้าที่จะขาย)<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;- รูปภาพที่นำไปใช้ ถ้ามีเครดิตของเจ้าของอยู่ หมายความว่าเจ้าของไม่ได้อยากให้ใครนำไปใช้ จึงควรให้เครดิตเจ้าของด้วย<br />&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;- สินค้าส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีน เพราะฉะนั้นสินค้าจะดี/ไม่ดีขึ้นอยู่กับการเลือกคุณภาพสินค้าที่นำมาขายมากกว่า</p>\n', created = 1715902802, expire = 1715989202, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:cff02934731ec6b1eeae8b76eb87a29b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

Social Media Marketing

รูปภาพของ supatkul

          ความจริงแล้วเป็นคนไม่ค่อยชอบเขียนหรอก แต่ where where is a where where แล้ว ก็ลองดูซักตั้งนึง วันนี้ได้ไปร่วมงาน Free Talk Social Media Marketing ที่ House of Commons ตามที่บอสอยากให้ไป (แล้วสรุปมาด้วยนะ อ่ะจ๊าก!!!) เรื่องในหัวข้อนี้ค่อนข้างมีความรู้อยู่พอสมควรแล้ว เพราะเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิวเป็นเว็บที่ใช้เปิดตัว Adsense ประเทศไทย ทำให้เคยหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำ Marketing บนเว็บไซต์ รวมทั้งเครืองมือเก็บข้อมูลทางสถิติต่างๆ บนเว็บไซต์อย่างเช่น Truehits, Google Analytic มาตั้งแต่ปี 2008 (อยากแนะนำ Google dfp ด้วย เพราะสะดวกมากในเรื่องการจัดการโฆษณาบนเว็บ)

          งานเริ่ม 14.00 น. ออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่บ่ายครึ่ง ขึ้นเรือข้ามฟากไปจากท่าสาทร-ท่าตากสิน (ท่าเป๊ปซี่) แล้วก็เดินๆ ไป ร้านอยู่ระหว่าง ซ.เจริญนคร 20-22  ฝั่งตรงข้ามปั้มเชลล์ ถึงตรงเวลาเริ่มงานเป๊ะ (แอบซื้อชาเขียวที่ชั้นล่างเล็กน้อย) งานจัดที่ชั้นสองของร้าน บรรยากาศชิวๆ สบายๆ ดูเป็นกันเองตามภาษาคนรุ่นใหม่ไม่ชอบอะไรเป็นทางการนัก มีจุดลงทะเบียน ซึ่งเตรียมแผ่นรองเขียนกับกระดาษไว้จดให้ รวมทั้งมีใบประเมินและโบชัวร์ร้านติดมาด้วย

          เริ่มต้นแนะนำเรื่องโดยคุณเมย์ จากเว็บสวย360oดอทคอม ตามด้วยคุณหมู และคุณคิว ทั้งสามเล่าถึงการทำ Social Media Marketing ว่า
          - ใช้ Google Adwords ซึ่งมีข้อดี คือ ควบคุม budget ได้ ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉลี่ยมีค่าใช้จ่ายประมาณคลิกละ 10 บาท (ขั้นต่ำที่ต้องจ่ายให้ Google ต่อวัน คือ 30 บาท ถ้าต่ำกว่านั้นแนะนำให้ไปยืนแจกใบปลิวเถอะ)
            การใช้วิธีการนี้ ควรหา keywords ของสินค้าให้ได้ก่อน ต้องใช้คำที่สัมพันธ์กับสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย (ให้คนคลิกเข้ามาแล้วขายของได้ เช่น ของขวัญ กับของขวัญรับปริญญา คำหลังจะระบุกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนกว่า มีคู่แข่งน้อยกว่าคำแรก) จำนวนคนที่ค้น keywords นั้นๆ ถ้ามีคนนค้นคำนั้นๆ เยอะก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายมาก เพื่อให้เว็บของเราขึ้นมาแสดงบ่อยๆ เป็นอันดับแรกๆ ในการค้น
          - ใช้ Google Display Network เป็นการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ที่เป็นเครือข่าย/พันธมิตรกับกูเกิล (ลิงค์ที่ลูกค้าเคยคลิกเข้าไปดูจะตามไปหลอกหลอนในเว็บเครือข่าย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเข้าไปซื้อ/ใชับริการ)
         - ใช้ Trueview in-Stream Ads เป็น ads ที่แทรกอยู่ตาม youtube
         - ใช้การทำ SEO แต่เนื้อหาของเว็บจะต้องมีคุณค่าพอสำหรับผู้ใช้ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนขึ้นไปที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ
         - ใช้ Google Analytic เก็บข้อมูลสถิติผู้ใช้เว็บไซต์
         - ใช้ โฆษณา ผ่าน Facebook (ปัจจุบันจะอยู่ในส่วนด้านขวาของหน้าเว็บ) ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 300 บาท/วัน อีกรูปแบบหนึ่งคือ การโปรโมทโพสต์ที่อยู่ใน Fanpage (ปัจจุบันจะอยู่ในส่วนที่แสดงในฟีดข่าวของผู้ใช้) รูปแบบนี้ค่าใช้จ่ายจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวน friend of fanpage
         - ใช้ FanPage บน Facebook วิธีการนี้ 80% ควรใช้สำหรับรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า (Keep connections) และสร้างความสำคัญของสินค้า ส่วนอีก 20% จึงใช้เป็นช้องทางขายสินค้า
           หมั่นพยายามตอบคำถามลูกค้าอย่างทันที และพร้อม support ลูกค้าเสมอ
           เข้าใจ Personal (ลักษะเฉพาะตัว/จริต/รสนิยม) ในโลกออนไลน์ของลูกค้า
           ภาพ+content เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้า (เช่นของที่ดาราเป็นพรีเซนเตอร์คงจะดูน่าซื้อมากกว่าไม่รู้เอาป้าคนไหนมาเป็นพรีเซนเตอร์)
           นอกจากนั้นถ้าเป็นแบรนด์ที่มีงบประมาณมากก็สามารถใช้ application จัดกิจกรรมดึงดูดลูกค้าได้
         - ใช้ การซื้อ Fanpage เท่าที่ทราบ เพจที่มี 100,000 likes จะขายในราคา 50,000 บาท (ผิดกฎของ facebook)
         - ใช้ Pinterest (พินเทอเรสต์) ใช้ Instagram ใช้การจ้าง Blogger

การใช้ Fanpage เหมาะกับการขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม (ทำให้เสียค่าโฆษณาน้อย) และต้องเป็นสินค้าที่ให้กำไรมาก

          ...ถึงคนจะกดไลค์ให้เพจนั้นเยอะแต่ไม่มีคนซื้อของเลย ก็ไม่มีประโยชน์อะไร...
          ...ถึงของจะดีแค่ไหนแต่ไม่ตรงกลุ่มลูกค้าก็ fail อยู่ดี...

          1. ต้องระบุให้ได้ก่อนว่าลูกค้าเป็นใคร อยู่ที่ไหน (อยู่ในสังคมออนไลน์ในกลุ่มไหน เว็บไหน) เพราะคนในโลกออนไลน์ชอบอยู่กันเป็น Community
          2. ของอะไรที่เหมาะกับ Personal (ลักษะเฉพาะตัว/จริต/รสนิยม) ของลูกค้า 
          3. ลองตลาด จุดนี้โดยส่วนตัวไม่ชอบวิธีการคิดที่เอาเปรียบผู้บริโภคเลย (ขาดจรรยาบรรณในการเป็นพ่อค้า/แม่ค้าที่ดี) คือ ถึงของไม่มีก็บอกว่ามี พร้อมส่ง (แต่พอดีหมด ต้องรอล๊อตหน้า) เพื่อจะได้ไม่ต้องลงทุนก่อน (การลงทุนเป็น 0) เน้นยอดขายให้มากอย่างเดียว เรื่องรูปภาพสินค้าก็ได้รับคำแนะนำว่าให้คัดลอกมาเลย หุหุ
          4. เลือกเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ (ช่วงเวลาที่คนดู/คนอ่านเยอะ) เช่น ก่อนทำงาน พักเที่ยง หลังเลิกงาน

 

Memo:

          - ควรตั้งชื่อ fanpage เพื่อให้ดูสวยงามเวลาไปแนะนำไว้ที่เว็บต่างๆ (ตั้งได้เมื่อมี 25 likes ขึ้นไป)
          - โพสต์ขายสินค้า overclockzone.com
          - ใช้เปิดร้านค้าออนไลน์ lnwshop.com (เทพชอปดอทคอม)
          - เว็บที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย alibaba.com (นำไปใช้เป็นแนวทางเลือกสินค้าที่จะขาย)
          - รูปภาพที่นำไปใช้ ถ้ามีเครดิตของเจ้าของอยู่ หมายความว่าเจ้าของไม่ได้อยากให้ใครนำไปใช้ จึงควรให้เครดิตเจ้าของด้วย
          - สินค้าส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีน เพราะฉะนั้นสินค้าจะดี/ไม่ดีขึ้นอยู่กับการเลือกคุณภาพสินค้าที่นำมาขายมากกว่า

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 225 คน กำลังออนไลน์