• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:96c1ee6ef94ddf12e97e2a0ecbb954aa' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p style=\"margin: 0.4em 0px 0.5em; line-height: 19.200000762939453px; text-indent: 2.5em; font-family: sans-serif; font-size: 13px; background-color: #ffffff\">\nวันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%8C\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" title=\"เคลต์\">เคลต์</a> (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" title=\"ฤดูร้อน\">ฤดูร้อน</a> และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป\n</p>\n<div style=\"float: left; clear: left; margin: 0.5em 1.4em 1.3em 0px; width: auto; background-color: #ffffff; font-family: sans-serif; font-size: 13px; line-height: 19.200000762939453px\" class=\"thumb tleft\">\n<div style=\"min-width: 100px; border: 1px solid #888888; background-color: #f9f9f9; font-size: 12px; text-align: center; overflow: hidden; width: 222px; padding: 3px !important\" class=\"thumbinner\">\n<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Jackolantern.jpg\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" class=\"image\"><img src=\"http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/c/c5/Jackolantern.jpg/220px-Jackolantern.jpg\" style=\"border: 1px solid #888888; vertical-align: middle\" srcset=\"//upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/c/c5/Jackolantern.jpg/330px-Jackolantern.jpg 1.5x, //upload.wikimedia.org/wikipedia/th/c/c5/Jackolantern.jpg 2x\" class=\"thumbimage\" height=\"165\" width=\"220\" /></a>\n<div style=\"border: none; line-height: 1.4em; font-size: 11px; text-align: left; padding: 3px !important\" class=\"thumbcaption\">\n<div style=\"float: right; border: none !important; background-image: none !important\" class=\"magnify\">\n<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Jackolantern.jpg\" style=\"color: #0b0080; display: block; background-image: none !important; border: none !important\" title=\"Enlarge\" class=\"internal\"><img src=\"http://bits.wikimedia.org/static-1.21wmf3/skins/common/images/magnify-clip.png\" style=\"vertical-align: middle; display: block; border-style: none !important; background-image: none !important\" height=\"11\" width=\"15\" /></a>\n</div>\n<p>โคมรูปฟักทอง แจ๊ก-โอ\'-แลนเทิร์น\n</p></div>\n</div>\n</div>\n<p style=\"margin: 0.4em 0px 0.5em; line-height: 19.200000762939453px; text-indent: 2.5em; font-family: sans-serif; font-size: 13px; background-color: #ffffff\">\nบางตำนานยังเล่าถึงขนาดว่า มีการเผา &quot;คนที่คิดว่าถูกผีร้ายสิง&quot; เป็นการเชือดไก่ให้ผีกลัวอีกต่างหาก แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่ความคิดเรื่องผีสางยังฝังรากลึกในจิตใจมนุษย์ ต่อมาในศตวรรษแรกแห่งคริสตกาล ชาวโรมันรับประเพณีฮาโลวีนมาจากชาวเคลต์แต่ได้ตัดการเผาร่างคนที่ถูกผีสิงออก เปลี่ยนเป็นการเผาหุ่นแทน กาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีจะสิงสูร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลำดับ ฮาโลวีนกลายเป็นเพียงพิธีการ การแต่งตัวเป็น<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9C%E0%B8%B5\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" title=\"ผี\">ผี</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%94\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" class=\"mw-redirect\" title=\"แม่มด\">แม่มด</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" title=\"สัตว์ประหลาด\">สัตว์ประหลาด</a>ตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป ประเพณีฮาโลวีนเดินทางมาถึงอเมริกาในทศวรรษที่ 1840 โดยชาวไอริชที่อพยพมายังอเมริกา สำหรับประเพณี <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%95\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" title=\"ทริกออร์ทรีต\">ทริกออร์ทรีต</a> (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรือเลี้ยง) นั้น เริ่มขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรป ซึ่งถือว่า วันที่ 2 พ.ย. เป็นวัน \'All Souls\' พวกเขาจะเดินร้องขอ \'ขนมสำหรับวิญญาณ\' (soul cake) จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยเชื่อว่า ยิ่งให้<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%81\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" class=\"mw-redirect\" title=\"ขนมเค้ก\">ขนมเค้ก</a>มากเท่าไร วิญญาณของญาติผู้บริจาคก็ได้รับผลบุญ ทำให้มีโอกาสขึ้นสวรรค์ได้มากเท่านั้น\n</p>\n<div style=\"clear: right; float: right; margin: 0.5em 0px 1.3em 1.4em; width: auto; background-color: #ffffff; font-family: sans-serif; font-size: 13px; line-height: 19.200000762939453px\" class=\"thumb tright\">\n<div style=\"min-width: 100px; border: 1px solid #888888; background-color: #f9f9f9; font-size: 12px; text-align: center; overflow: hidden; width: 222px; padding: 3px !important\" class=\"thumbinner\">\n<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Trickortreat.jpg\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" class=\"image\"><img src=\"http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/7/74/Trickortreat.jpg/220px-Trickortreat.jpg\" style=\"border: 1px solid #888888; vertical-align: middle\" srcset=\"//upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/7/74/Trickortreat.jpg/330px-Trickortreat.jpg 1.5x, //upload.wikimedia.org/wikipedia/th/7/74/Trickortreat.jpg 2x\" class=\"thumbimage\" height=\"310\" width=\"220\" /></a>\n<div style=\"border: none; line-height: 1.4em; font-size: 11px; text-align: left; padding: 3px !important\" class=\"thumbcaption\">\n<div style=\"float: right; border: none !important; background-image: none !important\" class=\"magnify\">\n<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Trickortreat.jpg\" style=\"color: #0b0080; display: block; background-image: none !important; border: none !important\" title=\"Enlarge\" class=\"internal\"><img src=\"http://bits.wikimedia.org/static-1.21wmf3/skins/common/images/magnify-clip.png\" style=\"vertical-align: middle; display: block; border-style: none !important; background-image: none !important\" height=\"11\" width=\"15\" /></a>\n</div>\n<p>การเล่น trick or treat ตามบ้านคน\n</p></div>\n</div>\n</div>\n<p style=\"margin: 0.4em 0px 0.5em; line-height: 19.200000762939453px; text-indent: 2.5em; font-family: sans-serif; font-size: 13px; background-color: #ffffff\">\nส่วนตำนานที่เกี่ยวกับ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87\" style=\"color: #0b0080; background-image: none\" title=\"ฟักทอง\">ฟักทอง</a>นั้น เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช ที่กล่าวถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ \'ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก\' แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง \'การหยุดยั้งความชั่ว\' Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน หัวผักกาดจึงกลายเป็นฟักทองด้วยเหตุผลฉะนี้\n</p>\n<p style=\"margin: 0.4em 0px 0.5em; line-height: 19.200000762939453px; text-indent: 2.5em; font-family: sans-serif; font-size: 13px; background-color: #ffffff\">\nประเพณีทริกออร์ทรีต ในสหรัฐอเมริกาคือการละเล่นอย่างหนึ่งที่เด็ก ๆ เฝ้ารอคอย ในวันฮาโลวีนตามบ้านเรือนจะตกแต่งด้วยโคมไฟฟักทองและตุ๊กตาหุ่นฟางที่เป็นส่วนหนึ่งของ<a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7&amp;action=edit&amp;redlink=1\" style=\"color: #a55858; background-image: none\" title=\"เทศกาลประเพณีเก็บเกี่ยว (page does not exist)\" class=\"new\">เทศกาลประเพณีเก็บเกี่ยว</a> (Harvest) ในช่วงเดียวกันนั้น แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวานที่ทำเป็นรูปเม็ดข้าวโพดสีขาวเหลืองส้มในเม็ดเดียวกัน เรียกว่า Corn Candy และขนมอื่นๆไว้เตรียมคอยท่า ส่วนเด็กๆ ในละแวกบ้านก็จะ<a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5&amp;action=edit&amp;redlink=1\" style=\"color: #a55858; background-image: none\" title=\"แต่งตัวแฟนซี (page does not exist)\" class=\"new\">แต่งตัวแฟนซี</a>เป็นภูตผีมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้นบ้านที่มีโคมไฟฟักทองประดับ (เพราะมีความหมายโดยนัยว่าต้อนรับพวกเขา) พร้อมกับถามว่า &quot;Trick or treat?&quot; เจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะตอบ treat ด้วยการยอมแพ้ มอบขนมหวานให้ภูตผี(เด็ก)เหล่านั้น ราวกับว่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรือเลือกตอบ trick เพื่อท้าทายให้ภูตผีเหล่านั้นอาละวาด ซึ่งก็อาจเป็นอะไรได้ ตั้งแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขั้นทำลายข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วอาจจบลงด้วยการ treat เด็ก ๆ ได้ขนมในที่สุด\n</p>\n', created = 1720399902, expire = 1720486302, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:96c1ee6ef94ddf12e97e2a0ecbb954aa' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

วันฮาโลวีน

วันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว เคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป

โคมรูปฟักทอง แจ๊ก-โอ'-แลนเทิร์น

บางตำนานยังเล่าถึงขนาดว่า มีการเผา "คนที่คิดว่าถูกผีร้ายสิง" เป็นการเชือดไก่ให้ผีกลัวอีกต่างหาก แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่ความคิดเรื่องผีสางยังฝังรากลึกในจิตใจมนุษย์ ต่อมาในศตวรรษแรกแห่งคริสตกาล ชาวโรมันรับประเพณีฮาโลวีนมาจากชาวเคลต์แต่ได้ตัดการเผาร่างคนที่ถูกผีสิงออก เปลี่ยนเป็นการเผาหุ่นแทน กาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีจะสิงสูร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลำดับ ฮาโลวีนกลายเป็นเพียงพิธีการ การแต่งตัวเป็นผี แม่มด สัตว์ประหลาดตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป ประเพณีฮาโลวีนเดินทางมาถึงอเมริกาในทศวรรษที่ 1840 โดยชาวไอริชที่อพยพมายังอเมริกา สำหรับประเพณี ทริกออร์ทรีต (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรือเลี้ยง) นั้น เริ่มขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรป ซึ่งถือว่า วันที่ 2 พ.ย. เป็นวัน 'All Souls' พวกเขาจะเดินร้องขอ 'ขนมสำหรับวิญญาณ' (soul cake) จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยเชื่อว่า ยิ่งให้ขนมเค้กมากเท่าไร วิญญาณของญาติผู้บริจาคก็ได้รับผลบุญ ทำให้มีโอกาสขึ้นสวรรค์ได้มากเท่านั้น

การเล่น trick or treat ตามบ้านคน

ส่วนตำนานที่เกี่ยวกับฟักทองนั้น เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช ที่กล่าวถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ 'ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก' แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง 'การหยุดยั้งความชั่ว' Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน หัวผักกาดจึงกลายเป็นฟักทองด้วยเหตุผลฉะนี้

ประเพณีทริกออร์ทรีต ในสหรัฐอเมริกาคือการละเล่นอย่างหนึ่งที่เด็ก ๆ เฝ้ารอคอย ในวันฮาโลวีนตามบ้านเรือนจะตกแต่งด้วยโคมไฟฟักทองและตุ๊กตาหุ่นฟางที่เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลประเพณีเก็บเกี่ยว (Harvest) ในช่วงเดียวกันนั้น แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวานที่ทำเป็นรูปเม็ดข้าวโพดสีขาวเหลืองส้มในเม็ดเดียวกัน เรียกว่า Corn Candy และขนมอื่นๆไว้เตรียมคอยท่า ส่วนเด็กๆ ในละแวกบ้านก็จะแต่งตัวแฟนซีเป็นภูตผีมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้นบ้านที่มีโคมไฟฟักทองประดับ (เพราะมีความหมายโดยนัยว่าต้อนรับพวกเขา) พร้อมกับถามว่า "Trick or treat?" เจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะตอบ treat ด้วยการยอมแพ้ มอบขนมหวานให้ภูตผี(เด็ก)เหล่านั้น ราวกับว่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรือเลือกตอบ trick เพื่อท้าทายให้ภูตผีเหล่านั้นอาละวาด ซึ่งก็อาจเป็นอะไรได้ ตั้งแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขั้นทำลายข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วอาจจบลงด้วยการ treat เด็ก ๆ ได้ขนมในที่สุด

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 474 คน กำลังออนไลน์