----0232 พระอิศวร

พรแห่งอิศวร (ศิวะ)

        แม้จะเป็นมหาเทพที่ขึ้นชื่อลือชาว่าทรงประทานพรให้ใคร ๆ ง่ายดายนักหนา แต่ถึงอย่างไร ก่อนที่จะทรงประทานพรให้ผู้ใด พระศิวะจะทรงพินิจพิจารณาดูให้ถ่องแท้ก่อนเสมอ เมื่อเห็นว่าดีงามจริงแท้ก็จะประทานพรให้บุคคลผู้นั้นโดยไม่มีเงื่อนไขว่าจะเป็นนักพรต โยคี ฤษี ดาบส ชาวบ้านธรรมดา เทพเทวะหรือแม้แต่สรรพสัตว์ สรรพอสูรทั้งหลายทั้งปวง แต่ดูเหมือนว่าในบางครั้งบางครา พรพระศิวะก็มักจะกลับกลายเป็นเรื่องเป็นราวโกลาหลมิใช่น้อย เป็นต้นว่าในคราหนึ่ง “พฤกาสูร” ยักษ์ตนหนึ่งนั้นได้เฝ้าบำเพ็ญภาวนา อยู่ในศีลในธรรมสม่ำเสมอเป็นเวลานานปี และการบำเพ็ญพรตนั้นก็พลีแด่พระศิวะมหาเทพพฤกาสูรนี้มิใช่อสูรธรรมดา ๆ แต่เป็นถึงโอรสของพระกัศยปะเทพผู้ใหญ่องค์หนึ่งของสรวงสวรรค์เลยทีเดียว เมื่อเวลานานนับปีผ่านไป พระศิวะ ณ เขาไกรลาสทรงเห็นว่าอสูรตนนี้สรรเสริญบูชาพระองค์อย่างแน่วแน่ และบำเพ็ญตบะแก่กล้าไม่มีวอกแวกเหลวไหลแม้แต่น้อย พระองค์จึงเสด็จลงมาประทานพรให้

       โดยพรนั้นก็คือให้พฤกาสูรนั้นมีมืออันเป็นเพลิงกรด หากมือแตะบนศีรษะผู้ใด ผู้นั้นจะถึงแก่มอดม้วยมรณาเพราะถูกฤทธิ์เดชเพลิงกรดจากมือของพฤกาสูรเผาไหม้ให้เป็นจุลไปในทันทีไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นเทพหรือผู้มีอิทธิฤทธิ์เพียงใดก็ตามเมื่อพฤกาสูรได้พรแล้วก็แสนจะดีอกดีใจนัก แทนที่จะไปลองของดีกับผู้อื่น กลับคิดวิปริตกำริบ คิดจะลองของกับมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่พฤกาสูรทูลพระศิวะว่า อยากรู้ว่าพรนี้มีผลจริงแท้ประการใดใคร่ขอวางมือลงบนพระเศียรของพระศิวะสักหน่อยเถิด จะได้เกิดผลให้ได้ประจักษ์ พระศิวะถึงกับตกพระทัย ไฉนอสูรตนนี้จึงพิเรนทร์เช่นนั้น แต่พรของพระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์นัก ให้ไปแล้วจะลบล้างก็มิอาจกระทำได้

        เมื่อจะถูกทดสอบเช่นนั้น พระศิวะก็ทรงกลับหลังหันแล้ววิ่งหนีทันที พฤกาสูรผู้เคยเป็นยักษ์แสนดี บัดนี้กลายเป็นยักษ์ลามปรามพยายามวิ่งไล่ตามจะเอามือแตะเศียรพระศิวะให้ได้ เหตุโกลาหลนี้บังเอิญล่วงรู้ถึงพระนารายณ์หรือพระวิษณุมหาเทพผู้เป็นเสมือนผู้พิทักษ์อาณาจักรสวรรค์ พระนารายณ์จึงทรงแปลงกายเป็นชายหนุ่มธรรมดามายืนขวางพฤกาสูรแล้วก็เอ่ยถามว่าจะวิ่งไล่จับใครกันหรือพฤกาสูรก็ตอบตรง ๆว่า ตามหาพระศิวะเพื่อทดสอบพร พระนารายณ์ในร่างมานพน้อยรูปงามจึงแสร้งว่า จะตามหาพระศิวะทำไม อยากรู้ว่าพรนั้นสัมฤทธิ์ผลจริงแท้แค่ไหนก็ไม่ต้องไปแตะพระเศียรของพระศิวะหรอก ก็ลองเอามือแตะหัวตัวเองก็คงจะได้รู้แล้วว่าพรจะบังเกิดผลเป็นจริงแท้แค่ไหนอย่างไร พฤกาสูรคงฉลาดน้อยไปสักหน่อย เมื่อฟังแล้วก็เห็นฟ้องด้วยกับคำพูดหลอกล่อของพระนารายณ์ในที่สุด พฤกาสูรคงจะฉลาดน้อยไปสักหน่อย เมื่อฟังแล้วก็เห็นฟ้องด้วยกับคำพูดหลอกล่อของพระนารายณ์ในที่สุด พฤกาสูรจึงเมือแตะลงบนหัวของตัวเอง

         บัดดลนั้น พรพระศิวะก็สัมฤทธิ์ผล เพลิงกรดจากมือของพฤกาสูรก็ลุกโซนเผาไหม้พฤกาสูรจนมอดม้วยมรณาไปในบัดนั่นเอง พระศิวะทรงถอนพระทัยโล่งอก แล้วทรงให้สัจจะว่าวันหน้าวันหลังจะช่วยพระนารายณ์เป็นการตอบแทนบ้าง ซึ่งในเวลาต่อมา เมื่อพระนารายณ์อวตารไปเป็นพระรามปราบยักษ์ทศกัณฐ์อันเป็นศึกใหญ่ที่ไม่ง่ายในการเอาชนะ พระศิวะก็ได้ทรงอวตารไปเป็นทหารเอกพระนารายณ์ที่แสนจะเก่งกาจฉลาดเฉลียวคนผู้นั้นก็คือ หนุมาน นั่นเอง ! ซึ่งน้อยคนนักที่จะทราบว่า หนุมาน คือ พระศิวะส่วนใหญ่พวกเราจะทราบกันดีว่าพระนารายณ์ทรงอวตารไปถึง ๑๐ ปางด้วยกัน แท้จริงนั้น พระศิวะก็เคยอวตารไปเพื่อเฉพาะกิจเช่นกัน นอกจากเรื่องของพฤกาสูรแล้ว พรของพระศิวะที่เคยประทานให้ "ตรีปุรำ"ยักษ์ระดับเจ้าครองนครนั้นก็ได้เกิดเรื่องราวสะเทือนสวรรค์ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะพรนั้นคือให้ตรีปุรำ เป็นอมตะ

       ใครผู้ใดก็มีอาจฆ่าให้ตายได้ต่อมาตรีปุรำกำเริบเสิบสาน กลายเป็นยักษ์อันพาลเกะกะระราน แม้กระทั่งเทพเทวะทั้งปวงจนปั่นป่วนเดือดร้อนกันไปทั่ว พระศิวะทรงปราบด้วยองค์เอง แต่ก็มิอาจสังหารได้ เพราะตรีปุรำมีพรวิเศษจากพระองค์เองเป็นเกราะป้องกัน ตรีปุรำยังมีศิวะลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ของพระศิวะคุ้มกายไว้อีกด้วย พระนารายณ์จึงทรงคิดหาอุบายช่วยพระศิวะ พระนารายณ์ทรงแปลงกายเป็นนักบวชผู้ทรงศีล ไปขอบิณฑบาตศิวลึงค์จากตรีปุรำ ยักษ์ตรีปุรำนั้นก็ถวายให้ด้วยดี เพราะเดิมในใจก็เป็นยักษ์ที่มุ่งในศีลในธรรมมาก่อนเมื่อตรีปุรำไร้ศิวลึงค์ พระศิวะก็ทรงกล้องแก้วส่องมาต้องกายของตรีปุรำจนเกิดเพลิงลุกไหม้เผาตรีปุรำมอดเป็นจุลไปได้

        ในที่สุดยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เด่นดังไม่แพ้กันนั่นก็คือเรื่องของนนทุก ยักษ์ชั้นผู้น้อยที่ถูกเทพเทวะข่มเหงบ่อย ๆจนเจ็บช้ำน้ำใจนัก พระศิวะจึงประทานพรวิเศษให้นนทุกมีนิ้วเพชร ถ้าชี้ไปยังผู้ใด ผู้นั้นก็จะด่าวดิ้นสิ้นใจตายทันที ต่อมานนทุกได้ใจ ใช้นิ้วเพชรเที่ยวได้ชี้ใครๆจนตายสิ้น เป็นที่เดือดร้อนกันทั่วสวรรค์ พระนารายณ์จึงรับอาสามาจัดการ ทรงอวตารเป็นนางเทพอัปสรผู้งดงามล้ำเลิศ มาหลอกล่อให้นนทุกร่ายระบำรำฟ้อนตามนางในหลากหลายท่วงท่าลีลา นนทุกเสน่ห์นางอัปสรแสนสวยที่มายั่วยวนชวนให้รัก ก็เผลอใจรำตามไปจนถึงท่าที่ต้องชี้นิ้วเพชรเข้าหาเท้าของตนเอง นนทุกจึงขาหักล้มทรุดลง นางเทพอัปสรก็กลายเป็นพระนารายณ์ขึ้นเหยียบอกสั่งสอน แต่นนทุกยังแย้งว่าพระนารายณ์มี ๔ กร ก็ย่อมเอาชนะตนได้ พระนารายณ์ก็ทรงเป็นลูกผู้ชายแท้ ๆ คนหนึ่ง จึงยอมต่อนนทุกโดยให้นนทุกไปเกิดใหม่เป็นยักษ์ที่มีถึง ๒๐ หน้า ๒๐ มือ แล้วก็ท้าไว้ว่าพระองค์จะตามไปสังหาร ด้วยเหตุฉะนี้นนทุกจึงไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ผู้โด่งดังเป็นคู่ปรับของพระนารายณ์ในกาลต่อมา เรื่องวุ่น เช่นนี้ก็มีที่มาจากพรของพระศิวะนั่นเองแต่พรวิเศษที่ทรงประทานให้แก่คนดี ๆ ก็มีมากมาย ใครที่มีความอดทน เป็นคนดี และศรัทธาในการบูชาพระองค์อย่างมุ่งมั่น จะได้รับการประทานพรวิเศษจากพระองค์เสมอไป

 

ทวีพร  คุณากรธีรมิตร  ม.6/4  เลขที่ 22

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 502 คน กำลังออนไลน์