อีกบทหนึ่งของชีวิต

ความ
รู้สึกของตัวเองในช่วงหลังบอกว่า
กล้าหาญมากกับการเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการในหน่วยงานที่ยังไม่มีประสบการณ์
ตรงเมื่อหลายปีที่ผ่านมา     
คงเป็นเพราะมีแรงจูงใจจากความกรุณาของผู้บริหารระดับสูง
ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักและร่วมงานกันมาก่อน
ท่านหยิบยื่นโอกาสอันสำคัญนี้ให้   และยังเปิดทางให้เลือกในอีก
3เดือนข้างหน้าหลังรับตำแหน่งผู้จัดการที่ว่านี้ 
คือหากทำไม่ได้หรือไม่ชอบใจ  ก็ยังมีตำแหน่งอื่นรองรับ   ขอเพียงอย่างเดียว
เข้าร่วมงานกับท่านในองค์กรนี้ และแน่นอน ในระดับเงินเดือนที่น่าพอใจ 
พร้อมที่พักภายในองค์กร (พร้อมค่าเช่ารายเดือนเช่นเดียวกับพนักงานรายอื่นๆ )

หลังรับตำแหน่ง จึงทราบว่าที่ผู้บริหารต้องการผู้จัดการคนใหม่  
เพราะปัญหาที่เกิดจากผู้จัดการคนก่อนนั้น  มีผลกระทบกับการดำเนินการด้าน
บุคลากรขององค์กรอย่างมาก
และสรรหามาหลายเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่ถูกใจ(สงสัยว่าผู้สมัครคนก่อนๆ
คงเรียกเงินเดือนสูง) และที่สำคัญ   มีสายสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น
ระหว่างทีมผู้บริหารกับผู้จัดการคนก่อน  
ซึ่งขณะนี้ถูกแต่งตั้งให้ดูแลงานในหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่   
แต่ไม่มีลูกน้องเลยสักคน  
และเป็นสายงานที่อยู่ใกล้ชิดกับงานที่ผู้เขียนเข้ารับผิดชอบเป็นอย่างมาก
และทีมลูกน้องเดิมก็ถูกโอนมาเป็นทีมของเรา ในระหว่าง 3
เดือนแรกของการเข้าทำงานใหม่  ประสบการณ์การบริหารที่มีอยู่เดิมถูกนำมาใช้
และหาความรู้ใหม่ที่ตรงกับสายงานที่รับผิดชอบ  ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ
โดยการเข้าร่วมป็นสมาชิกของชมรมบริหารงานบุคคล 
เข้ารับฟังการบรรยายจากผู้รู้ในที่ต่างๆ 
รวมทั้งเข้าดูงานในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีประเภทธุรกิจเดียวกัน
ค้นคว้าจากตำราที่มีอยู่อย่างมากมาย แล้วนำมาทดลองปรับใช้กับสถานการณ์จริง 

ช่วงนี้ยอมรับว่าถูกลองของหลายครั้ง
ระดับของพนักงานในองค์กรมีหลากหลาย  
และวัฒนธรรมองค์กรก็แปลกแตกต่างจากที่เคยพบเห็น
โดยเฉพาะระบบบริหารงานบุคคล     (ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยเพื่อความชัดเจนเช่น
ผู้บริหารระดับสูงบางท่าน
มีพนักงานจัดหาอาหารกลางวันและร่วมรับประทานด้วยกันที่หน่วยงานทุกวัน
บางท่านอนุญาตให้หัวหน้ามาทำงานสายได้ โดยไม่จำกัดเวลา
ทั้งที่เป็นสายงานบริการ   หรือนอนหลับในเวลางานได้โดยไม่ถูกตำหนิ  )
เหตุผลที่รับฟังมาคือองค์กรต้องพึ่งพิงคนกลุ่มนี้เพื่อให้อยู่ได้
และไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น 
จึงต้องยอมปล่อยให้เหตุการณ์ต่างๆอยู่ในสภาพดังกล่าว   
โชคดีของผู้เขียนที่ยังมีพนักงานอีกกลุ่มที่ต้องการปรับปรุงให้องค์กรมีความ
คล่องตัวในการทำงาน   ยืนอยู่บนความถูกต้อง   
และเพื่อความก้าวหน้าขององค์กร  และที่สำคัญ
ผู้บริหารสูงสุดให้การสนับสนุนผู้เขียนในการปรับทิศทางด้านการบริหารบุคลากร
เป็นอย่างดีทำให้พนักงานส่วนใหญ่ 
เริ่มเข้าใจและเห็นความจำเป็นของการพัฒนาปรับปรุงระบบระเบียบต่างๆให้ชัดเจน
ขึ้น ความร่วมมือจากพนักงานหลายๆระดับ เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น   

และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน 
เลขานุการผู้บริหารมากระซิบให้ทราบว่า
ผู้บริหารรู้สึกพอใจและไม่เสียดายเงินเดือนที่จ้างผู้จัดการคนใหม่เข้ามา   
ทำให้เกิดกำลังใจในการทำงานมากขึ้น  และแน่นอนว่า  เมื่อครบระยะเวลา 3
เดือนของการประเมินผลงาน    
ผู้เขียนก็ได้ทำงานในตำแหน่งนั้นเป็นการถาวร   
จึงเริ่มปรับปรุงและพัฒนางานในหลายๆด้าน   สร้างความสัมพันธ์เชื่อมโยง  
ระหว่างองค์กรกับพนักงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  โดยค่อยเป็นค่อยไป  
และยังประสบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ    
ต้องรับภาระในการทำความเข้าใจกับพนักงาน
กรณีขอความร่วมมือร่วมใจในการลงชื่อยินยอมลดเงินเดือนพนักงาน 
เพื่อความอยู่รอดขององค์กร ในระยะเวลา 7 ปี 
ผุ้เขียนต้องอดทนต่อปฏิกิริยาของอดีตผู้จัดการ ที่เล่นงานทั้งหนักและถี่ 
จนเกือบเลิกล้มความตั้งใจ  ขนของกลับบ้านก็หลายครั้ง  (ในปีสุดท้าย
อดีตผู้จัดการรายนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้มาเป็นลูกน้องของผู้เขียนและหันมาเป็น
คนที่เข้าใจดีต่อกันในที่สุด )  ที่สามารถทำงานต่อมาได้ถึง 7 ปี
คงเป็นเพราะผู้บริหาร มีคุณธรรม  ไม่ใช่นักธุรกิจที่หวังแต่กำไรอย่างเดียว 
ซึ่งหาได้ยากแล้วในยุคนี้

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 520 คน กำลังออนไลน์