• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:21830c9628fdf1fbdc9de71e1f9f0f55' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium; color: #d467f3; background-color: #ffc1e0\">นางสิบสอง</span> </span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><img border=\"0\" width=\"185\" src=\"/files/u1290/632.gif\" height=\"268\" /></span> </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">   กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า นนทเศรษฐี มีบ้านเรือนใหญ่โตและทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ไม่มีบุตรธิดาไว้คอยดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นเลย วันหนึ่งเขาไปนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขานำกล้วย 12 ผลไปถวายพระพุทธองค์ด้วย ในขณะถวายกล้วยต่อพระพุทธเจ้า เขาก็ตั้งอธิษฐานว่าด้วยอานิสงค์แห่งทานนี้ ขอให้เขามีบุตรหรือธิดาจำนวนเท่ากับกล้วยนั้น </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">   หลังจากกลับมาบ้าน เขาก็บอกกับภรรยาเกี่ยวกับความปรารถนาที่ตนได้อธิษฐานกับพระพุทธเจ้าไว้ ภรรยาของเขาดีใจมาก และหลังจากนั้นไม่นานนางก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกสาวจำนวนครบ 12 คนพอดี น้องสาวคนเล็กสุดมีชื่อว่า เภา มีความสวยและฉลาดกว่าใครทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากคลอดลูกสาวทั้ง 12 คนแล้ว โชคชะตาของท่านเศรษฐีและภรรยาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งคู่กลับจนลงทุกวันๆ การค้าขายก็ไม่ค่อยดีในขณะที่ลูกสาวก็กินจุขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนอาหารเลี้ยงดูบุตรสาวได้ เศรษฐีจึงตัดสินใจขายบ้านเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารเลี้ยงลูก ๆ จากที่เคยร่ำรวยก็กลับกลายเป็นจน เขาพาครอบครัวไปอยู่ที่กระท่อมในทุ่งนาและก็ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการทำนา บ่อยครั้งที่สองสามีภรรยาไม่สามารถหาอาหารเพียงพอเพื่อมาเลี้ยงบุตรสาวที่กำลังกินกำลังนอนได้ ทั้งคู่รู้สึกเสียใจที่เห็นบุตรสาวร้องไห้หาของกินแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี</span> </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">   ถึงแม้ว่าเขาจะรักบุตรสาวมาก แต่ก็สุดที่จะทนต่อสภาพเช่นนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแผนที่จะนำบุตรสาวของตนไปปล่อยในป่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากภรรยา นนทเศรษฐีนำบุตรสาวของตนขึ้นเกวียนพาออกไปในป่า ก่อนที่จะจากมาเขาก็เก็บผลไม้ไว้มากมายเพื่อให้ลูก ๆ ได้กินกัน แล้วปล่อยให้ทั้งหมดวิ่งเล่นอยู่ ณ ที่นั้นเอง ในขณะที่เด็ก ๆ เพลิดเพลินอยู่กับการเล่นนั้นเขาก็แอบกลับมาบ้านแต่เพียงลำพัง </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">   หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเล่น พี่น้องทั้งสิบสองคนก็มองหาบิดาของพวกตน เมื่อไม่เห็นบิดาอยู่บริเวณนั้นพวกเขาก็ร้องไห้กันกระจองอแง แต่เภาไม่รู้สึกตื่นเต้นตกใจอะไรนางปลอบพวกพี่ ๆ และบอกว่า ตนสามารถจำทางกลับบ้านได้ดี ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเภาก็สามารถพาพวกพี่ ๆ กลับมาถึงบ้านได้ ทันทีที่มาถึงบ้าน พวกเด็ก ๆ ก็หาของกินในครัวเพราะว่าเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินทางไกล </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">   สองสามีภรรยาทั้งดีใจและเสียใจปนกัน ที่ดีใจเพราะเห็นบุตรสาวของตนยังมีชีวิตอยู่และที่เสียใจก็เพราะต้องเผชิญกับความยากลำบากแบบเดิมอีก พวกเด็ก ๆ เองไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้าขอให้มีอาหารมาใส่ปากก็เพียงพอแล้ว พวกเด็ก ๆ มีความสุขในขณะที่พ่อแม่เสียใจเมื่อนึกถึงความตายของทุกคนอันเนื่องมาจากความอดอยาก <br />\n</span><br />\n   ครั้นรุ่งสาง ผู้เป็นบิดาก็คิดถึงแผนการที่จะเอาบุตรสาวไปปล่อยอีก ครั้งนี้เขาพาลูก ๆ ไปยังป่าลึก และใช้หนทางคดเคี้ยวมากจนยากที่จะจำได้ เมื่อรู้ว่าบิดาตนหายไปแล้วพี่น้องทั้งสิบาองคนก็หลงอยู่ในป่า ซึ่งใกล้กับบริเวณครอบครองโดยนางยักษ์ขิณีผู้เป็นม่ายชื่อว่า สันธมาลา (บ้างว่า สันตรา) สามีของนางที่ตายไปเป็นพญายักษ์ชื่อว่าท้าวสักกะ </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: medium\"></span><span style=\"font-size: medium\"></span></p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"> <img border=\"0\" width=\"270\" src=\"/files/u1290/momold.jpg\" height=\"203\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"><img border=\"0\" width=\"270\" src=\"/files/u1290/santra.jpg\" height=\"203\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium; color: #808000\">นางยักษ์สันธมาลา หรือ นางยักษ์สันตรา ตามจินตนาการของผู้สร้างละคร</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"></span>\n</p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"font-size: medium\">   ทันทีที่ได้เห็นพวกเด็ก ๆ นางยักษ์ผู้ไม่มีบุตรธิดาก็นึกรักพี่น้องทั้งสิบสองคนขึ้นมาทันทีและต้องการเลี้ยงดูอย่างน้องสาวหรือลูกสาวของตนก็ได้ แต่นางยักษ์ก็มีเจตนาเคลือบแฝงในการอุ้มชูพวกเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยเหมือนกัน เพราะนางยักษ์เองต้องการนัยน์ตาของเด็ก ๆ ไว้ผสมทำยาอายุวัฒนะกินด้วย ทันใดนั้นนางก็แปลงร่างเป็นหญิงสาวรูปร่างสวยเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ตกใจกลัวเมื่อเห็นตนเป็นยักษ์ หลังจากทำความคุ้นเคยกับเด็ก ๆ แล้วนางก็ชวนให้พวกเขาไปอยู่ในวังของตน ที่เมืองคชบุรีซึ่งมีของกินมากมาย เด็ก ๆ มีความยินดีมากที่ได้ยินเช่นนั้นและตกลงที่จะไปอยู่กับนางยักษ์ผู้ซึ่งส่งข่าวไปยังชาวเมืองของนางให้แปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อว่าธิดาบุญธรรมของตนจะได้ไม่ตกใจ นับแต่นั้นมาพี่น้องทั้งสิบสองก็อยู่กับนางยักษ์อย่างมีความสุขจนถึงวัยสาว </span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">   วันหนึ่งในขณะที่พี่สาวคนโตเพลิดเพลินอยู่กับการชื่นชมความสวยงามของดอกไม้อยู่นั้นนางก็เดินไกลออกไปและถึงบริเวณหวงห้าม ซึ่งนางยักษ์สันธมารกำลังกินเนื้อมนุษย์อยู่ นางเห็นเหตุการณ์เข้าโดยบังเอิญและยังได้เห็นคนถูกจับมาขังไว้เป็นจำนวนมากอีกด้วย นางก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ที่อุปถัมภ์ค้ำชูพวกตนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นยักษ์ในร่างแปลงของหญิงสาวผู้เลอโฉม แล้วนางก็บอกให้น้อง ๆ ของนางทราบ ผู้ซึ่งก็กลัวว่าอาจจะถูกยักษ์จับกินเข้าสักวันหนึ่งก็ได้ ดังนั้นพวกพี่น้องจึงเตรียมแผนหนีออกจากเมืองยักษ์ </span></span><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">แต่ก่อนที่จะหนีนางยักษ์ไปพวกเขาได้ช่วยปล่อยคนทั้งหมดที่นางยักษ์จับมาขังไว้เป็นอาหารแล้วก็เข้าไปซ่อนตัวในพุ่มไม้ซึ่งก็ยังไม่ปลอดภัย เพราะนางยักษ์ทำการค้นหาแบบพลิกแผ่นดินโชคดีที่รุกขเทวดาและสัตว์อื่น ๆ เข้ามาช่วย นางยักษ์หาพี่น้องทั้งหมดไม่พบ แต่นางยักษ์ก็ยังไม่ละความพยายามอยู่นั้นเอง ในเวลาเดียวกันขณะที่พระฤาษีกำลังเข้าฌานอยู่นั้นก็ได้เห็นเหตุการณ์และรู้สึกสงสารพี่น้องผู้น่าสงสารเหล่านั้น ท่านจึงดลใจให้นางยักษ์ไปค้นหาทางอื่นและก้ยกเลิกการค้นหาไปในที่สุด และแล้วพระฤาษีก็บอกหญิงสาวเหล่านั้นว่าเหตุที่พวกนางต้องเผชิญกับความทุกข์ยากเช่นนี้ ก็เพราะว่าเมื่อชาติที่แล้วพวกนางได้นำลูกสุนัขไปปล่อยทิ้งไว้ในป่า ดังนั้นบาปจึงตามพวกเขามาในชาตินี้และชาติหน้าจนกว่าจะครบ 500 ชาติจึงจะหมดกรรม</span> </span>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   หลังจากอำลาพระฤาษีแล้ว นางทั้งสิบสองก็ออกเดินทางต่อและไปถึงสระน้ำแห่งหนึ่งในเมืองงกุตารนคร ซึ่งปกครองโดยพระเจ้ารณสิทธิราช ทุกวันจะมีนางค่อมทาสีแบกหม้อน้ำทองคำมาตักน้ำไปให้พระราชาสรงในพระราชวัง ในขณะเตรียมที่จะตักน้ำจาสระ นางค่อมเหลือบไปเห็นเงาเหล่าหญิงสาวหน้าตาสวยคล้ายกับนางฟ้า นางเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเงาของตน แต่เมื่อพี่น้องทั้งสิบสองหัวเราะเยาะนาง นางก็แหงนหน้าขึ้นดูแล้วก็เห็นเหล่าหญิงสาวอยู่บนต้นไทร นางคิดว่าหญิงเหล่านั้นเป็นนางฟ้า จึงรีบไปกราบทูลให้พระราชาทรงทราบ และแล้วพระราชาก็รีบเสด็จมายังสระน้ำในทันที <br />\n</span></span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\"><img border=\"0\" width=\"270\" src=\"/files/u1290/78.jpg\" height=\"186\" /></span></span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium; color: #808000\"><span style=\"font-size: small\">ภาพนางทั้งสิบสองคน </span></span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium; color: #808000\"><span style=\"font-size: small\">(จากละครเรื่องนางสิบสอง)</span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   เมื่อได้เห็นพี่น้องทั้งสิบสองคน พระราชาก็ทรงตกตะลึงในความงามของพวกนางและสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน เมื่อได้รับการกราบทูลให้ทรงทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พระราชาจึงรับสั่งให้นางลงมาและให้ไปอยู่ในวังของพระองค์ แล้วพระราชาก็ทรงแต่งตั้งให้พวกนางทั้งหมดเป็นพระมเหสีของพระองค์ และเนื่องจากพวกนางมีชีวิตอยู่ในวังอย่างสุขสบายในฐานะพระมเหสี ตอนนี้พวกนางก็เลยคิดถึงบิดามารดาของพวกตนบ้าง ดังนั้นพวกนางจึงทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระราชานำบิดามารดาของพวกตนมาอยู่เสียด้วยกันในวัง พระราชาก็ทรงอนุญาตสองสามีภรรยาผู้น่าสงสารดีใจยิ่งนักที่ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้ากับบุตรสาวอีกครั้ง หลังจากที่ต้องพลัดพรากกันไปเสียนาน </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"font-size: medium\">   ในขณะเดียวกัน นางยักษ์สันธมาลาก็ได้ธิดาบุญธรรมชื่อว่า เมรี ผู้ซึ่งเป็นธิดาของเพื่อนสามานางมีนามว่า ปทุมราช ซึ่งก็เป็นเจ้าเมืองอสูรชื่อว่า กำพุธ ท้าวปทุมราชมีธิดา 2 คน ชื่อว่าเมรีและศรีทัศนา ทั้งสองพี่น้องถือกำเนิดจากมารดาผู้เป็นมนุษย์พระนามว่า พระนางศรีสมุทร เมื่อโหรหลวงของพระองค์ทำนายว่า ถ้าให้ธิดาทั้งสองคนอยู่รวมกันแล้วความหายนะที่ไม่ทราบสาเหตุก็จะนำความพินาศมาสู่ทุกชีวิตในเมือง ท้าวปทุมราชจึงมอบบุตรสาวของตนคนหนึ่งให้นางยักษ์สันธมาลาเลี้ยงดูนับแต่บัดนั้นมา</span><span style=\"font-size: medium\"> </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   ต่อมานางยักษ์สันธมาลาได้ข่าวว่านางสิบสองไปได้ดีมีความสุขก็เกิดความอิจฉาริษยาและเคียดแค้นมาก นางจึงตามนางสิบสองมายังเมืองกุตารนครและรอหญิงค่อมอยู่ที่ต้นไทรที่สระน้ำ ซึ่งนางจะต้องมานำน้ำไปให้พระราชาสรงเหมือนอย่างปกติ แล้วนางสันธมาลาก็แปลงร่างเป็นหญิงสาวมีหน้าตาสวยงามกว่านางสิบสองมาก เมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้สวยที่สุด นางค่อมก็รีบไปกราบทูลพระราชาผู้ซึ่งเสด็จมาทอดพระเนตรนาง และก็ต้องตะลึงในความงามของนาง พระราชาจึงนำนางเข้าวัง และทรงแต่งตั้งให้นางเป็นพระมเหสีองค์ใหม่และนางก็เป็นพระมเหสีที่โปรดปรานของพระราชาในทันที นับจากนั้นมานางสิบสองก็ประสบเคราะห์กรรมอย่างแสนสาหัส เพราะนางยักษ์ใช้มนต์สะกดให้พระราชาหลังรักนางจนกระทั่งอยู่ภายใต้อำนาจของนาง นางแกล้งป่วยและต้องการนัยน์ตาของนางสิบสองมาทำยา พระราชาก็ทรงรับสั่งให้นางสิบสองเข้าเฝ้าแล้วให้ควักดวงตาของนางสิบสองออก แต่เภาโชคดีกว่าพี่สาวคนอื่น ๆ เพราะพระองค์อนุญาตให้นางเหลือดวงตาไว้ข้างหนึ่ง </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   หลังจากรับสั่งให้ควักดวงตาของนางสิบสองออกแล้ว พระราชาก็รับสั่งให้นำอดีตพระมเหสีของพระองค์ไปขังไว้ในอุโมงค์ ซึ่งทั้งหมดต้องประสบความทุกข์ทรมานอย่างน่าสมเพทเวทนา ในขณะเดียวกันหลังจากได้ดวงตาของนางสิบสองแล้ว นางยักษ์สันธมาลาก็ส่งดวงตาทั้งหมดไปให้ธิดาบุญธรรมของนางเก็บไว้ ในเวลาต่อมาพี่น้องทั้งหมดยกเว้นเภาก็ตั้งครรภ์ พระอินทร์ทราบว่านางสิบสองได้รับความทุกข์ทรมานมาก และไม่มีใครดูแลจึงรับสั่งให้เทวดาลงไปเกิดเป็นลูกของน้องคนสุดท้อง ด้วยเหตุนั้นเภาจึงตั้งครรภ์ </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   นางยักษ์สั่งให้ทหารของตนเฝ้าอุโมงค์ไว้เพื่อไม่ให้ใครแอบช่วยเหลือนางสิบสองได้ กล่าวกันว่าสาเหตุที่นางสิบสองต้องได้รับความทุกข์เช่นนี้ ก็เพราะเมื่อชาติที่แล้วในขณะเล่นอยู่ริมแม่น้ำ พวกนางจับปลามา 12 ตัว แล้วใช้เหล็กแหลมทิ่มนัยน์ตาทั้งสองข้างของปลาเหล่านั้นแล้วก็ปล่อยลงในแม่น้ำ แต่ว่าเภาเองทิ่มแทงเพียงตาข้างเดียวของปลาที่ตนจับ ดังนั้นนางจึงไม่ถูกควักดวงตาทั้งสองข้าง </span></span></span>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\"> <span style=\"font-size: medium\">  ต่อมาพี่น้องทั้งหมดยกเว้นเภาก็คลอดลูกออกมาซึ่งถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ทันทีและแจกแบ่งกันกินเป็นอาหาร เนื่องจากพวกนางถูกทรมานด้วยความหิวมากจนกระทั่งต้องกินลูกของพวกตน แต่ถึงอย่างไรเภาก็ไม่ยอมกินเนื้อทารกที่ได้รับแบ่งให้นั้น ทุกครั้งที่นางได้ส่วนแบ่งนางก็จะนำไปซ่อนไว้ ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่นางคลอดลูกบ้างพี่ ๆ ของนางก็จะได้ไม่ฆ่าลูกของตน ดังนั้นนางจึงนำเนื้อทารกที่ซ่อนไว้มาแบ่งให้พวกพี่ ๆ แทน การทำเช่นนี้จึงไม่ทำให้พวกพี่ ๆ ของตนสงสัยในเจตนาของนางที่ต้องการเลี้ยงลูกไว้ แล้วเภาก็ตั้งชื่อลูกว่า รถเสน </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   ถึงแม้ว่าพวกทหารที่เฝ้าอุโมงค์จะรู้เกี่ยวกับการถือกำเนิดของรถเสน แต่ก็ไม่มีใครไปบอกให้นายของตนทราบ เพราะพวกเขาเองก็รักและเมตตากุมารน้อย ทั้งยังช่วยเลี้ยงดูให้อีกด้วยเมื่อรถเสนโตขึ้นเขาก็ถามมารดาถึงสาเหตุที่ต้องมาอยู่ในอุโมงค์ เภาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นลูกฟัง รถเสนรู้สึกเสียใจมากที่เห็นผู้เป็นมารดาและป้า ๆ ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ และแล้วพระอินทร์ก็เสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อสอนกลอุบายในการเล่นการพนันให้กับรถเสน พระอินทร์ได้ให้ไก่ชนวิเศษพร้อมทั้งเครื่องแต่งกายแก่รถเสนด้วย แล้วรถเสนก็ขออนุญาตมารดาเพื่อออกจาอุโมงค์ไปเผชิญกับโลกภายนอก เพราะตนเองก็โตเป็นหนุ่มแล้ว </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   เมื่อมาถึงศาลาสาธารณะ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นพนันไก่ชนอยู่ รถเสนจึงเล่นพนันนั้ด้วยและมีชัยชนะได้รางวัลพอที่จะซื้ออาหารมาให้มารดาและป้า ๆ ของตนได้ แน่นอนที่สุดว่าการถือกำเนิดของรถเสนนำมาซึ่งความหวังให้กับนางสิบสอง นับแต่นั้นมารถเสนก็ออกไปเล่นพนันทุกวันและมีชัยชนะทุกครั้งไป ข่าวการมีชัยชนะของรถเสนแพร่ไปถึงพระเจ้ารณสิทธิราช ทรงรับสั่งให้รถเสนเข้าเฝ้า แล้วพระราชาก็ชวนให้เขาเล่นสกากับพระองค์ รถเสนท้าพระราชาว่าถ้าหากเขาแพ้เขายินดีเป็นทาสของพระราชาตลอดไป แต่ถ้าหากว่าเขาชนะเขาต้องการเพียงข้าว 12 ห่อเท่านั้น พระราชาทรงตอบตกลง และผลก็ปรากฏว่าพระราชาทรงแพ้ถึง 2 ครั้ง ดังนั้นรถเสนจึงได้ข้าว 12 ห่อมาให้มารดาและป้าดังที่คาดหวังไว้ </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"font-size: medium\">   ในวันต่อมา พระราชาทรงพระประสงค์ที่จะเล่นสกากับรถเสนอีก พระองค์ชวนรถเสนไปเล่นกับพระองค์ในปราสาทเรือนทอง และถามชายหนุ่มเกี่ยวกับบิดามารดาของเขา หนุ่มน้อยจึงกราบทูลว่ามารดาของตนชื่อว่าเภา อยู่กับป้าทั้ง 11 คนของตนในอุโมงค์ หลังจากทรงทราบความจริง พระราชาก็สวมกอดชายหนุ่มและบอกกับเขาว่าเขาเป็นโอรสของพระองค์</span><span style=\"font-size: medium\"> </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   ในกาลต่อมา ท้าววัตถาเจ้าเมืองจินดามาท้าพระเจ้ารณสิทธิราชพนันชนไก่ รถเสนจึงอาสาพนันชนไก่แทนพระราชาและมีชัยชนะ นับแต่วันนั้นพระเจ้ารณสิทธิราชก็รักโอรสของพระองค์มาก และทรงประกาศว่าพระองค์รักโอรสดั่งดวงใจของพระองค์ </span></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   เมื่อได้ยินคำประกาศของพระราชา นางยักษ์สันธมาลาผู้ซึ่งตอนนี้เป็นหญิงสาวสวย ก็แกล้งทำเป็นป่วยหนักและต้องการผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีรสเปรี้ยว เรียกว่า มะงั่วหาวและมะนาวโห่เพื่อใช้ทำยาและมีอยู่แต่เฉพาะในเมืองของนางเท่านั้น นางสันธมาลาขอร้องให้พระราชาส่งเจ้าชายรถเสนไปนำผลไม้นั้นมาให้นาง พระราชาทรงตอบตกลงโดยไม่เต็มพระทัยนักและส่งเจ้าชายไปยังเมืองคชบุรี </span></span></span></span><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">แต่ก่อนจากไป เจ้าชายรถเสนขอให้พระราชาส่งอาหารไปให้มารดาและป้าของตนทุก ๆ วัน พระราชาทรงรับและทรงอนุญาตให้รถเสนใช้ม้าของพระองค์ชื่อม้าพาชี ซึ่งสามารถบินไปในอากาศได้เหมือนนก นางสันธมาลาจึงบอกให้รถเสนนำจดหมายไปให้บุตรสาวของตนด้วย แล้วเจ้าชายก็ผูกจดหมายไว้กับคอม้าและเริ่มออกเดินทาง </span></span></span></span><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"></span></span></span></p>\n<p>\n   เมื่อออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง รถเสนก็หยุดพักที่ศาลาพระฤาษีและปล่อยให้ม้าออกไปกินหญ้ากินน้ำในบริเวณใกล้ ๆ นั้น ทันใดนั้นพระฤาษีก็เหลือบไปเห็นลักษณะดีของม้าจึงเข้าไปดูใกล้ ๆ และก็พบว่ามีจดหมายแขวนอยู่ที่คอม้า ด้วยความสงสัยท่านจึงตัดสินใจเปิดอ่านโดยไม่ได้รับอนุญาตและก็พบข้อความประหลาดว่า ถ้าหากชายหนุ่มผู้นี้ถึงกลางวันให้กินกลางวันแต่ถ้าเขาถึงกลางคืนก็ให้กินกลางคืน พระฤาษีแปลกใจที่พบข้อความเช่นนั้น ท่านจึงเข้าฌานและก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระฤาษีคิดว่าเจ้าชายควรจะได้แต่งงานกับพระธิดาเมรีและปกครองเมืองยักษ์แทนที่จะมาถูกยักษ์กิน <span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">แล้วพระฤาษีก็เปลี่ยนข้อความใหม่เป็น &quot;ถึงกลางคืนให้รับกลางคืน ถึงกลางวันให้รับกลางวัน ผัวแก้วผัวขวัญของเมรี&quot; แล้วพระฤาษีก็กลับไปที่ศาลาของท่านอวยพรให้รถเสนโชคดีมีชัย</span></span></span>\n</p>\n<p></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\"> <span style=\"font-size: medium\">  ต่อมาพี่น้องทั้งหมดยกเว้นเภาก็คลอดลูกออกมาซึ่งถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ทันทีและแจกแบ่งกันกินเป็นอาหาร เนื่องจากพวกนางถูกทรมานด้วยความหิวมากจนกระทั่งต้องกินลูกของพวกตน แต่ถึงอย่างไรเภาก็ไม่ยอมกินเนื้อทารกที่ได้รับแบ่งให้นั้น ทุกครั้งที่นางได้ส่วนแบ่งนางก็จะนำไปซ่อนไว้ ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่นางคลอดลูกบ้างพี่ ๆ ของนางก็จะได้ไม่ฆ่าลูกของตน ดังนั้นนางจึงนำเนื้อทารกที่ซ่อนไว้มาแบ่งให้พวกพี่ ๆ แทน การทำเช่นนี้จึงไม่ทำให้พวกพี่ ๆ ของตนสงสัยในเจตนาของนางที่ต้องการเลี้ยงลูกไว้ แล้วเภาก็ตั้งชื่อลูกว่า รถเสน </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   ถึงแม้ว่าพวกทหารที่เฝ้าอุโมงค์จะรู้เกี่ยวกับการถือกำเนิดของรถเสน แต่ก็ไม่มีใครไปบอกให้นายของตนทราบ เพราะพวกเขาเองก็รักและเมตตากุมารน้อย ทั้งยังช่วยเลี้ยงดูให้อีกด้วยเมื่อรถเสนโตขึ้นเขาก็ถามมารดาถึงสาเหตุที่ต้องมาอยู่ในอุโมงค์ เภาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นลูกฟัง รถเสนรู้สึกเสียใจมากที่เห็นผู้เป็นมารดาและป้า ๆ ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ และแล้วพระอินทร์ก็เสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อสอนกลอุบายในการเล่นการพนันให้กับรถเสน พระอินทร์ได้ให้ไก่ชนวิเศษพร้อมทั้งเครื่องแต่งกายแก่รถเสนด้วย แล้วรถเสนก็ขออนุญาตมารดาเพื่อออกจาอุโมงค์ไปเผชิญกับโลกภายนอก เพราะตนเองก็โตเป็นหนุ่มแล้ว </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   เมื่อมาถึงศาลาสาธารณะ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นพนันไก่ชนอยู่ รถเสนจึงเล่นพนันนั้ด้วยและมีชัยชนะได้รางวัลพอที่จะซื้ออาหารมาให้มารดาและป้า ๆ ของตนได้ แน่นอนที่สุดว่าการถือกำเนิดของรถเสนนำมาซึ่งความหวังให้กับนางสิบสอง นับแต่นั้นมารถเสนก็ออกไปเล่นพนันทุกวันและมีชัยชนะทุกครั้งไป ข่าวการมีชัยชนะของรถเสนแพร่ไปถึงพระเจ้ารณสิทธิราช ทรงรับสั่งให้รถเสนเข้าเฝ้า แล้วพระราชาก็ชวนให้เขาเล่นสกากับพระองค์ รถเสนท้าพระราชาว่าถ้าหากเขาแพ้เขายินดีเป็นทาสของพระราชาตลอดไป แต่ถ้าหากว่าเขาชนะเขาต้องการเพียงข้าว 12 ห่อเท่านั้น พระราชาทรงตอบตกลง และผลก็ปรากฏว่าพระราชาทรงแพ้ถึง 2 ครั้ง ดังนั้นรถเสนจึงได้ข้าว 12 ห่อมาให้มารดาและป้าดังที่คาดหวังไว้ </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"font-size: medium\">   ในวันต่อมา พระราชาทรงพระประสงค์ที่จะเล่นสกากับรถเสนอีก พระองค์ชวนรถเสนไปเล่นกับพระองค์ในปราสาทเรือนทอง และถามชายหนุ่มเกี่ยวกับบิดามารดาของเขา หนุ่มน้อยจึงกราบทูลว่ามารดาของตนชื่อว่าเภา อยู่กับป้าทั้ง 11 คนของตนในอุโมงค์ หลังจากทรงทราบความจริง พระราชาก็สวมกอดชายหนุ่มและบอกกับเขาว่าเขาเป็นโอรสของพระองค์</span><span style=\"font-size: medium\"> </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   ในกาลต่อมา ท้าววัตถาเจ้าเมืองจินดามาท้าพระเจ้ารณสิทธิราชพนันชนไก่ รถเสนจึงอาสาพนันชนไก่แทนพระราชาและมีชัยชนะ นับแต่วันนั้นพระเจ้ารณสิทธิราชก็รักโอรสของพระองค์มาก และทรงประกาศว่าพระองค์รักโอรสดั่งดวงใจของพระองค์ </span></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">   เมื่อได้ยินคำประกาศของพระราชา นางยักษ์สันธมาลาผู้ซึ่งตอนนี้เป็นหญิงสาวสวย ก็แกล้งทำเป็นป่วยหนักและต้องการผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีรสเปรี้ยว เรียกว่า มะงั่วหาวและมะนาวโห่เพื่อใช้ทำยาและมีอยู่แต่เฉพาะในเมืองของนางเท่านั้น นางสันธมาลาขอร้องให้พระราชาส่งเจ้าชายรถเสนไปนำผลไม้นั้นมาให้นาง พระราชาทรงตอบตกลงโดยไม่เต็มพระทัยนักและส่งเจ้าชายไปยังเมืองคชบุรี </span></span></span></span><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: small\">แต่ก่อนจากไป เจ้าชายรถเสนขอให้พระราชาส่งอาหารไปให้มารดาและป้าของตนทุก ๆ วัน พระราชาทรงรับและทรงอนุญาตให้รถเสนใช้ม้าของพระองค์ชื่อม้าพาชี ซึ่งสามารถบินไปในอากาศได้เหมือนนก นางสันธมาลาจึงบอกให้รถเสนนำจดหมายไปให้บุตรสาวของตนด้วย แล้วเจ้าชายก็ผูกจดหมายไว้กับคอม้าและเริ่มออกเดินทาง </span></span></span></span><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"></span></span></span></p>\n<p>\n   เมื่อออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง รถเสนก็หยุดพักที่ศาลาพระฤาษีและปล่อยให้ม้าออกไปกินหญ้ากินน้ำในบริเวณใกล้ ๆ นั้น ทันใดนั้นพระฤาษีก็เหลือบไปเห็นลักษณะดีของม้าจึงเข้าไปดูใกล้ ๆ และก็พบว่ามีจดหมายแขวนอยู่ที่คอม้า ด้วยความสงสัยท่านจึงตัดสินใจเปิดอ่านโดยไม่ได้รับอนุญาตและก็พบข้อความประหลาดว่า ถ้าหากชายหนุ่มผู้นี้ถึงกลางวันให้กินกลางวันแต่ถ้าเขาถึงกลางคืนก็ให้กินกลางคืน พระฤาษีแปลกใจที่พบข้อความเช่นนั้น ท่านจึงเข้าฌานและก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระฤาษีคิดว่าเจ้าชายควรจะได้แต่งงานกับพระธิดาเมรีและปกครองเมืองยักษ์แทนที่จะมาถูกยักษ์กิน <span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\"><span style=\"font-size: medium\">แล้วพระฤาษีก็เปลี่ยนข้อความใหม่เป็น &quot;ถึงกลางคืนให้รับกลางคืน ถึงกลางวันให้รับกลางวัน ผัวแก้วผัวขวัญของเมรี&quot; แล้วพระฤาษีก็กลับไปที่ศาลาของท่านอวยพรให้รถเสนโชคดีมีชัย</span></span></span>\n</p>\n<p></p>\n', created = 1726514405, expire = 1726600805, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:21830c9628fdf1fbdc9de71e1f9f0f55' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

0211 นางสิบสอง

นางสิบสอง

   กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า นนทเศรษฐี มีบ้านเรือนใหญ่โตและทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ไม่มีบุตรธิดาไว้คอยดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นเลย วันหนึ่งเขาไปนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขานำกล้วย 12 ผลไปถวายพระพุทธองค์ด้วย ในขณะถวายกล้วยต่อพระพุทธเจ้า เขาก็ตั้งอธิษฐานว่าด้วยอานิสงค์แห่งทานนี้ ขอให้เขามีบุตรหรือธิดาจำนวนเท่ากับกล้วยนั้น

   หลังจากกลับมาบ้าน เขาก็บอกกับภรรยาเกี่ยวกับความปรารถนาที่ตนได้อธิษฐานกับพระพุทธเจ้าไว้ ภรรยาของเขาดีใจมาก และหลังจากนั้นไม่นานนางก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกสาวจำนวนครบ 12 คนพอดี น้องสาวคนเล็กสุดมีชื่อว่า เภา มีความสวยและฉลาดกว่าใครทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากคลอดลูกสาวทั้ง 12 คนแล้ว โชคชะตาของท่านเศรษฐีและภรรยาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งคู่กลับจนลงทุกวันๆ การค้าขายก็ไม่ค่อยดีในขณะที่ลูกสาวก็กินจุขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนอาหารเลี้ยงดูบุตรสาวได้ เศรษฐีจึงตัดสินใจขายบ้านเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารเลี้ยงลูก ๆ จากที่เคยร่ำรวยก็กลับกลายเป็นจน เขาพาครอบครัวไปอยู่ที่กระท่อมในทุ่งนาและก็ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการทำนา บ่อยครั้งที่สองสามีภรรยาไม่สามารถหาอาหารเพียงพอเพื่อมาเลี้ยงบุตรสาวที่กำลังกินกำลังนอนได้ ทั้งคู่รู้สึกเสียใจที่เห็นบุตรสาวร้องไห้หาของกินแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

   ถึงแม้ว่าเขาจะรักบุตรสาวมาก แต่ก็สุดที่จะทนต่อสภาพเช่นนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแผนที่จะนำบุตรสาวของตนไปปล่อยในป่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากภรรยา นนทเศรษฐีนำบุตรสาวของตนขึ้นเกวียนพาออกไปในป่า ก่อนที่จะจากมาเขาก็เก็บผลไม้ไว้มากมายเพื่อให้ลูก ๆ ได้กินกัน แล้วปล่อยให้ทั้งหมดวิ่งเล่นอยู่ ณ ที่นั้นเอง ในขณะที่เด็ก ๆ เพลิดเพลินอยู่กับการเล่นนั้นเขาก็แอบกลับมาบ้านแต่เพียงลำพัง

   หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเล่น พี่น้องทั้งสิบสองคนก็มองหาบิดาของพวกตน เมื่อไม่เห็นบิดาอยู่บริเวณนั้นพวกเขาก็ร้องไห้กันกระจองอแง แต่เภาไม่รู้สึกตื่นเต้นตกใจอะไรนางปลอบพวกพี่ ๆ และบอกว่า ตนสามารถจำทางกลับบ้านได้ดี ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเภาก็สามารถพาพวกพี่ ๆ กลับมาถึงบ้านได้ ทันทีที่มาถึงบ้าน พวกเด็ก ๆ ก็หาของกินในครัวเพราะว่าเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินทางไกล

   สองสามีภรรยาทั้งดีใจและเสียใจปนกัน ที่ดีใจเพราะเห็นบุตรสาวของตนยังมีชีวิตอยู่และที่เสียใจก็เพราะต้องเผชิญกับความยากลำบากแบบเดิมอีก พวกเด็ก ๆ เองไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้าขอให้มีอาหารมาใส่ปากก็เพียงพอแล้ว พวกเด็ก ๆ มีความสุขในขณะที่พ่อแม่เสียใจเมื่อนึกถึงความตายของทุกคนอันเนื่องมาจากความอดอยาก

   ครั้นรุ่งสาง ผู้เป็นบิดาก็คิดถึงแผนการที่จะเอาบุตรสาวไปปล่อยอีก ครั้งนี้เขาพาลูก ๆ ไปยังป่าลึก และใช้หนทางคดเคี้ยวมากจนยากที่จะจำได้ เมื่อรู้ว่าบิดาตนหายไปแล้วพี่น้องทั้งสิบาองคนก็หลงอยู่ในป่า ซึ่งใกล้กับบริเวณครอบครองโดยนางยักษ์ขิณีผู้เป็นม่ายชื่อว่า สันธมาลา (บ้างว่า สันตรา) สามีของนางที่ตายไปเป็นพญายักษ์ชื่อว่าท้าวสักกะ

 

นางยักษ์สันธมาลา หรือ นางยักษ์สันตรา ตามจินตนาการของผู้สร้างละคร


   ทันทีที่ได้เห็นพวกเด็ก ๆ นางยักษ์ผู้ไม่มีบุตรธิดาก็นึกรักพี่น้องทั้งสิบสองคนขึ้นมาทันทีและต้องการเลี้ยงดูอย่างน้องสาวหรือลูกสาวของตนก็ได้ แต่นางยักษ์ก็มีเจตนาเคลือบแฝงในการอุ้มชูพวกเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยเหมือนกัน เพราะนางยักษ์เองต้องการนัยน์ตาของเด็ก ๆ ไว้ผสมทำยาอายุวัฒนะกินด้วย ทันใดนั้นนางก็แปลงร่างเป็นหญิงสาวรูปร่างสวยเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ตกใจกลัวเมื่อเห็นตนเป็นยักษ์ หลังจากทำความคุ้นเคยกับเด็ก ๆ แล้วนางก็ชวนให้พวกเขาไปอยู่ในวังของตน ที่เมืองคชบุรีซึ่งมีของกินมากมาย เด็ก ๆ มีความยินดีมากที่ได้ยินเช่นนั้นและตกลงที่จะไปอยู่กับนางยักษ์ผู้ซึ่งส่งข่าวไปยังชาวเมืองของนางให้แปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อว่าธิดาบุญธรรมของตนจะได้ไม่ตกใจ นับแต่นั้นมาพี่น้องทั้งสิบสองก็อยู่กับนางยักษ์อย่างมีความสุขจนถึงวัยสาว

   วันหนึ่งในขณะที่พี่สาวคนโตเพลิดเพลินอยู่กับการชื่นชมความสวยงามของดอกไม้อยู่นั้นนางก็เดินไกลออกไปและถึงบริเวณหวงห้าม ซึ่งนางยักษ์สันธมารกำลังกินเนื้อมนุษย์อยู่ นางเห็นเหตุการณ์เข้าโดยบังเอิญและยังได้เห็นคนถูกจับมาขังไว้เป็นจำนวนมากอีกด้วย นางก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ที่อุปถัมภ์ค้ำชูพวกตนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นยักษ์ในร่างแปลงของหญิงสาวผู้เลอโฉม แล้วนางก็บอกให้น้อง ๆ ของนางทราบ ผู้ซึ่งก็กลัวว่าอาจจะถูกยักษ์จับกินเข้าสักวันหนึ่งก็ได้ ดังนั้นพวกพี่น้องจึงเตรียมแผนหนีออกจากเมืองยักษ์ แต่ก่อนที่จะหนีนางยักษ์ไปพวกเขาได้ช่วยปล่อยคนทั้งหมดที่นางยักษ์จับมาขังไว้เป็นอาหารแล้วก็เข้าไปซ่อนตัวในพุ่มไม้ซึ่งก็ยังไม่ปลอดภัย เพราะนางยักษ์ทำการค้นหาแบบพลิกแผ่นดินโชคดีที่รุกขเทวดาและสัตว์อื่น ๆ เข้ามาช่วย นางยักษ์หาพี่น้องทั้งหมดไม่พบ แต่นางยักษ์ก็ยังไม่ละความพยายามอยู่นั้นเอง ในเวลาเดียวกันขณะที่พระฤาษีกำลังเข้าฌานอยู่นั้นก็ได้เห็นเหตุการณ์และรู้สึกสงสารพี่น้องผู้น่าสงสารเหล่านั้น ท่านจึงดลใจให้นางยักษ์ไปค้นหาทางอื่นและก้ยกเลิกการค้นหาไปในที่สุด และแล้วพระฤาษีก็บอกหญิงสาวเหล่านั้นว่าเหตุที่พวกนางต้องเผชิญกับความทุกข์ยากเช่นนี้ ก็เพราะว่าเมื่อชาติที่แล้วพวกนางได้นำลูกสุนัขไปปล่อยทิ้งไว้ในป่า ดังนั้นบาปจึงตามพวกเขามาในชาตินี้และชาติหน้าจนกว่าจะครบ 500 ชาติจึงจะหมดกรรม

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 439 คน กำลังออนไลน์