0211 นางสิบสอง
นางสิบสอง
กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า นนทเศรษฐี มีบ้านเรือนใหญ่โตและทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ไม่มีบุตรธิดาไว้คอยดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นเลย วันหนึ่งเขาไปนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขานำกล้วย 12 ผลไปถวายพระพุทธองค์ด้วย ในขณะถวายกล้วยต่อพระพุทธเจ้า เขาก็ตั้งอธิษฐานว่าด้วยอานิสงค์แห่งทานนี้ ขอให้เขามีบุตรหรือธิดาจำนวนเท่ากับกล้วยนั้น
หลังจากกลับมาบ้าน เขาก็บอกกับภรรยาเกี่ยวกับความปรารถนาที่ตนได้อธิษฐานกับพระพุทธเจ้าไว้ ภรรยาของเขาดีใจมาก และหลังจากนั้นไม่นานนางก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกสาวจำนวนครบ 12 คนพอดี น้องสาวคนเล็กสุดมีชื่อว่า เภา มีความสวยและฉลาดกว่าใครทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากคลอดลูกสาวทั้ง 12 คนแล้ว โชคชะตาของท่านเศรษฐีและภรรยาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งคู่กลับจนลงทุกวันๆ การค้าขายก็ไม่ค่อยดีในขณะที่ลูกสาวก็กินจุขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนอาหารเลี้ยงดูบุตรสาวได้ เศรษฐีจึงตัดสินใจขายบ้านเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารเลี้ยงลูก ๆ จากที่เคยร่ำรวยก็กลับกลายเป็นจน เขาพาครอบครัวไปอยู่ที่กระท่อมในทุ่งนาและก็ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการทำนา บ่อยครั้งที่สองสามีภรรยาไม่สามารถหาอาหารเพียงพอเพื่อมาเลี้ยงบุตรสาวที่กำลังกินกำลังนอนได้ ทั้งคู่รู้สึกเสียใจที่เห็นบุตรสาวร้องไห้หาของกินแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ถึงแม้ว่าเขาจะรักบุตรสาวมาก แต่ก็สุดที่จะทนต่อสภาพเช่นนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแผนที่จะนำบุตรสาวของตนไปปล่อยในป่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากภรรยา นนทเศรษฐีนำบุตรสาวของตนขึ้นเกวียนพาออกไปในป่า ก่อนที่จะจากมาเขาก็เก็บผลไม้ไว้มากมายเพื่อให้ลูก ๆ ได้กินกัน แล้วปล่อยให้ทั้งหมดวิ่งเล่นอยู่ ณ ที่นั้นเอง ในขณะที่เด็ก ๆ เพลิดเพลินอยู่กับการเล่นนั้นเขาก็แอบกลับมาบ้านแต่เพียงลำพัง
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเล่น พี่น้องทั้งสิบสองคนก็มองหาบิดาของพวกตน เมื่อไม่เห็นบิดาอยู่บริเวณนั้นพวกเขาก็ร้องไห้กันกระจองอแง แต่เภาไม่รู้สึกตื่นเต้นตกใจอะไรนางปลอบพวกพี่ ๆ และบอกว่า ตนสามารถจำทางกลับบ้านได้ดี ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเภาก็สามารถพาพวกพี่ ๆ กลับมาถึงบ้านได้ ทันทีที่มาถึงบ้าน พวกเด็ก ๆ ก็หาของกินในครัวเพราะว่าเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินทางไกล
สองสามีภรรยาทั้งดีใจและเสียใจปนกัน ที่ดีใจเพราะเห็นบุตรสาวของตนยังมีชีวิตอยู่และที่เสียใจก็เพราะต้องเผชิญกับความยากลำบากแบบเดิมอีก พวกเด็ก ๆ เองไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้าขอให้มีอาหารมาใส่ปากก็เพียงพอแล้ว พวกเด็ก ๆ มีความสุขในขณะที่พ่อแม่เสียใจเมื่อนึกถึงความตายของทุกคนอันเนื่องมาจากความอดอยาก
ครั้นรุ่งสาง ผู้เป็นบิดาก็คิดถึงแผนการที่จะเอาบุตรสาวไปปล่อยอีก ครั้งนี้เขาพาลูก ๆ ไปยังป่าลึก และใช้หนทางคดเคี้ยวมากจนยากที่จะจำได้ เมื่อรู้ว่าบิดาตนหายไปแล้วพี่น้องทั้งสิบาองคนก็หลงอยู่ในป่า ซึ่งใกล้กับบริเวณครอบครองโดยนางยักษ์ขิณีผู้เป็นม่ายชื่อว่า สันธมาลา (บ้างว่า สันตรา) สามีของนางที่ตายไปเป็นพญายักษ์ชื่อว่าท้าวสักกะ
นางยักษ์สันธมาลา หรือ นางยักษ์สันตรา ตามจินตนาการของผู้สร้างละคร
ทันทีที่ได้เห็นพวกเด็ก ๆ นางยักษ์ผู้ไม่มีบุตรธิดาก็นึกรักพี่น้องทั้งสิบสองคนขึ้นมาทันทีและต้องการเลี้ยงดูอย่างน้องสาวหรือลูกสาวของตนก็ได้ แต่นางยักษ์ก็มีเจตนาเคลือบแฝงในการอุ้มชูพวกเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยเหมือนกัน เพราะนางยักษ์เองต้องการนัยน์ตาของเด็ก ๆ ไว้ผสมทำยาอายุวัฒนะกินด้วย ทันใดนั้นนางก็แปลงร่างเป็นหญิงสาวรูปร่างสวยเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ตกใจกลัวเมื่อเห็นตนเป็นยักษ์ หลังจากทำความคุ้นเคยกับเด็ก ๆ แล้วนางก็ชวนให้พวกเขาไปอยู่ในวังของตน ที่เมืองคชบุรีซึ่งมีของกินมากมาย เด็ก ๆ มีความยินดีมากที่ได้ยินเช่นนั้นและตกลงที่จะไปอยู่กับนางยักษ์ผู้ซึ่งส่งข่าวไปยังชาวเมืองของนางให้แปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อว่าธิดาบุญธรรมของตนจะได้ไม่ตกใจ นับแต่นั้นมาพี่น้องทั้งสิบสองก็อยู่กับนางยักษ์อย่างมีความสุขจนถึงวัยสาว
วันหนึ่งในขณะที่พี่สาวคนโตเพลิดเพลินอยู่กับการชื่นชมความสวยงามของดอกไม้อยู่นั้นนางก็เดินไกลออกไปและถึงบริเวณหวงห้าม ซึ่งนางยักษ์สันธมารกำลังกินเนื้อมนุษย์อยู่ นางเห็นเหตุการณ์เข้าโดยบังเอิญและยังได้เห็นคนถูกจับมาขังไว้เป็นจำนวนมากอีกด้วย นางก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ที่อุปถัมภ์ค้ำชูพวกตนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นยักษ์ในร่างแปลงของหญิงสาวผู้เลอโฉม แล้วนางก็บอกให้น้อง ๆ ของนางทราบ ผู้ซึ่งก็กลัวว่าอาจจะถูกยักษ์จับกินเข้าสักวันหนึ่งก็ได้ ดังนั้นพวกพี่น้องจึงเตรียมแผนหนีออกจากเมืองยักษ์ แต่ก่อนที่จะหนีนางยักษ์ไปพวกเขาได้ช่วยปล่อยคนทั้งหมดที่นางยักษ์จับมาขังไว้เป็นอาหารแล้วก็เข้าไปซ่อนตัวในพุ่มไม้ซึ่งก็ยังไม่ปลอดภัย เพราะนางยักษ์ทำการค้นหาแบบพลิกแผ่นดินโชคดีที่รุกขเทวดาและสัตว์อื่น ๆ เข้ามาช่วย นางยักษ์หาพี่น้องทั้งหมดไม่พบ แต่นางยักษ์ก็ยังไม่ละความพยายามอยู่นั้นเอง ในเวลาเดียวกันขณะที่พระฤาษีกำลังเข้าฌานอยู่นั้นก็ได้เห็นเหตุการณ์และรู้สึกสงสารพี่น้องผู้น่าสงสารเหล่านั้น ท่านจึงดลใจให้นางยักษ์ไปค้นหาทางอื่นและก้ยกเลิกการค้นหาไปในที่สุด และแล้วพระฤาษีก็บอกหญิงสาวเหล่านั้นว่าเหตุที่พวกนางต้องเผชิญกับความทุกข์ยากเช่นนี้ ก็เพราะว่าเมื่อชาติที่แล้วพวกนางได้นำลูกสุนัขไปปล่อยทิ้งไว้ในป่า ดังนั้นบาปจึงตามพวกเขามาในชาตินี้และชาติหน้าจนกว่าจะครบ 500 ชาติจึงจะหมดกรรม
- 1
- 2
- 3
- 4
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »