พัทยาเมืองแห่งราตรี
Home
ผู้จัดทำ
เจ้าพ่อเขาใหญ่
หาดถ้ำเขาพัง
ช่องเขาขาด
เขาสามมุข
แหลมแท่น
ชายหาดบางแสน
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบางพระจังหวัดชลบุรี
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศจัดตั้งเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบาง พระตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2519 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 92 ตอนที่ 82 ลงวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2519 บนเนื้อที่ 11,600 ไร่ ได้กักเก็บน้ำไว้เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรอุตสาหกรรม และผลิตประปาเพื่อการบริโภค สามารถกักน้ำได้สูงถึง 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบบนิเวศวิทยาที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีนกน้ำนานาชนิดเข้าไปหากินและอาศัยอยู่บริเวณรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำบางพระ เช่น นกเป็ดน้ำต่าง ๆ นกยาง นกพริกฯลฯ และนกที่หากินตามทุ่งหญ้าชายป่าต่าง ๆ เช่น นกกวัก นกคุ่ม นกตะขาบทุ่ง ฯลฯ เมื่อชาวบ้านผ่านมาท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำมักจะถือโอกาสยิงนกไปเป็นอาหาร บางคนถึงกับล่าเอาไปขายเพื่อการค้า ได้มีการร้องเรียนไปยังกองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยจัดตั้งสำนักงานขึ้นและตั้งหน่วยพิทักษ์ป่าย่อยอีกหนึ่งแห่งข้างวัดโปทาราม
ลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนดินยาว 1,720 เมตร กักเก็บน้ำได้ในระดับสูงสุด 30.6 เมตรจากระดับน้ำ ทะเลปานกลาง มีเนื้อที่รวม 11,600 ไร่ เนื้อที่เป็นผืนน้ำประมาณ 5,000 ไร่
พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบางพระ จ. ชลบุรี มีระบบนิเวศที่หลากหลายถึง 3 ลักษณะ คือ 1. เป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่รับน้ำได้ประมาณ 5,000 ไร่ มีกุ้ง หอย ปู ปลา ชุกชุมเป็นแหล่งประมงของ ชาวบ้าน ขณะเดียวกันเป็นแหล่งหากินของนกน้ำต่าง ๆ เช่น นกอีโก้ง นกตีนเทียน นกยาง นกเป็ดน้ำ ฯลฯ ที่สำคัญ คือ นกขนาดใหญ่ที่คืนสู่ธรรมชาติได้แก่ นกกาบบัว นกกระทุง ก็มาหากินบ้างแล้ว 2. เป็นทุ่งหญ้าเนื้อที่ประมาณ 2,000 - 3,000 ไร่ ได้แก่ บริเวณที่น้ำท่วมถึงในฤดูฝนและลดลงกลายเป็น ทุ่งหญ้าในฤดูแล้งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกทุ่งต่าง ๆ เช่น นกกวัก นกกระทา นกกระแตแต้แว้ด ฯลฯ น่าเสียดายที่มีการเลี้ยงวัว - ควาย กันมากกว่า 1,000 ตัว จากเจ้าของ 14 ราย ซึ่งตามกฎหมายใหม่ปี 2535 มีข้อห้ามแต่ไม่สามารถมีผลย้อนหลังกับการเลี้ยงวัวได้ เพียงแต่ขอกันบริเวณบางส่วนให้นกได้มีโอกาสอยู่อาศัยหากิน ทำรัง วางไข่ แพร่พันธุ์ได้ต่อไป 3. เป็นป่าละเมาะ จากการปลูกป่า 1,400 ไร่ ระหว่างปี พ.ศ. 2520 - 2524 และปลูกเสริมอีก 155 ไร่ ระหว่างปี พ.ศ. 2535 - 2537เพื่อเป็นป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ ทำให้เกิดความร่มเย็น ชุ่มชื้น
เป็นที่อยู่อาศัยหากินของนกมากมาย เช่น นกกระรางหัวหงอกนกแซงแซวนกโพระดก นกชมพูสวน นกบั้งรอก ฯลฯ จำนวนผู้เข้าใช้งาน |