|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||
สังข์ศิลป์ไชยเป็นบทละครนอกพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ครั้นพระองค์ยังดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เรื่องนี้จึงแตกต่างจากบทละครนอกทั้ง 3 เรื่องในด้านของผู้ที่พระราชนิพนธ์ โดยทั้ง ๕ เรื่องที่เป็นบทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สังข์ศิลป์ไชยเป็นเริ่มต้นเรื่องราวโดยท้าวเสนากุฏครองเมืองปัญจาล มีขนิษฐาชื่อนางเกสรสุมณฑา อยู่มาวันหนึ่ง นางเกสรสุมณฑาถูกท้าวกุมภัณฑ์เจ้าเมืองอราชผู้เป็นยักษ์ลักตัวไป ท้าวเสนากุฏออกติดตามไปพบธิดาทั้ง ๗ คนของเศรษฐี ก็พอพระทัย จึงขอนางทั้งเจ็ดมาเป็นบาทบริจาริกา ต่อมานางไกรสรซึ่งเป็นคนรับใช้ของนางประทุมมาธิดาองค์ที่ ๗ และเป็นบาทบริจาริกาอีกคนหนึ่งมีลูกลักษณะเป็นราชสีห์มิใช่มนุษย์จึงได้ชื่อว่าสิงหรา ส่วนนางทั้งเจ็ดต่างก็มีโอรส ทุกคน เฉพาะโอรสของนางประทุมผู้เป็นน้องคนสุดท้องนั้นเกิดมามี สังข์ ศร และพระขรรค์ติดมาด้วยจึงได้ชื่อว่า สังข์ศิลป์ชัย (สังข์ คือหอยสังข์ ศิลป์ คือ ศิลป์ศรชัย คือ พระขรรค์ชัยศรี) นางผู้พี่ทั้งหกเห็นโอรสของนางประทุมมีบุญญาธิการผิดกับโอรสของตนก็เกิดความริษยาจึงติดสินบนโหรให้พยากรณ์ว่าเป็นกาลกิณี ท้าวเสนากุฏจึงทรงขับพระสังศิลป์ไชยและสิงหราพร้อมด้วยมารดาออกจากเมือง เหล่านี้เป็นเนื้อเรื่องเพียงตอนต้นที่แสดงให้เห็นจึงความแตกแยกหรือเกิดความไม่สมบูรณ์ขึ้นในครอบครัว ปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวเกิดความแตกแยกนี้ก็มีความเหมือนกับบทละครนอกทั้ง ๕ เรื่องที่ได้กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นสังข์ทอง คาวี ไชยเชษฐ์ ไกรทอง และมณีพิชัย โดยเรื่องนี้พื้นฐานของปัจจัยที่แท้จริงก็เกิดจากกิเลสภายในใจของมนุษย์เอง ก็คือ ความอิจฉาริษยา ที่นางผู้พี่ทั้ง ๖ คนอิจฉาน้องที่ได้ดีกว่า ทำให้ครอบครัวจะต้องแตกแยก จนนางต้องถูกขับไล่พร้อมบาทบริจาริกาอีกคน คือนางไกรสร ที่ออกลูกเป็นสิงหรา แต่ปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยกนี้ก็ยังถูกถ่ายทอดมายังรุ่นลูก ทำให้พี่น้องต้องถึงขนาดที่จะคิดฆ่ากันด้วยความอิจฉา ที่สังข์ศิลป์ชัยสามารถไปช่วยนางเกสรสุมณฑาและนางศรีสุพรรณซึ่งเป็นลูกสาวของนางกับท้าวกุมภัณฑ์ โดยถูกพ่อที่เล่นสกาแพ้พระยานาคยกให้พระยานาคออกมาได้ ทำให้พี่ทั้ง ๖ ที่รับอาสาท้าวเสนากุฏผู้เป็นพระราชบิดามารับนางเกสรสุมณฑาผู้เป็นน้อง แต่ทั้ง ๖ จึงหลอกให้สังข์ศิลป์ชัยไปช่วยและกลับจะฆ่าทิ้งเสีย เพราะต้องการได้หน้า และกลัวที่จะต้องถูกทำโทษ ไม่ว่าจะโดยหนทางใดก็ตาม จึงเข้ามาสู่บทละครนอกในตอนที่ ๑ คือ สังข์ศิลป์ชัยตกเหว กล่าวคือ
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครที่ได้รับอิทธิพลของปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวแตกแยกอย่าง ศรีสันท์จึงมีแต่ความอิจฉาริษยา ไม่มีความรักน้อง รักแต่ตนเองทั้งที่ตัวเองเป็นที่คนโตที่ควรจะรัก และดูแลน้อง ๆ แต่กิเลสในใจที่ถูกปลูกฝังจึงทำให้ครอบครัวต้องมีการแตกแยกเกิดขึ้น จนกระทั่งส่งผลให้นิสัยของศรีสันท์เองก็เป็นคนที่อิจฉาริษยา และมักที่จะเอาตัวรอดอยู่เสมอ เช่น ในตอนที่นางศรีสุพรรณทูลต่อท้าวเสนากุฏว่า ขณะเดินทางกลับมายังเมืองถูกศรีสันท์ลวนลามอย่างไรบ้าง และนางเกสรสุมณฑาเองก็ยังย้ำชัดและยืนยันในคำพูดของลูกสาว แต่ทว่าศรีสันท์กับพูดจาแก้ตัว คือ
|
จัดทำโดยครูชนัตตา
ปุยงาม
โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นนทบุรี เขตบางกรวย
นนทบุรี
Copyright(c)2009 Ms.Chanatta Puingam. All rights reserved.
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552
thaigoodview.com ปีที่ 10
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail: webmaster@thaigoodview.com