๖๐ปีเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
นับจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
แห่งการเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ต่อมาในวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้จัดพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก คือการฉลองครองสิริราชสมบัติครบ ๔๒ปี ๒๓วัน
พุทธศักราช ๒๕๓๙
เป็นช่วงเวลาที่คนไทยร่วมจัดงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ในวโรกาสที่องค์พระประมุขครองสิริราชสมบัติครบ
๕๐ ปี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์นานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระราชพิธีกาญจนาภิเษกเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๙
จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ
ด้วยหัวใจจงรักภักดีของคนไทยทุกหมู่เหล่าที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงเป็นหลักของแผ่นดิน
พุทธศักราช ๒๕๔๙ ครบ ๖๐ ปี
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปกครองแผ่นดินไทยอย่างยิ่งยืนนานเป็นที่ประจักษ์ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงหนักที่สุด
ยากที่จะหาพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกเสมอเหมือน
พระราชกรณียกิจอันมากมายนั้นประดุจไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปยังความร่มเย็นให้พสกนิกรทุกหนแห่งบนแผ่นดินไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระราชจริยวัตรครบถ้วนด้วยทศพิธราชธรรม ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างหนัก
เพื่อประชาชนตามพระปฐมบรมราชโองการที่ประกาศไว้อย่างไม่มีสิ่งใดบกพร่องแม้เพียงนิดเดียว
พระองค์จึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเหนือดวงใจประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ทรงเป็นยิ่งกว่าพระนาม “พระเจ้าแผ่นดิน” และทรงเป็น
“พลังของแผ่นดิน” สมดังพระปรมาภิไธย “ภูมิพล”
ที่ประเทศไทยและคนไทยรักและเทิดทูนพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลกโดยแท้
ที่มา http://www.manager.co.th/
|