|
![]() |
|
ชื่อสามัญ Moke ชื่อวิทยาศาสตร์ Wrightia religiosa. วงศ์ APOCYNACEAE ชื่ออื่น โมกหลวง, มูกเกื้อ,โมกมัน ลักษณะทั่วไป โมกเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง พบตามเรือกสวนไร่นาและตามป่าเบญจพรรณทั่วๆ ไป ลำต้นมีความสูงประมาณ 5–12 เมตร ผิวเปลือกมีสีน้ำตาลดำ ลำต้นกลมเรียบมีจุดเล็กๆ สีขาวประทั่วต้น แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้นไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นใบเดียวออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบ มีขนาดเล็กรูปไข่ ปลายใบมนแหลม โคนใบแหลม คล้ายใบแก้ว เนื้อใบบางสีเขียว ออกดอกตามซอกใบเป็นช่อๆ ละ 3-5 ดอก โดยจะคว่ำหน้าลงสู่พื้นดิน มีทั้งดอกลา และดอกซ้อน ดอกสีขาว กลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่มีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร ออกดอกตลอดปี ฝักออกเป็นคู่มีขนาดเล็กยาวคล้ายฝักถั่วเขียวยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ลักษณะโค้งงอเข้าหากัน ภายในมีเมล็ดเรียงอยู่เป็นจำนวนมาก การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด การตอน การปักชำ หรือจะขุดล้อมจากธรรมชาติมาปลูกเลี้ยงก็ได้ แต่วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือการเพาะเมล็ด และการปักชำ การปลูก
การดูแลรักษา แสง ต้องการแสงแดดปานกลาง จนถึงแดดจัด หรือกลางแจ้ง น้ำ ต้องการน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5–7 วัน/ครั้ง ดิน ดินร่วนซุย ความชื้นปานกลาง ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1–2 กิโลกรัมต่อต้น ใส่ปีละ 4–6 ครั้ง โมก เป็นพันธุ์ไม้อีกชนิดหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับการทำไม้ดัด เนื่องจากมีทรงต้นที่สวยงาม และมีอายุยืนนาน |
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550
จัดทำโดย
นางสาว อรทัย
ภู่พิพัฒน์, นางสาว พอแก้ว รักษ์เธียรมงคล, นางสาว ศานิตา อัศวศรีวรกุล,
นางสาว
คุณภัทร สิทธิเชนทร์, นางสาว ดวงทิพย์ ลาวัณษ์เสถียร และ นางสาว อริศรา ชินพรทวีสุข
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
Copyright(c)
2007 Miss Oratai Pupipat, Miss Porkaew Ruktienmongkol, Miss Sanita Asavasriworakul,
Miss
Kunnapat Sitthishane, Miss Duangtip Lawanstiend and Miss Arisara Chinnaporntaweesuk.
All rights reserved.