Home ผู้จัดทำ หน้า 1 หน้า 2 หน้า 3 หน้า 4 หน้า 5
หน้า 6 หน้า 7 หน้า 8 หน้า 9 หน้า 10

วันเข้าพรรษา

align="cente">



    วันเข้าพรรษา คือ วันที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ แห่งใดแห่งหนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ฤดูฝนมีกำหนด 3 เดือนตามพระวินัยบัญญัติ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น โดยทั่วเรียกกันว่า จำพรรษา

      วันเข้าพรรษา กำหนดเป็น 2 ระยะ คือ

    1. ปุริมพรรษา คือ วันเข้าพรรษาต้น ตรงกับวันแรม 1 ค่ เดือน 6 ของทุกปี
    2. ปัจฉิมพรรษา คือ วันเข้าพรรษาหลัง สำหรับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ตรงกับวันแรม 1 คำ เดือน 8 หลัง


      1. ประวัติของวันเข้าพรรษา

          ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบัญญัติพระวินัยให้พระสงฆ์สาวกอยู่ประจำพรรษา เหล่า ิกษุสงฆ์จึงต่างพากันออกเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนาในที่ต่างๆ โดยไม่ย่อท้อทั้งในฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน ต่อมาชาวบ้านได้พากันติเตียนว่า พวกสมณะไม่ยอมหยุดพักสัญจรแม้ในฤดูฝนในขณะที่นักบวชในศาสนาอื่น พากันหยุดเดินทางในช่วงฤดูฝน การที่พระ ิกษุสงฆ์จาริกไปในที่ต่างๆ แม้ในฤดูฝน อาจเหยียบยำข้าวกล้าของชาวบ้านได้

            รับความเสียหาย หรืออาจไปเหยียบยำโดนสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ออกหาจินจนถึงแก่ความตาย เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง จึงได้วางระเบียบให้ ิกษุประจำอยูที่วัดเป็นเวลา 3 เดือน พระสงฆ์ที่เข้าจำนำพรรษาแล้วจะไปค้างแรมที่อื่นไม่ได้ แต่หากมีกรณีจำเป็น 4 ประการต่อไปนี้  ิกษุผู้อยู่พรรษาสามารถไปค้างที่อื่นได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา แต่ต้องกลับมา ายในคระยะเวลา 7 วัน

          1. ไปรักษาพยาบาล ิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย
          2. ไประงับไม่ให้ ิกษุสึก
          3. ไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์
          4. ทายกนิมนต์ไปฉลองศรับธาในการบำเพ็ญกุศลของเขา


          align="center">

          จำนวนผู้เข้าใช้งาน
          ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2549

          thaigoodview.com Version 13.0
          บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
          e-mail: webmaster@thaigoodview.com