อาหาร เกาหลี
.
.
.
............จุดเริ่มต้นของกิมจิ
เป็นที่เชื่อกันว่าการทำกิมจิเป็นการดองผักที่ถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 7 ในยุคนั้นช่วงฤดูหนาวในประเทศเกาหลี จะมีอากาศหนาวจัดไม่เหมาะกับการเพาะปลูก ชาวเกาหลีจึงคิดวิธีการถนอมอาหารขึ้น เพื่อมาทดแทนผักสดที่หาได้ยาก หนึ่งในนั้นคือการทำผักดองเค็มด้วยเกลือหมักในไหแล้วนำไปฝังดิน จึงเป็นจุดกำเนิดของกิมจิในยุคสมัยต่อมา
............กิมจิในสมัยอาณาจักรโคเรียว
มีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับกิมจิจากตำรายารักษาโรคทางภาคตะวันออกของประเทศ ที่เรียกว่า "ฮันยักกูกึบบัง" (Hanyakgugeupbang) ในตำรากล่าวถึงกิมจิอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกคือหัวผักกาดฝานเป็นแผ่นดองด้วยซอสถั่วเหลืองเรียกว่า "กิมจิ-จางอาจิ" (Kimchi-jangajji) ชนิดที่สองใช้หัวไชโป๊เรียกว่า "ซุมมู โซกึมชอลรี" (Summu Sogeumjeori) เป็นที่เชื่อกันว่าได้มีการปรับปรุงรสชาติของกิมจิให้จัดจ้านขึ้น อีกทั้งเริ่มได้รับความนิยมว่าเป็นอาหารแปรรูปจึงเริ่มมีการทำกิมจิตลอดทั้ง ปีโดยไม่กำจัดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเหมือนก่อน ทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นในสมัยอาณาจักรโคเรียวนี้
............กิมจิในสมัยโชซอน
เล่ากันว่ากิมจิที่มีในสมัยโชซอน ชาวบ้านจะใช้ผักใบเขียวมาดองกับเกลือหรือเกลือกับเหล้าเท่านั้นซึ่งเรียกว่า รสดั้งเดิม ในเวลาต่อมาช่วงต้นศตวรรษที่ 17 (หลังจากที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานในปี พ.ศ. 2135) จึงเริ่มมีการนำเข้าผักจากต่างประเทศ ส่วนพริกแดงจากญี่ปุ่นนำเข้ามาโดยพ่อค้าชาวโปรตุเกส พริกจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งในกิมจิหลังจากผ่านไปแล้ว 200 ปี ดั้งนั้นราวปลายสมัยราชวงศ์โชซอนสีของกิมจิจึงกลายเป็นสีแดง
ภายในราชสำนักโชซอนมีการทำกิมจิเพื่อใช้ถวายต่อกษัตริย์ใน ราชวงศ์โชซอนมีอยู่ด้วยกันสามชนิดได้แก่ "ชอทกุกจิ" (Jeotgukji) เป็นกิมจิที่ทำจากกะหล่ำปลีผสมกับปลาหมัก (ปลาหมักจะใช้เฉพาะคนชั้นสูงในสมัยนั้น) "คักดูกิ" (kkakdugi) เป็นกิมจิทำจากหัวผักกาด ส่วนชนิดสุดท้ายคือ "โชซอน มูซางซานชิก โยรีเจบ็อบ" (Joseon massangsansik yorijebeop) เป็นกิมจิน้ำตำราอาหารของราชสำนักโชซอน โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีการทำกิมจิน้ำโดยมีลูกแพร์เป็นส่วนผสมใช้ทำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นโดยเฉพาะ เพื่อทำถวายกษัตริย์โกชอง (Gojong) กษัตริย์องค์รองสุดท้ายของโชซอน เพราะพระองค์ทรงโปรดก๋วยเตี๋ยวเย็นผสมในกิมจิน้ำพร้อมด้วยน้ำซุปเนื้อ
............กิมจิในยุคปัจจุบัน
กิมจิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกาหลีดังนั้นเวลามีการเดินทางในต่าง แดนก็ไม่ลืมที่จะพกกิมจิติดตัวไปด้วย กิมจิจึงได้เริ่มแพร่หลายในวงกว้างโดยช่วงแรกเริ่มเข้าไปในประเทศใกล้เคียง ก่อนคือประเทศจีน รัสเซีย เกาะฮาวาย และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นชาติแรกที่นำกิมจิเป็นเครื่องเคียงในอาหารของชาติตนเองโดย เรียกกิมจิของตนเองว่า คิมุชิ (Kimuchi) เพื่อให้เข้ากับการออกเสียงในภาษาญี่ปุ่น และกิมจิชนิดนี้มีการเปลี่ยนแปลงรสชาติให้เข้ากับอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ต่อมากิมจิจึงเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ชาวต่างชาติในหลายประเทศ เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และไทย
............김밥 (คิมบับ) - ข้าวห่อสาหร่าย ตอนแรกจะเป็นแท่งยาวๆ แล้วเค้าก็จะหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ จิ้มกะโชยุญี่ปุ่นหรือวาซาบิก็ได้ ตามร้านอาหารก็จะมีทำเป็นพิเศษหน่อย คือมีผัดซอสมาให้จิ้มราดด้วย แล้วแต่ร้านทำ
.
.
............냉면 (แนง-มยอน) - บะหมี่เย็น ก็คือบะหมี่ที่อยู่ในน้ำซุปเย็น (พูดให้มันได้อะไรเนี่ย - -.) บางที่มีใส่น้ำแข็งด้วยอ่ะ เห็นเค้าบอกคนเกาหลีชอบกินตอนหน้าหนาว ประมาณว่ายึดหลักแบบหยินหยางมั้ง อากาศเย็น กินเย็น
.
.
............떡복이- ต๊อกโพกี เป็นอาหารที่ทำมาจากแป้งข้าว ซึ่งมีประวัติที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลีเชียว สมัยนั้น อาหารเป็นเรื่องใหญ่ (กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องนี่นา) เพื่อเป็นการถนอมอาหารและง่ายต่อการรับประทานแล้วยังให้พลังงานสูงอีกด้วย ด้วยรสชาติ และความทรงจำครั้งสมัยนั้น ไม่ว่าจะเมนูไหน ชาวเกาหลีจึงมักจะใส่ต๊อกโพกีลงไปด้วย จึงทำให้ ต๊อกโพกีอยู่คู่เกาหลีมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนประกอบ
.
.
http://www.jpopkpop-music.com/travel/wp-content/uploads/2009/02/003_4.jpg
............삼계탕 (ซัมกเยทัง) เป็นอาหารที่คนเกาหลีนิยมทานกันอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อบำรุงสุขภาพ และชูกำลัง โดยไก่สดมายัดไส้ด้วย โสมเกาหลี ข้าวเหนียวนึ่งสุก และเครื่องเทศต่างๆ โสมพุทราจีน กระเทียม ต้นหอม ยัดเข้าไปในตัวไก่แล้วตุ๋นกับน้ำซุปจนเนื้อไก่เปื่อยยุ่ยได้ที่ เสิร์ฟมาร้อนๆ ซดน้ำซุปรสออกจืดๆ น้ำต้มไก่ แต่จะมีเครื่องปรุงคือเกลือ พริกไทย และงาขาว ไว้ให้โรยเพิ่มรสชาติความเค็มไม่ให้จืดจนเกินไป
.
.
http://2.bp.blogspot.com/_wcEKzc3cZdI/SxDApaiyI-I/AAAAAAAAADs/MVpWA-479p4/s1600/2.jpg
............불고기 (พุลโกกี) เนื้อย่างเกาหลีอันเลื่องชื่อนั่นเอง คนที่ไปกินมาแล้ว การันตีทุกคนว่าเหนือชั้นกว่าหมูกระทะที่เมืองไทย เพราะจะเป็นเนื้อที่หมักอย่างดี และหอมหวานชวนน้ำลายสอ ถ้าไปกินหลายๆคน ต้องเกิดเหตุการณ์เอาตะเกียบตบกันแย่งเนื้อ
.
.
http://itviewpoint.com/files/attach/images/129/6131/kum.jpg
............자장면 (ชาจังมยอน) บะหมี่ดำ ที่อาจจะเห็นในหนังบ่อยๆ เวลากินแล้วจะเลอะปากไปหมด ดูแล้วหมดกัน ผู้หญิงมีหนวด!? ต้องเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้อย่าให้ขาดมือเชียว เดี๋ยวหนุ่มๆจะเบือนหน้าหนี อิอิ แต่รับรองว่าอร่อย แล้วก็ยังไว้กินย้อมใจช่วงขาดคู่ด้วย
.
.
http://c.ask.nate.com/imgs/qrsi.tsp/8850511/11801115/0/1/A/%EB%B6%95%EC%96%B4%EB%B9%B5.jpg
붕어빵 (พุง ออ ปัง) - ขนมปังรูปปลายัดไส้ ในรูปมีวิธีทำให้ดูด้วยนะ ทำได้หลายไส้เหมือนกัน ที่นิยมก็คือ ไส้ถั่วแดง ไส้ครีม กินร้อนๆ
.
.
.