• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:705d7aab7c197d2adf2e1ddcafb6fc18' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><dd><span style=\"color: #000000; font-family: Times New Roman; background-color: #cc99ff\">\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"color: #800080\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"font-size: x-small\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"background-color: #00ffff\">\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"font-size: x-small\"><span style=\"color: #99cc00\"><span style=\"font-size: 16pt\">\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"color: #800080\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"font-size: x-small\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"background-color: #cc99ff\">ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ </span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"background-color: #cc99ff\">14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาว ในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณีอย่างหนึ่ง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกัน และแต่งงานกันในที่สุด</span> <a target=\"_blank\" href=\"http://activity.sanook.com/valentine2008\"></a>\n<p align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<strong><span style=\"background-color: #99cc00\"> <span class=\"mw-headline\">การส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์</span></span></strong>\n</p>\n<p align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"background-color: #99cc00\"> มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย</span>\n</p>\n<p align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"background-color: #99cc00\">กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า &quot;ฉันรักเธอ&quot; </span>\n</p>\n<p align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"background-color: #99cc00\">กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ </span>\n</p>\n<p align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"background-color: #99cc00\">กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"background-color: #99cc00\">กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน</span>\n</p>\n<p>\n<img src=\"http://image.konmun.com/images/85226kapook-5713-7924.jpg\" alt=\"วันวาเลนไทน์ ประวัติวันวาเลนไทน์ ประวัติวาเลนไทน์ Valentine\'s Day\" />\n</p>\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"font-size: x-small; color: #800080; font-family: Times New Roman\"><a target=\"_blank\" href=\"http://activity.sanook.com/valentine2008\"><img border=\"0\" src=\"http://campus.sanook.com/story_picture/m/03357_055.gif\" /></a></span>\n</div>\n<p></p></span></span></span></span>\n</div>\n<p></p></span></span></span></span>\n</div>\n<p></p></span></span></span></span></span>\n</div>\n<p></p></span></dd>\n<dd><span style=\"color: #000000; font-family: Times New Roman; background-color: #cc99ff\">\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"color: #800080\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"font-size: x-small\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"background-color: #00ffff\">\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"font-size: x-small\"><span style=\"color: #99cc00\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"color: #800080\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"font-size: x-small\"><span style=\"font-size: 16pt\">\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"font-size: x-small; color: #800080; font-family: Times New Roman\"><span style=\"color: #ffa500\"><span style=\"background-color: #00ffff\">ถ้าจะเปรียบผู้หญิงเป็นดอกไม้<br />\nฉันคงไม่ใช่ดอกไม้สวยหวาน<br />\nและคงไม่ใช่ดอกไม้ที่หอมนาน<br />\nแต่จะปักในแจกัน...ได้ทนทานกว่าใครใคร\n<p> ดอกไม้อย่างฉัน...ไม่หอม..ไม่สวย<br />\nขอบคุณนะที่เธอช่วยเก็บมันเอาไว้<br />\nเพราะคุณค่าที่มี  วัดกันทีหัวใจ<br />\nและความรู้สึกที่ฉันจะมอบให้...รักเธอตลอดไปนานเท่านาน</p></span>   <br />\n          <a target=\"_blank\" href=\"http://activity.sanook.com/valentine2008\"><img border=\"0\" width=\"172\" src=\"http://campus.sanook.com/story_picture/m/03357_050.gif\" height=\"142\" style=\"width: 172px; height: 121px\" /></a></span></span>\n</div>\n<div align=\"justify\" style=\"text-indent: 10pt\">\n<span style=\"font-size: x-small; color: #800080; font-family: Times New Roman\">\n<p>\n<strong><span style=\"font-size: x-small; color: #cc66cc; background-color: #800080\">วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้</span></strong>\n</p>\n<p><a target=\"_blank\" href=\"http://activity.sanook.com/valentine2008\"></a></p></span>\n</div>\n<p></p></span></span></span></span></span></span></span></span>\n</div>\n<p></p></span></span></span></span></span>\n</div>\n<p></p></span></dd>\n', created = 1727468072, expire = 1727554472, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:705d7aab7c197d2adf2e1ddcafb6fc18' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ประวัตวาเลนไทน์

รูปภาพของ skk06560
ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาว ในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณีอย่างหนึ่ง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกัน และแต่งงานกันในที่สุด

 การส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์

 มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย

กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ"

กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์

กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน

กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน

วันวาเลนไทน์ ประวัติวันวาเลนไทน์ ประวัติวาเลนไทน์ Valentine's Day

ถ้าจะเปรียบผู้หญิงเป็นดอกไม้
ฉันคงไม่ใช่ดอกไม้สวยหวาน
และคงไม่ใช่ดอกไม้ที่หอมนาน
แต่จะปักในแจกัน...ได้ทนทานกว่าใครใคร

 ดอกไม้อย่างฉัน...ไม่หอม..ไม่สวย
ขอบคุณนะที่เธอช่วยเก็บมันเอาไว้
เพราะคุณค่าที่มี  วัดกันทีหัวใจ
และความรู้สึกที่ฉันจะมอบให้...รักเธอตลอดไปนานเท่านาน

   
         

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 361 คน กำลังออนไลน์