วิธีรับมือจักรวรรดินิยมจีนต่อธุรกิจไทย

รูปภาพของ pornchokchai
วิธีรับมือจักรวรรดินิยมจีนต่อธุรกิจไทย
  AREA แถลง ฉบับที่ 442/2566: วันพฤหัสบดีที่ 08 มิถุนายน 2566

 

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

 

            ตอนนี้ธุรกิจจีนขยายตัวอย่างบ้าคลั่งเข้ามาในประเทศไทย หลายคนกังวลว่าไทยจะกลายเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจของจีนไป เราจะรับมือจีนได้อย่างไรบ้าง

            เราต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่าจีนในขณะนี้เป็นจักรวรรดินิยมใหญ่ที่มีทุนมหาศาล รวมทั้งทุนมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนต้องส่งออกทุนมนุษย์ไปต่างประเทศ ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในสมัย “เจิ้งเหอ” ที่ดูแลกองเรือสำรวจทางทะเลถึง 28 ปี รวม 7 ครั้ง เดินทางมากกว่า 50,000 กิโลเมตร ท่องต่างแดนมากกว่า 37 ประเทศ โดยเริ่มต้นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 1948 (618 ปีก่อน) โดยการเดินทะเลในครั้งแรกมีเรือขนาดใหญ่ตามไปด้วย 60 ลำ ขนาดเล็ก 255 ลำ มีลูกเรือทั้งหมด 27,870 คน ที่ผ่านมาหลายครั้งได้ไปยังอาณาจักรจามปา ชวา มะละกา เกาะสุมาตรา เกาะลังกา และครั้งสุดท้ายไปไกลถึงทวีปแอฟริกา <1>

            จีนในอดีตก็ขยายอิทธิพลไปทั่ว เช่น กลืนซินเกียง กลืนทิเบต กลืนยูนาน กลืนแมนจูเรีย กลืนบางส่วนของมองโกเลีย แต่ก็มีหลายชาติที่เป็นเสมือนกึ่งเมืองขึ้น เช่น เวียดนาม และเกาหลี ที่ใช้ตัวหนังสือจีน จนกระทั่งต่อมาจึงมีภาษาเป็นของตนเอง จีนก็ยังเคยพยายามข้ามไปตีญี่ปุ่น แต่ไม่สำเร็จ อาจมีรัสเซียทางด้านเหนือ เมียนมา อินเดียและเนปาลทางใต้ของจีนที่จีนเคยทำสงครามด้วย แต่จีนไม่สามารถเอาชนะได้ จีนในสมัยมองโกลนอกจากจะบุกไปถึงยุโรปแล้ว ยังเคยบุกไปถึงเกาะชวา <2> แต่ไม่ประสบความสำเร็จ นับว่าประเทศไทยโชคดีที่ยังไม่ถูกบุก แต่ก็ต้องส่งบรรณาการแก่จีนเรื่อยมาในอดีต

            ในยุคปัจจุบัน เขาไม่ใช้กองกำลังทหารบุกกันแล้ว เขาใช้เทคโนโลยี ใช้เงินบุกหนักมาก เช่น อย่างในทวีปอาฟริกา จีนบุกหนักจนทำให้ประเทศต่างๆ ตกเป็นเบี้ยล่างด้วยการให้โครงการเงินกู้ระยะยาวเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และกลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้กลายเป็นประเทศกึ่งเมืองขึ้นของจีนไปแล้ว แม้แต่กรณีปากีสถาน ศรีลังกาก็ออกมาในทำนองเดียวกัน ลาว เมียนมา และกัมพูชาก็เช่นกัน หลังจากมีเหตุประท้วงการครอบงำของจีนที่ประเทศหมู่เกาะโซโลมอน จีนถึงขนาดส่งตำรวจจีนไปประจำการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนอยู่ที่นั่นด้วย แถมยังมีการส่งตำรวจหมู่เกาะโซโลมอนไปฝีกตำรวจในจีนอีกต่างหาก <3> ขณะนี้อิทธิพลจีนขยายตัวอย่างมากมายในประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกหลายแห่ง

            ในประเทศไทย มีพวกคนไทยเชื้อสายจีนบางส่วนที่มีสำนึกว่าตนเองคนจีนมากกว่าคนไทย โดยเฉพาะพวกคหบดีที่ค้าขายกับจีนจนร่ำรวย ตลอดจนนักวิชาการด้านจีน และ “สื่อมวลชนปีศาจ” ที่ตะบี้ตะบันเข้าข้างจีนอย่างไม่ลืมหูลืมตา พวกนี้พยายามที่จะช่วยจีนขยายอิทธิพลทางการค้า  ในโลกยุคใหม่นี้ มีเพียงจักรวรรดินิยมจีนที่ส่งออกประชากรไป “กินเมือง” ไปทั่วโลกพร้อมเงินและปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล ไม่ใช่ประเภทอพยพแบบเสื่อผืนหมอนใบในสมัยก่อน ยิ่งกว่านั้นการค้าขายก็เอาเปรียบชาวบ้านในแต่ละประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน  หลายคนบอกว่าเราพึงรับมือจีนด้วยการปรับตัวเพิ่มความรู้ เพิ่มทักษะ ซึ่งเป็นข้อแนะนำแบบกำปั้นทุบดิน ทำไปก็ไม่มีวันสำเร็จกับกระแสจักรวรรดินิยมที่เชี่ยวกรากของจีน

            เราจะรับมือจีนได้ ก็ต่อเมื่อ:

            1. เราต้องให้นักลงทุนจีนปฏิบัติตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด จะมาตั้งนอมินีแสร้งเป็นบริษัทคนไทยแล้วมาซื้อบ้าน ที่ดินและห้องชุดไปทั่ว หรือประกอบธุรกิจทำ “ล้ง” ซื้อสินค้าเกษตรสารพัดไม่ได้ รัฐบาลไทยต้องจับ-ปรับคนจีนทำผิดกฎหมายนี้  อย่างไรก็ตามกลับปรากฏว่ามีคนไทยใจ (ทาส) จีนบางคนกลับเสนอให้นิรโทษกรรมหรือเลิกถือว่าการตั้งนอมินีเป็นสิ่งผิดกฎหมายไป

            2. การตรวจสอบการทำงานของข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น พบเจ้าหน้าที่ใดรู้เห็นกับการทำนิติกรรมอำพรางแบบนอมินี หรือปล่อยให้มีการสวมบัตรประชาชนคนไทยอย่างผิดกฎหมาย ต้องลงโทษตามกฎหมาย จะได้ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ยิ่งกว่านั้น หากพบนักวิชาชีพ เช่น ทนายหรือนักวิชาชีพอื่นที่สมคบกับคนจีนหรือคนต่างชาติอื่นใด จัดตั้งบริษัทนอมินี รัฐบาลใหม่ก็ควรยึดใบประกอบวิชาชีพเสีย

            3. ในการป้องกันการผูกขาดแบบล้งจีน รัฐบาลพึงให้เกษตรกรทั้งลำไย ทุเรียน มังคุดหรือพืชผักผลไม้อื่นๆ ในแต่ละท้องถิ่นจัดตั้งเป็นสหกรณ์ขึ้นมา และให้นักธุรกิจจีนติดต่อกับสหกรณ์เหล่านี้ ไม่ปล่อยให้ไปบีบซื้อขายตรงกับเจ้าของสวน อย่าไปเกรงใจจีนที่ราคาสินค้าต้นทางนี้จะสูงขึ้นสัก 10-20% เพราะเมื่อเขานำไปขายในจีน ราคาเพิ่มขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งกว่านั้นยังควรสนับสนุนให้สหกรณ์มีเงินทุนเพียงพอที่จะให้กู้กับเกษตรกร ผลผลิตจะได้ไม่ถูก “ตกเขียว” ตั้งแต่แรก

            4. ปรับปรุงระบบกฎหมายเสียใหม่ เช่น

            4.1 ทำแบบไต้หวัน คือต่างชาติที่มาซื้อห้องชุด ต้องไม่ขายต่อในระยะเวลา 3 ปีแรก เพื่อป้องกันมามาเก็งกำไร

            4.2 ทำแบบออสเตรเลียที่ให้ต่างชาติซื้อขายได้แต่บ้านมือหนึ่ง บ้านมือสองห้ามแตะ จะได้ไม่มาแย่งซื้อบ้านกับคนในประเทศ และหากต่างชาติขายบ้านที่ซื้อไว้กันเอง (ซึ่งมีสถานะเป็นบ้านมือสองแล้ว) ถือว่าผิดกฎหมาย ออสเตรเลียสั่งปรับคนละประมาณ 3 ล้านบาท และติดคุก 3 ปี ส่วนขณะนี้นิวซีแลนด์และแคนาดาสั่งห้ามต่างชาติไปซื้อบ้านแล้วเพราะความจริงไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดังอ้าง เขากลัวจีนจะไปครอบงำ

            4.3 ทำแบบมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยกำหนดให้ต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ในราคาที่สูงกว่าคนทั่วไป จะได้ไม่มาแย่งคนในชาติซื้อบ้าน เช่น มาเลเซียกำหนดราคาบ้านที่ต่างชาติจะซื้อต้องไม่น้อยกว่า 8-16 ล้านบาท แต่ในไทยต่างชาติซื้อบ้านในราคาพอๆ กับคนไทยซื้อ อย่างนี้เป็นการปล่อยให้ต่างชาติมาแย่งซื้อบ้านกับคนไทย เพียงเพื่อเห็นแก่นักพัฒนาที่ดินบางรายที่ค้าขายกับคนต่างชาติเท่านั้น

            4.4 ยกเลิกประกาศของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ที่ให้ต่างชาติที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสามารถซื้อที่ดินได้ 5 ไร่ (นอกนิคมอุตสาหกรรมตรงไหนก็ได้) แถมซื้อที่ดินได้ 10 ไร่ไว้ให้ผู้บริหารอยู่ และอีก 20 ไร่ให้คนงานของกิจการนั้นอยู่ โดยอาจตั้งอยู่คนละที่กันก็ได้ ประกาศนี้ถือเป็นประกาศ “ขายชาติ” อย่างชัดเจน

            4.5  เลิกระเบียบของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีที่ให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ถึง 99 ปีและซื้อห้องชุดได้ถึง 100% แถมใช้เงินตราต่างประเทศในไทยได้อีกต่างหาก

            5. ปรับปรุงระบบภาษีเสียใหม่โดยใช้เฉพาะคนต่างชาติที่มาซื้อบ้านในไทย ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับที่คนไทยไปซื้อบ้านในต่างประเทศ เช่น

            5.1 ทำแบบสิงคโปร์ที่เก็บภาษีคนต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ 60% ของราคาตลาดเพื่อป้องกันการครอบงำของจีน หรืออย่างน้อย ก็เก็บ 30% ในกรณีของฮ่องกง

            5.2 จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ 1-3% ของราคาตลาดจริงทุกปี (แต่ในไทยเก็บตามราคาประเมินราชการซึ่งต่ำมากแถมยกเว้นบ้านราคา 50 ล้านบาทแรกตามราคาประเมินราชการ)

            5.3 จัดเก็บภาษีกำไรจากการขายที่ 20% ของราคาตลาดจริง

            5.4 จัดเก็บภาษีมรดก เช่น ที่ญี่ปุ่น ทรัพย์สินที่มีราคาตลาดจริง 150 ล้านบาทขึ้นไป จะถูกจัดเก็บในอัตราสูงสุดถึง 55% ของราคาตลาดจริง (แต่ในไทยเก็บตามราคาประเมินราชการที่ต่ำมากๆ แถมยังเก็บตั้งแต่ทรัพย์ที่มีราคา100 ล้านบาทขึ้นไปตามราคาประเมินราชการ)

            6. ตรวจสอบการประกอบกิจการของคนต่างด้าวอย่างเคร่งครัด  ไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย หรือชาติอื่นใด โดยผู้ตรวจสอบอาจเป็นกองปราบปราม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรืออื่นใด แต่ไม่ใช่ตำรวจท้องถิ่นเพื่อป้องกันการทุจริต และกองกำลังตรวจสอบของหน่วยงานเหล่านี้ก็ควรได้รับการตรวจสอบเป็นระยะๆ เช่นกันเพื่อป้องกันการทุจริต

            7. ไทยอาจใช้มาตรการเฉพาะกับคนจีน เช่น รัฐบาลไทยอาจให้คนจีนซื้อห้องชุดอยู่ได้ไม่เกิน 70 ปี เช่นที่รัฐบาลจีนให้สิทธิแค่นี้แก่คนจีนในประเทศจีนเอง หรือให้คนอื่นเช่าที่ดินได้ไม่เกิน 30-50 ปีเพื่อประกอบธุรกิจ (ไม่ให้ซื้อหรือเช่ายาวกว่านี้) นอกจากนี้ยังพึงส่งเสริมให้คนงานไทยในโรงงานจีนตั้งสหภาพแรงงานให้ครบทุกแห่ง เหมือนกับที่จีนสั่งโรงงานต่างชาติให้ยอมให้มีการตั้งสาขาพรรคคอมมิวนิสต์จีนในแต่ละโรงงาน

            ถ้าไทยไม่รีบออกมาตรการป้องกัน ไทยก็จะเป็นมณฑลหนึ่งของจีนในไม่ช้า

 

           

อ้างอิง

<1> เจิ้งเหอ https://rb.gy/3lhhy

<2> จีนในยุคมองโกบุกชวาหลายครั้ง https://en.wikipedia.org/wiki/Mongol_invasion_of_Java และ https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Chinese_wars_and_battles

<3> ข่าวเกี่ยวกับตำรวจจีนในประเทศหมู่เกาะโซโลมอน https://www.aljazeera.com/news/2022/5/3/solomon-islands-says-it-will-restrict-chinese-police

 

 

 
 
 
 
 
 


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 133 คน กำลังออนไลน์