สิ้นชาติเพราะคนต่างศาสนาหรือคนไทยเชื้อจีน?

รูปภาพของ pornchokchai
สิ้นชาติเพราะคนต่างศาสนาหรือคนไทยเชื้อจีน?
  AREA แถลง ฉบับที่ 398/2566: วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566

 

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

 

            ตอนนี้คนไทยบางส่วนกำลังวิตกว่าคนต่างศาสนา จะทำให้ไทยสิ้นชาติหรือมากลืนชาติไทย แต่แท้จริงแล้วคนที่จะทำให้ไทยสิ้นชาติอาจเป็นคนไทยเชื้อสายจีน (บางคน) ถึงวันนั้นอสังหาริมทรัพย์ไทยคงอยู่ในกำมือของคนต่างชาติ (แต่ดูไม่ต่างศาสนา!)

            เพื่อนของผมที่เป็นระดับนายกสมาคมและกรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาบอกว่าขณะนี้บริษัทพัฒนาที่ดินจีนยึดหัวหาดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงพนมเปญไปแทบหมดแล้ว ที่นักลงทุนกัมพูชายังพอทำได้ ก็จะเป็นพวกบ้านแนวราบ คือ บ้านเดี่ยวและตึกแถว ตลอดจนการจัดสรรที่ดินเปล่าๆ เพื่อให้คนเขมรไปซื้อเก็บไว้เก็งกำไร แต่ตลาดอาคารชุดกลับกลายเป็นของต่างชาติ เช่น เกาหลี และโดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่  ยิ่งที่เมืองสีหนุวิลล์ ไม่ใช่เป็นแค่ China Town หรือย่านเล็กๆ ของคนจีนในเมือง แต่เป็น China City หรือเมืองของคนจีนไปแล้ว แล้วอย่างนี้นักพัฒนาที่ดินกัมพูชาและชาวบ้านจะมีที่ยืนได้อย่างไร

            ผมไปประเมินค่าทรัพย์สินที่เมียนมาเป็นระยะๆ นักวิชาชีพที่เป็นนักพัฒนาที่ดิน นายหน้าต่างก็บอกเหมือนกันว่า นักลงทุนจีนแห่กันไปซื้อบ้าน และอสังหาริมทรัพย์ตามเมืองต่างๆ กันมากมาย เข้าทำนองไปยึดบ้าน ยึดเมืองของเขาก็ว่าได้ ที่เมียนมาและลาวหนักหน่วงมากเพราะอยู่ติดกับจีน แต่ทั้งสองประเทศนี้ก็มีสภาพไม่ต่างจากในกัมพูชา  นี่แสดงว่าอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในลาว กัมพูชา เมียนมา “เรียบร้อยโรงเรียนจีน” ไปมหาศาลแล้ว

            อย่างไรก็ตามที่เวียดนามแตกต่างกัน จีนเข้าครอบงำได้ยาก เพราะอย่างน้อยรัฐบาลเวียดนามก็เข้มแข็งและรักชาติมากพอสมควร  เมื่อกลางปี 2561 มีเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ในหลายเมืองของเวียดนาม (https://bit.ly/2E40lwO) ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลยหลังสงครามเวียดนาม โดยครั้งนี้เป็นการประท้วงที่รัฐบาลมีแผนจะให้ต่างชาติเช่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นเวลาถึง 99 ปี ประชาชนต่างรู้ว่าผู้ที่จะไปเช่าก็คือนักลงทุนของจีนเพราะตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีน จนในที่สุดรัฐบาลต้องยอมยกเลิกการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว

            ข้อสังเกตประการหนึ่งก็คือเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวมีขนาดเล็กๆ ไม่กี่ตารางกิโลเมตร แต่เขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยในนามระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ครอบคลุมหลายจังหวัด  นี่ไทยกำลังจะเสียดินแดนไปทั้งภาคหรืออย่างไร อาจกล่าวได้ว่าผู้ปกครองที่อ่อนแอย่อมถูกครอบงำโดยทุนต่างชาติ หรือในบางประเทศ ผู้ปกครองเหล่านี้อาจได้รับอามิสสินจ้างในรูปแบบต่างๆ ให้ทรยศต่อแผ่นดิน ทรยศต่อคนในชาติก็เป็นได้ จึงไม่ออกกฎหมายปกป้องชาติและประชาชนของตนเอง ต่างจากในแคนาดา นิวซีแลนด์กลับห้ามคนต่างชาติไปกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป หรือออสเตรเลียก็ให้ต่างชาติซื้อบ้านในโครงการใหม่ได้ แต่เมื่อขายต่อต้องขายให้คนออสเตรเลียเท่านั้น ห้ามต่างชาติซื้อขายบ้านมือสอง เพื่อไม่ให้ราคาบ้านแพงจนชาวบ้านจับต้องไม่ได้

            เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566 ผมในนามประธานสาขาที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ของสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI) ซึ่งเป็นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผมยังเป็นนายกสมาคม FIABCI-Thai ได้จัดสัมมนาว่าด้วยการให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในยุโรป อันได้แก่ เยอรมนี สเปน อิตาลี และในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าในประเทศเหล่านี้มีระบบภาษีที่ดีที่ป้องกันการบุกรุกของทุนจีน แตกต่างจากในประเทศอินโดจีนรวมทั้งประเทศไทยของเรา เช่น

            1. มีภาษีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 10-20% โดยเฉพาะหากซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่บ้าน เช่น กิจการไปประกอบธุรกิจ ต้องเสียภาษีอย่างหนัก

            2. มีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรายปี ประมาณ 1-3% ของมูลค่าตลาด แต่ของไทยเก็บที่ 0.02% ของราคาประเมินราชการซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดมาก และต้องเป็นบ้านที่มีราคา 50 ล้านบาทตามราคาประเมินราชการขึ้นไปจึงจะเสียภาษีนี้ เรียกว่าแทบไม่เก็บภาษีคนต่างชาติเลย

            3. ประเทศตะวันตกยังเก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ ไทยเราก็แทบไม่เก็บ มีส่วนลดมากมายและเก็บตามราคาประเมินราชการซึ่งต่ำมาก

            4.  ภาษีมรดกของไทยก็แทบไม่ได้เก็บเลย จะเก็บก็ต่อเมื่อกองมรดกมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาทตามราคาประเมินราชการที่ต่ำกว่าราคาตลาดมาก

            ดังนั้นการที่รัฐบาลไม่เก็บภาษีคนต่างชาติเช่นที่คนไทยไปซื้อบ้านในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ต้องเสียภาษีนั้น ก็เท่ากับเรา “ขายชาติ” อยู่กลายๆ  รัฐบาลที่อ่อนแอลงอาจถูกสั่งให้อำนวยความสะดวกแก่การซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติ เช่นที่ฮ่องกง แต่เดิมทั้งฮ่องกงและสิงคโปร์ต่างมีนโยบายว่าต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยฮ่องกงเก็บภาษี 30% ส่วนสิงคโปร์เก็บภาษีซื้อ 60% เพื่อป้องกันการครองงำของต่างชาติโดยเฉพาะทุนจีน แต่วันนี้ผู้ปกครองฮ่องกงซึ่งอยู่ในความควบคุมของจีนกำลังจะทบทวนว่าจะลดภาษีนี้ (https://bit.ly/3LoJPu8) นัยยะเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเพื่อให้ทุนจีนมายึดฮ่องกงได้สะดวกขึ้น!

            ย้อนกลับมาเรื่องที่ว่าไทยกำลังมีคนต่างศาสนามาทำลายชาติจริงหรือ เรื่องนี้มองได้หลายแง่มุมและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ในเชิงหลักการแล้วเป็นไปไม่ได้ที่คนต่างศาสนาจะมาครอบงำไทยได้  การที่คนต่างศาสนาแผ่เข้ามาในภูมิภาคนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อนก็เพราะในขณะนั้นจักรวรรดินิยมของคนต่างศาสนากำลังเฟื่องฟู จึงมีกำลังหนุนช่วยให้เกิดการแผ่ขยายได้  แต่ในปัจจุบันไม่มีจักรวรรดินิยมของศาสนาดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกันโลกกลับมีจักรวรรดินิยมจีนเกิดขึ้นและแผ่ขยายอิทธิพลอย่างเด่นชัดต่างหาก

            หัวหอกสำคัญในการทะลวงฟันเข้ามาก็คือ “คนไทยเชื้อสายจีน” บางส่วนโดยเฉพาะที่เป็นระดับเจ้าสัว ปัญญาชน พวกนี้ภูมิใจในความเป็นจีน ไม่ได้มีสำนึกในความเป็นคนไทย ไม่ได้รู้คุณแผ่นดินเกิด (บุญคุณของประชาชนไทย) แถมอาจรู้สึกดูถูกคนไทยและวัฒนธรรมไทย เช่นดูถูกคนไทยว่าเป็น “หมูสยาม” หรือ “คนไร้เป้ากางเกง” (เพราะคนไทยใส่ผ้าถุง) พวกนี้จึงอันตราย ไม่เหมือนคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ที่สำนึกบุญคุณแผ่นดินเกิด จีนคงได้เรียนรู้จากการประกาศเอกราชของสหรัฐอเมริกา ที่คนอังกฤษในอเมริกาแท้ๆ กลับก่อกบฏแยกอเมริกาออกจากจักรวรรดินิยมอังกฤษเมื่อ 247 ปีก่อนเพราะคนเหล่านั้นไม่รู้สึกตนเป็นอังกฤษอีกต่อไป จีนก็พยายามให้ผลประโยชน์ต่างตอบแทนแก่คนไทยเชื้อสายจีนบางส่วนนี้เพื่อสนับสนุนและไม่ขัดขวางต่อการขยายอิทธิพลของจีนในไทย

            ผมเคยบอก ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ เจ้าของสถาบันสร้างชาติว่าเราจะสร้างชาติได้จริงก็ต่อเมื่อเราแก้ไขปัญหาการผูกขาดอำนาจและการรุกของจักรวรรดินิยม  หาไม่ผู้ปกครองอาจร่วมมือกับจักรวรรดินิยมกดขี่คนไทยเอง  หลายคนยอมรับการบุกของจีนและบอกว่าทางออกคือเราต้องปรับตัวยกระดับความสามารถในการแข่งขัน แต่นั่นคือทางออกแบบกำปั้นทุบดิน ในขณะที่รัฐบาลจีนสนับสนุนการรุกออกนอกประเทศของทุนจีน ผู้ปกครองไทยกลับไม่ยอมรักษากฎหมายเท่าที่ควร เช่น ไม่ปราบปรามการใช้นอมินีมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ปล่อยจีนเทาเต็มเมือง ปล่อยให้มีการตั้งล้งซื้อสินค้ากึ่งผูกขาดกดราคา แบบนี้ไม่ช้าไทยก็คงกลายเป็นเมืองขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

            นี่แหละคนที่จะทำให้ไทยเป็นเมืองขึ้นหรือประเทศราชก็คือ คนไทยเชื้อสายจีน จำนวนหนึ่งที่ช่วยจักรวรรดินิยมจีน

 

 

 
 
 
 
 
 


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 331 คน กำลังออนไลน์