การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21

ชื่อเรื่อง          การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21

                     กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้วิจัย             ณิชาวีร์  สว่างพนาพันธุ์

ปีการศึกษา      2563 

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง  ที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์)    2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) และ 3) เพื่อศึกษา ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง โดยการสอบถามผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดเทศบาลตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 5 คน ระยะที่ 2 การตรวจสอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยการสอบถามผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 5 คน และครูผู้สอน จำนวน 20 คน ระยะที่ 3 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยประเมินสมรรถนะครูและความพึงพอใจของครูผู้สอนโรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) จำนวน 10 คน ประเมินพฤติกรรมด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) จำนวน 61 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบ 2) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ของรูปแบบ 3) แบบประเมินสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ 4) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบ และ 5) แบบประเมินพฤติกรรมด้านทักษะชีวิตของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และใช้สถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) พบว่า 1) นโยบาย เป้าหมายการพัฒนาประเทศและการพัฒนาการศึกษามีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน คือ ต้องเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ โดยเร่งพัฒนาคนทุกช่วงวัยให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21  การพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 นั้น มีความสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประกอบด้วย หลักคิด 3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 2) การบริหารสถานศึกษาในปัจจุบันจำเป็นต้องก้าวให้ทันโลกศตวรรษที่ 21 คือ มุ่งเน้นในการพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะด้านการบริหารงานวิชาการซึ่งถือเป็นภารกิจหลักและเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนสถานศึกษา 3) การบริหารงานวิชาการในโรงเรียนขนาดเล็ก มักประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งด้านการบริหารหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล และการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา เนื่องจากครูผู้สอนมีจำนวนน้อยและครูบางส่วนขาดศักยภาพ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ

2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า “POAME Plus 3 Model" ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ 4) กระบวนการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 Planning (P) การวางแผนการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 2 Organizing (O) การจัดองค์การ ขั้นตอนที่ 3 Active Learning (A) การจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 4 Motivating (M) การจูงใจ และขั้นตอนที่ 5 Evaluation (E) การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้และการรายงานผลการสอนของครู

ผลการตรวจสอบความสมเหตุสมผลและความสอดคล้องของรูปแบบ พบว่า รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก แบบ “POAME Plus 3 Model" มีความสมเหตุสมผลกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่นำมาใช้ในการสังเคราะห์รูปแบบ มีความสอดคล้องกับสภาพความต้องการและจำเป็นในการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนขนาดเล็กและสภาพบริบทของโรงเรียนขนาดเล็กที่สังกัดเทศบาลตำบล องค์ประกอบของรูปแบบและการดำเนินการตามองค์ประกอบมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน

ผลการตรวจสอบความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ พบว่า ในภาพรวม รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก แบบ “POAME Plus 3 Model" มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ อยู่ในระดับมากทั้ง 3 ด้าน

3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) มีดังนี้   1) ผลการประเมินสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ พบว่า ในภาพรวม ครูมีพฤติกรรม/การปฏิบัติ เป็นส่วนใหญ่ 2) ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบ พบว่า ในภาพรวม ครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก แบบ “POAME Plus 3 Model" อยู่ในระดับมาก และ 3) ผลการประเมินพฤติกรรมด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนจากการใช้รูปแบบ พบว่า ในภาพรวม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีระดับคะแนนพฤติกรรมเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 270 คน กำลังออนไลน์