ระบบพลังลมปราณในการร้องเพลง (Pulmonary system)
การหายใจสำหรับการพูดธรรมดา
และ การหายใจสำหรับการร้องเพลง มีความแตกต่างกันมาก
เพราะต้องใช้ความจุปอดที่มากกว่าเพื่อให้สามารถปล่อยลมหายใจออกได้ยาวนานและคงที่
เพียงพอกับช่วงประโยคของท่อนเพลงที่ร้อง
ในคนปกตินั้นหายใจเข้าได้สุดประมาณ 6-7 ลิตร
หายใจออกสุดจะมีปริมาตรเหลืออยู่ในปอดประมาณ 1.5-2
ลิตร คิดได้ความแตกต่างประมาณ 5 ลิตร
นั่นคือ vital capacity (VC)
ซึ่งในเวลาปกติเราจะมีความแตกต่างน้อยกว่านี้
เพราะเราจะหายใจเข้าและออกไม่ถึงที่สุดของปริมาตรนั้น
ในภาวะปกติ การหายใจเข้าโดยใช้กล้ามเนื้อหายใจและการหายใจออกจากแรง
elastic
recoid (ดีดกลับ) ของปอดและช่องอก
จะให้ความเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ประมาณ 35-50% ของ VC
ในการร้องเพลงต้องใช้ความจุปอดตั้งแต่ระดับ
5 % VC จนถึง 100% VC
ทำให้ต้องจัดการกับ Positive และ negative recoid
ของปอดและช่องอก รวมถึงกระบังลมและกล้ามเนื้อช่วยหายใจ
ซึ่งทำให้การร้องเพลงมีลักษณะที่ต่างจากการหายใจปกติ คือ
มีระยะหายใจเข้านานกว่าหายใจออก
แต่ในการร้องเพลงจะมีระยะหายใจออกนานกว่าระยะหายใจเข้า
การฝึกการหายใจสำหรับการร้องเพลงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ศัพท์เกี่ยวกับการร้องเพลงจะเรียกองค์ประกอบที่ช่วยให้ลมหายใจยาวขึ้นว่า
support
โดยเริ่มจากการจัดท่าทางในการร้องเพลงให้ถูกต้อง
โดยมีหลักการคือให้กล่องเสียงอยู่ในทางตั้งตรงไม่เอนไปหน้าหรือหลัง
หลังตรงเพื่อให้ช่องอกมี elastic recoid ดีที่สุด
หย่อนกล้ามเนื้อท้อง เพื่อให้กระบังลมสามารถเคลื่อนขึ้นลงได้ดีที่สุด
ปัจจุบันท่ายืนในการร้องเพลงนั้นในบางโรงเรียนสอนร้องเพลงจะสอนให้แอ่นส่วนท้องมาด้านหน้าเล็กน้อย
(abdominal-out position ปกติเป็น abdominal-in position)
เพื่อให้ช่องท้องและกระบังลมหย่อนกว่าท่าตรงปกติ แต่จากงานวิจัยของ
Jenny Iwarsson พบว่าการหย่อนของกระบังลมในท่า
abdominal-in position
จะทำให้กระบังลมหย่อนมากกว่า